In Bangkok
Chang Night Fight Clubถนนข้าวสาร ให้กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวง'มวยไทย'
กรุงเทพฯ-เปิดงาน Chang Night Fight Club ถนนข้าวสาร ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของ “มวยไทย” ระบือไกลไปทั่วโลก
(23 ก.ย.67) พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน Chang Night Fight Club โดยมีนายโกศล สิงหนาท ผู้อำนวยการเขตพระนคร นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผู้กำกับสน.ชนะสงคราม นายกุลธวัช เขียวสุข ผู้ช่วยผู้จัดการภาคการขาย บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารเขตพระนคร ร่วมงาน ณ ถนนข้าวสาร เขตพระนคร
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำหรับการแข่งขันกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่รวมตัวผู้ที่รักในศิลปะการต่อสู้ ความท้าทาย และความมุ่งมั่นในการเอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง และยังเป็นเวทีที่สำคัญในการแสดงออกถึงวัฒนธรรรม และเอกลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว Soft Power Fighting ศิลปะการป้องกันแบบไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีโลก อีกทั้ง ยังเป็นการวางรากฐานความเข้มแข็งในเชิงวัฒนธรรม จนนำไปสู่การสร้างรายได้เชิงเศรษฐกิจอย่างแท้จริง กิจกรรมในค่ำคืนนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ความมีวินัย และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันผ่านศิลปะมวยไทย ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการต่อสู้เพื่อชัยชนะใจตัวเอง แต่ยังเป็นการสู้เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยบนเวทีสากลอีกด้วย
"มวยไทยเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย สามารถสร้างรายได้ให้กับย่าน ให้กับเมือง และให้กับประเทศ การจัดงานที่ข้าวสารในวันนี้จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และถนนข้าวสารแห่งนี้ยังมีสิ่งดี ๆ อีกหลายอย่าง ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนเมื่อมากรุงเทพมหานคร" ปลัด กทม. กล่าว
เนื่องด้วยเศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในช่วงชะลอตัว อีกทั้งเป็นช่วง Low Season ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวถนนข้าวสารมีจำนวนลดลง เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวและเป็นการฟื้นฟูส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารจึงจัดงาน Chang Night Fight Club ถนนข้าวสารขึ้น ในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 – 21.00 น. ณ ถนนข้าวสาร เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้มาเที่ยวถนนข้าวสาร และเป็นการเพิ่มรายได้ ส่งเสริมการขายให้กับถนนข้าวสาร
การจัดงานครั้งนี้ได้เล็งเห็นว่า “มวยไทย” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทยที่สืบทอดกันมานาน เป็นทั้งการต่อสู้ป้องกันตัว อีกทั้งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทยที่ดี ซึ่งการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อกรุงเทพมหานครในฐานะเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การท่องเที่ยว อีกทั้งมวยไทยเป็นสื่อบันเทิงที่เข้าถึงคนไทยและชาวต่างชาติทุกชนชั้น เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีความสามารถและชื่นชอบในการต่อสู้ เพื่อตอกย้ำว่าประเทศไทยเป็นเมืองหลวงของมวยไทย และส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์มวยไทยอีกทางหนึ่งด้วย