Authority & Harm

รรท.ผบ.ตร.ประชุมเร่งคดีหลอกขายทอง กำชับเด็ดขาด/สั่งตรวจธุรกิจขายตรง



กรุงเทพฯ-รรท.ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดคดีหลอกขายทอง กำชับดำเนินการเด็ดขาด และสั่งตรวจสอบธุรกิจขายตรงที่ตกเป็นข่าว พร้อมเปิดสายด่วน 1599 รับแจ้งเบาะแส

วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญ คดีห้างเพชรทองเคทูเอ็น (ตั๊ก-เบียร์) และห้างเพชรทองธาดาโกลด์ (ใบหนาด) โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบช.สอท.รรท.ผบช.สอท. , พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ตามที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ดำเนินคดีกับ น.ส.กรกนกฯ หรือตั๊ก และ นายกานต์พลฯ หรือเบียร์ กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและความผิดที่เกี่ยวข้อง โดยการหลอกลวงขายทองรูปพรรณด้วยการไลฟ์สดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ดำเนินคดีกับ นายพรมธาดาฯ หรือ ใบหนาด กรณีโลฟ์สดผ่านสื่อสังคมออนไลน์หลอกลวงขายทองรูปพรรณราคาถูกแก่ประชาชน แต่ผู้ซื้อไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับไม่ตรงตามที่โฆษณา โดยมีดารานักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมในการโฆษณาขายสินค้า และกรณีที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการดำเนินการขายตรงของบริษัท The Icon Group ที่มี นายวรัตน์พลฯ หรือ พอล เป็นผู้บริหาร นั้น

เพื่อให้การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ และเป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนเพื่อเป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติ สำหรับกรณีที่พบว่าเป็นการกระทำความผิดในลักษณะฉ้อโกงประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด รรท.ผบ.ตร.จึงมอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุม สั่งการบริหารเหตุการณ์ สืบสวนสอบสวน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ได้รับความเสียหายหรืออาจได้รับความเสียหาย ให้สามารถแจ้งความร้องทุกข์หรือให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจใด้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ รวมถึงพิจารณาคัดเลือกพนักงานสอบสวนที่มีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์เข้าร่วมเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง

มอบหมายให้ บช.สอท. และ บช.ก. (ปคบ.) กำหนดประเด็นการสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความสามารถสอบสวนได้ตรงตามประเด็นและองค์ประกอบแห่งการกระทำผิด และเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดยต้องดำเนินคดีให้ครบถ้วนทุกข้อหากับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย และให้ บช.น., ภ.1-9 สั่งการพนักงานสอบสวนในสังกัด ให้สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการสืบสวนสอบสวนแก่คณะทำงานฯ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของ บช.สอท. และ บช.ก. ตามที่ได้รับการร้องขอ

มอบหมายให้สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) รวบรวมสถิติข้อมูลเกี่ยวกับคดีดังกล่าวในประเด็นสำคัญ เช่น จำนวนผู้ต้องหา ผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหาย ของกลางทางคดี หรือทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ตรวจสอบตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการพ่อกเงิน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการหรือแนวทางในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป และให้สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) รวบรวมข้อกล่าวหา ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับ บช.สอท. , บช.ก. และคณะทำงานฯ ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินการอื่นใดตามที่ได้รับการร้องขอ

นอกจากนี้ ให้ ศปก.ตร. เปิดช่องทางสายด่วน 1599 เพื่อเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุให้กับผู้เสียหาย และส่งต่อข้อมูลทางคดีให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อทำการสืบสวนสอบสวนต่อไปโดยเร็ว ตลอดจนรับแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสจากประชาชนเกี่ยวกับการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว