Authority & Harm
เรือนจำนครปฐมจัดฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง ออกแบบอาหารเพื่อส่งผลงานประกวด
นครปฐม-เรือนจำกลางนครปฐม จัดฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังด้านการออกแบบอาหารร่วมส่งผลงานเข้าประกวด Gourmand World CookbookAwards
วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น. นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังด้านการออกแบบอาหาร พร้อมด้วยนางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายสุทธิพงษ์ สุริยะ (อ.ขาบ) Food stylist รางวัลออสการ์อาหารโลก เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว โดยมี ดร.ขวัญชัย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ให้การต้อนรับ
ปัจจุบันเรือนจำกลางนครปฐมได้ดำเนินการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ด้านการฝึกอบรมวิชาชีพในหลากหลายสาขาวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ต้องขังมีความรู้ สามารถนำไปประกอบวิชาชีพได้ภายหลังพ้นโทษ โดยสาขาการทำอาหาร (Cooking) เป็นอีกหนึ่งสาขาที่ผู้ต้องขังให้ความสนใจ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเรือนจำกลางนครปฐมได้ประสานขอความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ขอการสนับสนุนวิทยากรที่มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถอันเป็นที่ยอมรับในวงการอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ เข้ามาอบรมฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องรวมถึงด้านการออกแบบอาหารจากนายสุทธิพงษ์ สุริยะ (อ.ขาบ) Food Stylist รางวัลออสการ์อาหารโลก มาร่วมให้ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบอาหารให้แก่ผู้ต้องขังได้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มีความน่าสนใจและสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่อาหารซึ่งจากการดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานด้านการประกอบอาหารผู้ต้องขังของเรือนจำกลางนครปฐม ทำให้ได้รับใบประกาศมาตรฐาน GMP in Mass Catering (ครัวผลิตอาหารสำหรับคนหมู่มาก) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 และได้ต่อยอดจากการดำเนินการดังกล่าว นำไปสู่การเสนอผลงานเข้าร่วมประกวด gourmand world cookbook awards (รางวัลออสการ์อาหารโลก) ในปี 2567 นี้อีกด้วย ถือเป็นใบประกาศที่สร้างขวัญกำลังใจ และความภาคภูมิใจให้กับผู้ต้องขังเป็นอย่างยิ่ง
โดยกิจกรรมในครั้งนี้ นายสุทธิพงษ์สุริยะ (อ.ขาบ) Food stylist รางวัลออสการ์อาหารโลกวิทยากรที่มีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญ ได้เข้ามาให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมร่วมออกแบบและประกอบอาหารร่วมกับผู้ต้องขัง เพื่อถ่ายทำภาพประกอบรูปเล่มส่งเข้าประกวด Gourmand World Cookbook Awards ซึ่งกิจกรรรมดังกล่าวถือเป็นการสนับสนุนให้โอกาสกับผู้ต้องขัง ได้นำความรู้ไปเป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพสุจริต สามารถหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวภายหลังพ้นโทษ เพื่อสร้างโอกาสและได้รับการยอมรับจากสังคม โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก