Biz news
ไอร์แลนด์เสริมการค้าจอาหาร-เครื่องดื่ม สู่ตลาดไทย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพมหานคร - 3 ตุลาคม 2024, การเปิดตัวภารกิจการค้าปี 2024 ของคณะกรรมการอาหารแห่งสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Bord Bia) ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคุณพิปปา แฮ็คเกตต์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร อาหารและทะเลของไอร์แลนด์ จะเดินทางเยือนไทยและเวียดนามในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ในฐานะคณะผู้แทนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทางการค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักถึงไอร์แลนด์ในฐานะแหล่งอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืน ปลอดภัย และมีคุณภาพสูง
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญของประเทศไอร์แลนด์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตและการขยายตัวของธุรกิจบริการอาหารและภาคการค้าปลีกสมัยใหม่ ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นและชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว ผู้บริโภคชาวไทยจึงมีกำลังซื้อสินค้าที่มีคุณภาพสูงและดีต่อสุขภาพมากขึ้น ทั้งความต้องการของเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแปรรูปที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในตลาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งสอดคล้องกับที่ไอร์แลนด์เน้นย้ำถึงความยั่งยืน ความมั่นคงของการจัดส่ง และคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น
รัฐมนตรีพิปปา แฮ็คเกตต์ กล่าวว่า ‘การเข้าถึงตลาดเนื้อสัตว์เป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดของภารกิจทางการค้า และเป้าหมายหลักของการเยือนประเทศไทยในปีนี้คือการพยายามเปิดตลาดสำหรับเนื้อวัวจากไอร์แลนด์ ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับการเติบโตของอาหารและเครื่องดื่มจากไอร์แลนด์ อีกทั้ง Bord Bia มีความมุ่งมั่นในการเพิ่มการส่งออกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมให้มากขึ้นในตลาดประเทศไทย ทั้งนี้ หากผู้ส่งออกได้รับการอนุญาตให้ส่งออกเนื้อวัวจากไอร์แลนด์
ผู้ส่งออกจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจร้านอาหาร หรือภัตตาคาร โดยเฉพาะการให้บริการด้านอาหารของโรงแรมหรูในประเทศไทย’ ในปี 2022 Bord Bia ได้รับการคัดเลือกจากสหภาพยุโรป ให้ดำเนินแคมเปญส่งเสริมผลิตภัณฑ์นมเป็นระยะเวลา 3 ปี ภายใต้ชื่อ “EuropeanDairy – Ireland, Working with Nature” ซึ่งจะถูกนำเสนอให้กับผู้ซื้อและสื่อการค้าในกรุงเทพฯ ระหว่างภารกิจการค้า โดยแคมเปญนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างการรับรู้และตระหนักเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมจากยุโรป(ไอร์แลนด์)ในตลาด และเพื่อเพิ่มความนิยมรวมถึงส่วนแบ่งการนำเข้าทั้ง 5 ตลาดกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ญี่ปุ่น มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และฟิลิปปินส์
จิม โอทูล ซีอีโอของ Bord Bia กล่าวว่า ‘การสร้างแบรนด์ที่แสดงถึงวัฒนธรรม คุณภาพ และความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ หรือ ข้อมูลรับรองความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green credentials) เป็นสิ่งสำคัญ เป้าหมายของเราสัปดาห์นี้คือการเพิ่มการรับรู้และยกระดับชื่อเสียงของไอร์แลนด์ในฐานะแหล่งผลิตอาหารและเครื่องดื่มยุโรปที่ยั่งยืน ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงให้กับลูกค้าและผู้บริโภคในประเทศไทย ทั้งนี้เสถียรภาพของอุปทาน เป็นกุญแจสำคัญต่อการพัฒนาและติบโตของทั้งสองประเทศในอนาคต ด้วยเหตุนี้ เราจึงมุ่งพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย’