In Bangkok

กทม.เร่งติดตั้งคันยางกั้นช่องเดินรถBRT ลดระดับความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ



กรุงเทพฯ-นายไวทยา นวเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กล่าวกรณีมีข้อสังเกตขอบยางแบ่งช่องจราจรรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) กับถนนปกติ เริ่มหลุดลอกชำรุดบางส่วนเนื่องจากมีทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าไปวิ่งในช่องทางรถ BRT แล้วขับเหยียบยางออกมาในช่องทางปกติว่า สจส. อยู่ระหว่างติดตั้งคันยางกั้นช่องเดินรถ BRT ปัจจุบันยังดำเนินการไม่ครบถ้วนตามสัญญา (สิ้นสุดสัญญาวันที่ 10 พ.ย. 67) หากมีการชำรุดเสียหายจะเร่งดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนสิ้นสุดสัญญา สำหรับรูปแบบของคันยางกั้นช่องเดินรถโดยสาร BRT เดิมใช้เป็นแท่งคอนกรีต เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นส่งผลให้ระดับความรุนแรงของอุบัติเหตุมีระดับสูง ทำให้ผู้ประสบอุบัติเหตุมีโอกาสได้รับบาดเจ็บรุนแรง หรือเสียชีวิต จึงเปลี่ยนมาใช้วัสดุเป็นยาง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถลดระดับความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ 

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในฐานะเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานครได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 139 (1) แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ออกข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานครว่าด้วยการกำหนดช่องทางเดินรถสำหรับรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) และรถมวลชน พ.ศ. 2553 ที่สรุปสาระสำคัญในข้อ 3 ได้ว่า กําหนดให้ช่องทางเดินรถบนถนนดังต่อไปนี้เป็นช่องทางสำหรับเดินรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) และรถมวลชน ดังนี้ (1) ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งแต่แยกถนนสาทรใต้ตัดกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์มุ่งหน้าถนนพระรามที่ 3 ไปตลอดทั้งสาย และถนนพระรามที่ 3 ตั้งแต่สะพานข้ามแยกถนนวงแหวนอุตสาหกรรมถึงเชิงสะพานพระราม 3 กําหนดให้ช่องทางเดินรถด้านขวาสุดของถนนดังกล่าวเป็นช่องทางเฉพาะรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) สำหรับเดินรถเท่านั้น (2) บนสะพานข้ามแยกถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สะพานข้ามแยกถนนสาธุประดิษฐ์ สะพานข้ามแยกถนนรัชดาภิเษก สะพานข้ามแยกเจริญราษฎร์ สะพานพระราม ๓ และถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่สะพานพระราม 3 ถึงแยกราชพฤกษ์ กําหนดให้ในช่องทางเดินรถด้านขวาสุดเป็นช่องทางเฉพาะรถมวลชน ซึ่งหมายถึง รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการ รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีผู้โดยสารนั่งรวมผู้ขับขี่ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเดินรถในช่องทางดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับครั้งละไม่เกินหนึ่งพันบาท ดังนั้น หากประชาชนพบเห็นผู้กระทำความผิด ขอให้ช่วยกันกล่าวโทษกับเจ้าพนักงานตำรวจ หรือส่งข้อมูลวัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ และรายละเอียดต่าง ๆ ส่งให้ สจส. เพื่อกล่าวโทษต่อไป