Digitel Tech & Innovation

'ชไนเดอร์ อิเล็คทริค'ขึ้นแท่นบริษัทดีเด่น ที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียปี2567



กรุงเทพฯ-ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ได้รับรางวัล บริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชียประจำปี 2567 หรือ “The Best Companies to Work for in Asia 2024 Award” คัดเลือกโดยเอชอาร์ เอเชีย นิตยสารด้านทรัพยากรบุคคลชั้นนำแห่งเอเชีย

นายมงคล ตั้งศิริวิช ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ดูแลประเทศไทย ลาว เมียนมา เผยว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจ ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้รับรางวัล บริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2567 (The Best Companies to Work for in Asia 2024 Award) เป็นรางวัลอันทรงเกียรติ จาก HR Asia นิตยสารด้านทรัพยากรบุคคลชั้นนำแห่งเอเชีย การได้รับรางวัลในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2  ที่สะท้อนนโยบายของบริษัทด้านการให้ความสำคัญกับพนักงาน รวมถึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการให้ความสำคัญกับบุคลากรของเราที่เป็นหัวใจหลักในทุกสิ่งที่เราทำ ดังนั้นรางวัลในครั้งนี้ นับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย เรามองว่าการได้รับการยอมรับนี้เป็นความสำเร็จจากความพยายาม เพื่อยกระดับมาตรฐานและท้าทายขีดจำกัดของการเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมเสมอมา"

รางวัล บริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย มอบให้กับบริษัทที่พนักงานระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้จ้างงานที่ดีที่สุดในเอเชีย เพื่อที่จะค้นหาบริษัทที่เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุด โดยในประเทศไทยเริ่มต้นครั้งแรก ปี 2562 และชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ก็ได้รับรางวัลในครั้งนั้นด้วย

ในปีนี้ มีบริษัทที่ถูกเสนอชื่อจำนวน 298 บริษัท โดย HR Asia ได้ใช้รูปแบบการประเมินที่ที่เรียกว่า Total Engagement Assessment Model (TEAM) เพื่อวัดระดับความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร ใน 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. ความเป็นผู้นำและวัฒนธรรม (Leadership & Culture), 2. ความผูกพันของพนักงานรายบุคคล (Individual Engagement) และ3. พลวัตรของทีม (Team Dynamics) โดยเน้นใน 3 หมวดหมู่หลัก ได้แก่ Diversity, equity and inclusion หรือ DEI หมายถึง ความแตกต่าง ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ด้วยสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืน และสุขภาวะของพนักงาน

ในปีนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ในภาพรวมทำคะแนนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวม มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ขณะที่ค่าเฉลี่ยของตลาดที่ 3.81 คะแนน นอกจากนี้ ในหมวดหมู่ Sustainable Workplace  (สภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืน) ยังได้รับคะแนนสูงสุดที่ 4.57 คะแนน ตามด้วย DEI (ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม) อยู่ที่ 4.52 คะแนน และ Care and Wellbeing (สุขภาวะของพนักงาน) ที่ 4.43 คะแนน

นายมงคลเผยต่อว่า “ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้มีการพัฒนาและยกระดับค่านิยมของขององค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโต ทิศทางที่เรามุ่งมั่น และสิ่งที่เราเชื่อ เราเรียกสิ่งนี้ว่า “IMPACT Starts with Us” โดยค่านิยม IMPACT ของเราคือ Inclusion (การมีส่วนร่วม), Mastery (ความเชี่ยวชาญ), Purpose (จุดมุ่งหมาย), Action (การลงมือทำ), Curiosity (ความใฝ่รู้) และ Teamwork (การทำงานเป็นทีม) ซึ่งทั้งหมดนี้กลายเป็นเสาหลักใหม่ของวัฒนธรรมชไนเดอร์ ที่หลอมรวมพนักงานจำนวนมากของเรา ไว้ภายใต้หลักการร่วมกัน”

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ‘คนที่เยี่ยมยอดทำให้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยม’ รวมถึงความเชื่อที่ว่า ‘การสร้าง IMPACT ต้องเริ่มต้นจากตัวเรา’ ดังนั้น การทำงานที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หมายถึงการทำงานเพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น โลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อความยั่งยืนของทุกคน