In Bangkok
กทม.ชี้พื้นที่สร้างสรรค์-กิจกรรมในสังคม โอบอุ้มเมืองให้น่าอยู่ลดเครียดคนกรุง
กรุงเทพฯ-(6 ต.ค. 67) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเปิดงาน“Better Mind, Better Bangkok 2024” งานวันสุขภาพจิตโลก ณ ลานจัดงาน ชั้น 3 สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน
รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเราใส่ใจและให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพจิตอย่างมากโดยร่วมกับ Sati มาตั้งแต่แรก ในการตรวจสุขภาพ 1 ล้านคน ก็จะรวมไปถึงการตรวจสุขภาพจิตด้วย จากผลการตรวจสุขภาพประมาณ 450,000 คนชี้ให้เห็นว่าคนกรุงกว่า 10% มีความเครียด ช่วงวัย 15-25 ปี คือช่วงอายุที่มีความเครียดมากที่สุด และในขณะเดียวกันมีอีก 8% ที่มีโอกาสจะเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว กทม. และเครือข่ายต้องร่วมกันทำงานกันต่อว่ามีเรื่องใดที่ต้องทำเพิ่มอีกหรือไม่ รวมถึงในกลุ่มช่วงอายุที่มีความเครียดที่เราคาดไม่ถึง เช่น เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ ด้วยบุคลากรทางการแพทย์มีน้อยมาก โรงพยาบาลสังกัด กทม. 12 แห่ง มีจิตแพทย์ไม่ถึง 30 คน นักจิตวิทยาประมาณ 80 คน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรที่ต้องดูแลแล้วไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกับทุกเครือข่ายที่มีเครื่องมือช่วยกันทำงานเรื่องนี้ และในส่วนนโยบายเมืองก็ต้องทำให้มีพื้นที่สวน และกิจกรรม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายด้วย
“แม้ว่าวันสุขภาพจิตจะเป็นวันแห่งสัญลักษณ์ให้เราต้องตระหนักและใส่ใจในเรื่องนี้ แต่วันนี้ต่อให้ทำให้เมืองน่าอยู่แค่ไหน แต่ถ้าปฏิสัมพันธ์และกิจกรรมที่อยู่ในสังคมมันไม่เกื้อหนุนให้เมืองมันน่าอยู่ เราไม่น่าจะประสบความสำเร็จในการทำให้เมืองน่าอยู่ตามที่หวังได้” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว
สำหรับงาน Better Mind, Better Bangkok 2024 งานสุขภาพใจที่ชวนทุกคนมาปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้น โดยมูลนิธิสติแอปฯ ร่วมกับสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) รวมพลังสร้างสรรค์งานนิทรรศการ และการเสวนาเกี่ยวกับสุขภาพจิต เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก 2567 (World Mental Health Day 2024)
งานวันสุขภาพจิตโลก “Better Mind, Better Bangkok 2024” จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องสุขภาพใจของคนไทย เนื่องจากวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ งาน Better Mind, Better Bangkok จึงจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้คนไทยตระหนักในเรื่องของสุขภาพจิตและรักตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยปีนี้มาในธีม “L.O.V.E. ความรักตัวเอง ความรักต่อเพื่อนร่วมโลก ความรักในการที่จะมีสุขภาวะชีวิตที่ดี และความรักที่จะได้เชื่อมต่อความสัมพันธ์ดี ๆ ในสังคม” ซึ่งได้บุคคลสำคัญด้านสุขภาพจิตจากหลายแขนงมาเข้าร่วมเสวนา เช่น นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต นักเคลื่อนไหวด้านสุขภาพจิต รวมไปถึงดารานักแสดงชื่อดัง เพื่อมาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลในการเสวนาในครั้งนี้ ภายใต้หัวข้อดังต่อไปนี้ 1.การรักตัวเอง (L - Loving Yourself: The Art of Self-Care) ศิลปะแห่งการดูแลตนเอง 2.ความรักต่อเพื่อนร่วมโลก (O - Opening Hearts - Embracing Social Inclusion) การยอมรับการอยู่ร่วมกันในสังคม 3.ความรักในการที่จะมีสุขภาวะชีวิตที่ดี (V - Valuing Lives - Understand Well-Being) เข้าใจสุขภาวะ และ 4.ความรักที่จะได้เชื่อมต่อความสัมพันธ์ดี ๆ ในสังคม (E - Enhancing Connection - Fostering Community Support) ส่งเสริมการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน
นอกจากเวทีเสวนาแล้วภายในงานยังมีกิจกรรมให้ทุกคนสามารถมาปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้นได้ผ่านการมีประสบการณ์ดี ๆ จาก 3 กิจกรรม ได้แก่
1. Seeing - ชวนมาเขียนบอกรักตัวเองหรือแชร์ไอเดียในการรักตัวเองผ่านการ์ดบอกรัก
2. Talking - ชวนมาฝึกชมตัวเองหรือขอโทษตัวเองผ่านหน้ากระจก
3. Listening - ชวนมาระบายความเครียดบอกเล่าปัญหาผ่านม้านั่งมีหู