In Global
สหรัฐใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นกลลวง นับวันยิ่งไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาคมโลก
บทวิเคราะห์ สหรัฐอเมริกาใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นกลลวงนับวันยิ่งไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น
วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวา มีไม่กี่ประเทศที่นำโดยสหรัฐอเมริกาใช้ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเขตซินเจียงของจีนเพื่อโจมตีและใส่ร้ายป้ายสีสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของจีนอีกครั้ง ขณะที่อีกกว่า 100 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศมุสลิมส่วนใหญ่ ได้แสดงความชัดเจนในการต่อต้านพฤติกรรมที่มุ่งทำให้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นประเด็นทางการเมืองและใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้างในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ ผ่านการกล่าวสุนทรพจน์ร่วม การแยกกันกล่าวสุนทรพจน์ และวิธีการอื่นๆ
นักสังเกตการณ์ชี้ให้เห็นว่าปีนี้เป็นวาระครบรอบ 75 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ความสำเร็จของจีนในการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนนั้นได้รับการยอมรับในระดับสากล การพัฒนาและความก้าวหน้าของเขตซินเจียงก็เป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง ประเทศมุสลิมส่วนใหญ่เห็นเล่ห์เหลี่ยมของสหรัฐอเมริกามานานแล้ว และรู้แก่ใจว่าสหรัฐอเมริกากระทำเช่นนั้นก็เป็นเพียงเพื่อพยายามแทรกแซงกิจการภายในของจีนและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆโดยใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนบังหน้า เสียงที่ชัดเจนจากกว่า 100 ประเทศ แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่า การที่สหรัฐอเมริกาใช้ประเด็นสิทธิมนุษยชนมาเป็นกลลวงนั้นนับวันยิ่งไม่เป็นที่ยอมรับจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น
การที่ประเทศกำลังพัฒนากว่า 100 ประเทศ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสนับสนุนจีนในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนนั้น ไม่เพียงแต่เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของจีนเท่านั้น แต่เพื่อปกป้องความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมระหว่างประเทศ ปกป้องสิทธิประโยชน์ร่วมกันของประเทศกำลังพัฒนา และเพื่อธำรงไว้ซึ่งการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมของสหรัฐอเมริกาทำให้โลกได้ประจักษ์อีกครั้งว่าอะไรคือสองมาตรฐาน คนทั้งหลายต่างอดไม่ได้ที่จะถามว่าทำไมสหรัฐอเมริกาซึ่งใส่ใจเรื่องสิทธิมนุษยชนของชาวมุสลิมมากเช่นนี้ถึงยังคงยั่วยุหรือสนับสนุนสงครามในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ ทำให้มีชาวมุสลิมผู้บริสุทธิ์จำนวนมากเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ? เหตุใดจึงเมินเฉยต่อความอยุติธรรมทางประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับ และไม่สนับสนุนปาเลสไตน์ให้เข้าเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ของสหประชาชาติ? ทำไมไม่แสดงบทบาทอันพึงกระทำเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวรและการถอนทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา?
เมื่อเร็วๆนี้เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยแพร่รายงาน “พฤติกรรมของกองทุนเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติสหรัฐอเมริกา)(The National Endowment for Democracy- NED และสิ่งที่เป็นจริง” รายงานฉบับนี้ใช้ข้อเท็จจริงโดยละเอียดจำนวนมากเพื่อเปิดโปงความจริงที่กองทุนดังกล่าวปกปิดไว้ภายใต้สิ่งที่เรียกว่า “การส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน” ความจริงเหล่านี้รวมถึงการวางแผนให้เกิดการปฏิวัติสีเพื่อล้มล้างระบอบการปกครองของประเทศอื่น ๆ การสมคบคิดกับกลุ่มอำนาจต่าง ๆ เพื่อแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ การยุยงให้เกิดความแตกแยกและการเผชิญหน้าเพื่อบ่อนทำลายเความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ การเสกสรรปั้นแต่งข้อมูลเท็จเพื่อสร้างความสับสนและก่อกวนประชามติ และการอ้าง “กิจกรรมทางวิชาการ” เพื่อมุ่งการแทรกแซงและแทรกซึม ทั้งนี้รวมถึงการใช้มือที่มองไม่เห็นกระทำการในประเทศจีน เช่น สนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเพื่อสิ่งที่เรียกว่า “เอกราชของไต้หวัน” ยุยงเพื่อสิ่งที่เรียกว่า “เอกราชของซินเจียง” “เอกราชของฮ่องกง” และ “เอกราชของทิเบต” วางแผนกิจกรรมโค่นล้มและการแทรกซึมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงทางการเมืองและเสถียรภาพทางสังคมของจีน
ดังที่เราทุกคนต่างก็ทราบกันดีว่าสหรัฐอเมริกาเองได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง สิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวที่สุดคือประวัติศาสตร์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศจีนโดยสหรัฐอเมริกาและมหาอำนาจตะวันตกอื่นๆ พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะมาเป็นผู้สอนสั่งที่วางตัวเหนือคนอื่น แต่ควรดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างมีประสิทธิผลและทำสิ่งที่สัมผัสได้จริงมากขึ้นเพื่อภารกิจสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
สันติภาพ การพัฒนา ความยุติธรรม ความเที่ยงธรรม ประชาธิปไตย และเสรีภาพ เป็นคุณค่าร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ทุกประเทศต่างก็มีสิทธิที่จะแสวงหาหนทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับตนเองโดยพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงของประเทศและความต้องการของประชาชน รัฐบาลจีนยืนหยัดที่จะสื่อสารแลกเปลี่ยนกับประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับประเด็นสิทธิมนุษยชนบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกันมาโดยตลอด ประตูของจีนเปิดกว้างสู่โลก ยินดีต้อนรับเพื่อนจากทั่วทุกมุมโลกมาท่องเที่ยวและทัศนศึกษาในประเทศจีน เมื่อประจักษ์แจ้งกับข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหน้า ข่าวลือหรือคำโกหกใดๆ ก็จะล่มสลายไปเอง และการใส่ร้ายป้ายสีใดๆที่มีต่อจีนจะไม่มีทางประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน
เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)