In News

ศปช.เฝ้าระวังพื้นที่ภาคใต้หลังฝนตกหนัก ด้านเชียงใหม่เร่งระดมกำลังฟื้นฟูเมือง



กรุงเทพฯ-โฆษก ศปช. เผย ศปช. เฝ้าระวังพื้นที่ภาคใต้ หลังฝนตกหนักต่อเนื่องจนเกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม จ.ยะลา ด้านเชียงใหม่เร่งระดมกำลังฟื้นฟูเมืองเต็มที่

วันนี้ (14 ตุลาคม 2567) เวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า กรมอุตนิยมวิทยาแจ้งเตือนประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย 

นายจิรายุ กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม จังหวัดยะลา บริเวณเส้นทางบ้านวังใหม่ ตำบลอัยเยอร์เวง เส้นทางไปบ่อน้ำร้อน-เบตง ตำบลตะเนาะแมเราะ และถนนเส้นทางสาย 410 ยะลา - เบตง ช่วง กม. 20 ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเข้าช่วยเหลือและแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กรมทรัพยากรธรณี ประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินถล่มมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ประกอบกับมีพื้นที่คาดการณ์ปริมาณน้ำฝนที่อาจก่อให้เกิดแผ่นดินถล่มล่วงหน้าโดยเฉพาะในบริเวณภาคใต้ จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา กระบี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา

สำหรับภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ตามถนน บ้านเรือนและชุมชนต่าง ๆ น้ำแห้งเกือบหมดแล้ว ทั้งในส่วนของตัวเมืองและอำเภอในพื้นที่ท้ายน้ำ  โดยระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันลดต่ำลงเหลือ 2.29 เมตร ทำให้น้ำในพื้นที่ทั่วไปสามารถไหลเวียนได้ตามหลักธรรมชาติแล้ว  โดยได้เริ่มทยอยถอนกำลังเครื่องสูบน้ำในจุดที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่ แต่ยังคงมีเครื่องสูบน้ำประจำจุดไว้คอยผันน้ำในพื้นที่และที่ตกค้างอยู่ตามพื้นที่เกษตรออกสู่ลำเหมืองต่าง ๆ เมื่อวานนี้มีรับร้องเรียนเหลือเพียง 1 ราย เท่านั้น  ขณะที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ ก็ลดเหลือเพียง 13 แห่ง ที่ยังมีผู้พักพิงอาศัยอยู่ รวมทั้งสิ้น 38 ราย  ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ยังอยู่ในระหว่างรอลูกหลานฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนให้พร้อมเข้าอยู่อาศัยก่อน  ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูล้างทำความสะอาดบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังในทั่วทุกพื้นที่ 

“ถึงแม้วันนี้เป็นวันหยุด ได้มีการระดมกำลังจากส่วนราชการ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วทุกพื้นที่ มาช่วยกันฉีดล้าง ทำความสะอาดถนน ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ตามแผนที่วางไว้ คือ จะทยอยทำเป็นจุด ๆ ไป ไม่ได้กระจายกำลังกันไปทำเหมือนก่อนหน้านี้  เพื่อให้การทำความสะอาดได้ผลมากที่สุด  เริ่มจากบริเวณถนนช้างคลานเป็นเส้นทางแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษกิจสำคัญ โดยจะมีการปิดถนนเพื่อล้างทำความสะอาด  และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องการจราจร  ส่วนน้ำที่ใช้ในการล้างถนนจะใช้น้ำสะอาดจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ แทนการใช้น้ำประปา  เช่น ที่อ่างเก็บน้ำหนองเขียว  นอกจากนี้ทางสำนักงาน ปภ. ยังได้นำเครื่องสูบส่งระยะไกล จำนวน 4 เครื่อง มาประจำการตามคูเมือง  เพื่อคอยดูดน้ำสะอาดจากคูเมืองส่งต่อให้กับรถบรรทุกน้ำของ อปท. ต่าง ๆ สำหรับนำไปฉีดล้างทำความสะอาดในภารกิจนี้ด้วย  ส่วนการเก็บขยะจะใช้เงินจากกองทุนต่าง ๆ ในการว่าจ้างรถบรรทุกมาขนย้ายขยะออกจากพื้นที่  ซึ่งจะต้องติดตามประเมินว่าวิธีนี้จะได้ผลเพียงใด  ขณะเดียวกันก็จะมีการทำความสะอาดในส่วนของถนนเส้นทางหลักควบคู่กันไปด้วย  โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 สายหลักที่เป็นด่านหน้าเข้าสู่เมืองเชียงใหม่ คือ ถนนทางหลวงหมายเลข 11 หรือ ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง และถนนมหิดล ที่เป็นเส้นทางไปสู่ท่าอากาศยานเชียงใหม่” นายจิรายุ ระบุ

ศปช. แจ้งเตือนภาคใต้ 9 จังหวัดเฝ้าระวังดินสไลด์ตลอด 24 ชั่วโมง

รายงานสถานการณ์อุทกภัยล่าสุด ในภายใต้และการฟื้นฟูในภาคเหนือ จากปริมาณฝนที่ยังตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงนี้ อาจส่งผลให้เกิดเหตุดินถล่มได้ในพื้นที่ 9 จังหวัด ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังเหตุดินถล่ม

“ศปช. ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มในพื้นที่ 9 จังหวัด เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ได้แก่ จ.ภูเก็ต เมืองภูเก็ต กะทู้ ถลาง , จ.กระบี่ เมืองกระบี่ เขาพนม เกาะลันตา , จ.ตรัง ย่านตาขาว ปะเหลียน ห้วยยอด นาโยง , จ.สตูล ควนโดน ควนกาหลง ละงู ทุ่งหว้า มะนัง , จ.พัทลุง กงหรา ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ เขาชัยสน ตะโหมด ควนขนุน , จ.สงขลา หาดใหญ่ สะบ้าย้อย จะนะ นาทวี รัตภูมิ สะเดา , จ.ปัตตานี โคกโพธิ์ หนองจิก ปานาเระ มายอ ทุ่งยางแดง สายบุรี ยะรัง , จ.นราธิวาส บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร แว้ง สุคิริน สุไหงปาดี จะแนะ เจาะไอร้อง และ จ.ยะลา เบตง ธารโต กาบัง บันนังสตา ยะหา รามัน กรงปินัง โดย ศปช. ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากดินถล่ม หากต้องการความช่วยเหลือโทรสายด่วนได้ที่ 1567 ตลอด 24 ชม.”

สำหรับเหตุการณ์น้ำหลากดินถล่มในพื้นที่ อ.เบตง และ อ.ธารโต จ.ยะลา ด้านนายอำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา พร้อมคณะทำงาน ได้มอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย และเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและฟื้นฟูโดยเร็ว ส่วนถนนที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงได้นำรถแบคโฮ และเครื่องจักรเปิดเส้นให้รถได้สัญจรได้แล้ว พร้อมทั้งประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

ส่วนสถานการณ์น้ำภาคกลางนายจิรายุกล่าวว่า ปริมาณฝนที่ลดลงทำให้น้ำที่ไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงตามลำดับ ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสถานี C.2 นครสวรรค์ 1,980 ลบ.ม./วินาที และการระบายน้ำปัจจุบันที่ 1,751 ลบ.ม./วินาที
ที่ประชุม ศปช. วันนี้ (14 ต.ค. 67) จึงมีมติให้ทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาลง เหลืออัตรา 1,700 ลบ.ม./วินาที  ในเวลา 12.00 น. และเหลืออัตรา 1,650 ลบ.ม./วิ ในเวลา 21.00 น. เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำหนุนในช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค. นี้ ทั้งนี้ คาดว่าหากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วง 2-3 วันข้างหน้านี้จะสามารถปรับลดการระบายน้ำเหลือ 1,500 ลบ.ม./วินาที ได้ เป็นแนวโน้มที่ดีต่อประชาชนในพื้นที่ท้ายเขื่อนอีกด้วย

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กห. ในฐานะประธานศูนย์ ศปช. จึงได้กำชับเหล่าทัพเร่งระดมกำลังพลเตรียมการช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อเกิดภัยในพื้นที่ ต.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ รวมถึงการฟื้นฟู ทำความสะอาดและขุดตักดินโคลนที่ทับถมบ้านพักอาศัย รวมทั้งพื้นที่สาธารณะให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย รวมถึงมอบถุงยังชีพ สิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภค พร้อมน้ำดื่มให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่เพื่อการบรรเทาความเดือดร้อนในขั้นต้น

พร้อมกันนี้ให้ร่วมกับส่วนราชการใน จ.นนบุรี และ จ.ปทุมธานี มอบถุงยังชีพสิ่งของเครื่องอุปโภค - บริโภคให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย บรรจุและขนย้ายกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ตลอดจนเร่งทำแนวคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันพื้นที่บ้านเรือนประชาชน พื้นที่เศรษฐกิจ พร้อมจัดกำลังพลเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม.

นายจิรายุกล่าวถึงภาพรวมการจ่ายเงินเยียวยา และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยว่า (ข้อมูล ณ 12 ต.ค. 67) ความคืบหน้าการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยตามมติ ครม.เมื่อ 17 ก.ย. 67 มีการยื่นคำร้องในระบบทั้งสิ้น 56 จังหวัด 195,851 ครัวเรือน โดย ปภ. ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินแล้ว 7 ครั้ง ได้จ่ายเงินผ่านพร้อมเพย์ไปแล้ว 6 ครั้ง โอนเงินสำเร็จกว่า 17,352 ครัวเรือน จำนวนเงินทั้งสิ้น 86,888,000 บาท

ส่วนการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 1,367 ครัวเรือนดำเนินการแล้ว 1,327 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 40 ครัวเรือนคิดเป็น 97% ด้านการดำเนินการฟื้นฟูในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เฟส 2 เป้าหมายบ้านเรือนประชาชน 819 ครัวเรือน ดำเนินการแล้ว 660 ครัวเรือน อยู่ระหว่างดำเนินการ 159 ครัวเรือน คิดเป็น 80% การจัดการขยะในพื้นที่ ประมาณการขยะทั้งสิ้น 70,000 ตัน ดำเนินการทิ้งแล้วทั้งสิ้น 67,617 ตัน คิดเป็น 96.59%

สำหรับเชียงใหม่ ขณะนี้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทั้งในส่วนของตัวเมืองและอำเภอในพื้นที่ท้ายน้ำ  โดยระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ ปัจจุบันลดต่ำลงเหลือ 2.29 เมตร ขณะที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ ก็ลดเหลือเพียง 13 แห่ง ที่ยังมีผู้พักพิงอาศัยอยู่ รวมทั้งสิ้น 38 ราย  ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่ยังอยู่ในระหว่างรอลูกหลานฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนให้พร้อมเข้าอยู่อาศัยก่อน  ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ไปจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูล้างทำความสะอาดบ้านเมืองอย่างเต็มกำลังในทั่วทุกพื้นที่ และในวันนี้ (14 ต.ค. 67) ตั้งแต่ 08.00 น. ได้ระดมกำลังจากส่วนต่าง ๆ ทำความสะอาดถนน ฟื้นฟูพื้นที่เศรษฐกิจและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน 

ด้านสถานการณ์อุทกภัยที่ จ.ลำพูน สถานการณ์น้ำท่วมเขตอำเภอเมืองล่าสุด (13 ต.ค.) มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ทั้ง 7 ตำบลรวม  81 ตัวส่งผลให้ระดับน้ำลดลงในหลายพื้นที่