EDU Research & ESG

จ๊อบฟินฟินจับมือสภาสังคมสงเคราะห์ฯ จัด'เชื่อมคนเชื่อมงานเพื่อคนพิกายั่งยืน'



กรุงเทพฯ จ๊อบฟินฟินผู้นำแพลตฟอร์มหางานที่เชื่อมต่อโอกาสงานที่ดีที่สุดแก่สังคมไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญผ่านการทำสัญญาข้อตกลงร่วมกับ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วย สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยและสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยในการจัดทำโครงการ เชื่อมคน เชื่อมงาน เพื่อคนพิการอย่างยั่งยืน”โดยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลคุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของคนพิการให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวันคนพิการแห่งชาติ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16พฤศจิกายน 2567สำหรับโครงการนี้เป็นการเปิดโอกาสให้คนพิการได้เข้าถึงข้อมูลตลาดแรงงานสำหรับคนพิการที่ครอบคลุมทุกภาคส่วนในสังคมที่มีความต้องการใช้บริการพนักงานประจำที่เป็นคนพิการโดยแพลตฟอร์มหางาน จ๊อบฟินฟิน จะช่วยเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างคนหางานกับคนว่าจ้าง ซึ่งถือเป็นช่องทางที่ช่วยให้คนพิการได้เจอกับคนว่าจ้างโดยตรง ช่วยลดอุปสรรคในการหางาน ได้ตำแหน่งงานที่เหมาะสม ตรงตามความสามารถ และมีรายได้อย่างเท่าเทียมกับคนในสังคม อำนวยความสะดวกในการหางานให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนพิการให้ดียิ่งขึ้น

จ๊อบฟินฟินจะอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์การจัดหางานและแอปพลิเคชันการจัดหางานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สมัครในปัจจุบัน โดยมีการพัฒนาระบบให้รองรับการหางานที่เหมาะสมกับความสามารถและความสนใจของแต่ละบุคคลให้ทุกคนได้งานที่ใช่ ในรูปแบบที่ง่ายกว่าที่คิด มีรูปแบบงานให้เลือกหลากหลาย เช่น การทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือ การทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Work)ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้สมัครได้งานที่ตรงใจและบริษัทได้คนที่ตรงงาน จ๊อบฟินฟินออกแบบระบบให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ใช้งานง่าย มีตำแหน่งงานหลากหลายและมีการอัปเดตตำแหน่งงานใหม่ตลอดเวลา มีฟีเจอร์ที่รองรับ สำหรับทุกกลุ่ม เช่น ฟีเจอร์การใช้งานให้รองรับคนพิการทุกประเภท โดยมีฟีเจอร์สำหรับคนตาบอดสี และ ฟีเจอร์การใช้เสียง ที่จะช่วยให้คนพิการสามารถรับข้อมูลได้ผ่านเสียง ซึ่งฟีเจอร์ทั้งสองจะช่วยคนพิการในการหางานได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงถือเป็นแพลตฟอร์มหางานที่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มองหางานที่ยืดหยุ่น ปรับเวลาและรูปแบบการทำงาน ได้ตามไลฟ์สไตล์ และความต้องการ

นายธนา สัจจพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จ๊อบฟินฟิน จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะเจ้าของแพลตฟอร์มหางาน ที่เป็นสะพานเชื่อมข้อมูลความต้องการแรงงานคนพิการทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศในทุกมิติทั้งนี้เราเชื่อมั่นว่า ทุกคนมีความสามารถ มีศักยภาพ และมีคุณค่าในตนเอง เราจึงพัฒนาแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงและตอบโจทย์ให้กับคนที่มีความสามารถ กับโอกาสในการทำงานที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคนพิการ ที่ยังคงประสบปัญหาและอุปสรรคในการหางาน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในประเทศไทย หาคนพิการเข้าร่วมงานในแพลตฟอร์มของเราฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันภายใต้โครงการ “เชื่อมคน เชื่อมงาน เพื่อคนพิการอย่างยั่งยืน”ในครั้งนี้ จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ ผ่านแพลตฟอร์มหางานอย่างจ๊อบฟินฟินที่มีงานที่หลากหลาย ทั้งประเภทและรูปแบบการทำงานที่สามารถทำงานจากที่บ้าน  (Work From Home) หรือ ทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Work)ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้งานที่ใช่ ในรูปแบบที่ง่ายกว่าที่คิด และช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

นายอนุกูล ปีดแก้ว,ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า“ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ให้การสนับสนุนการฝึกอาชีพและการหางานสำหรับคนพิการเพื่อให้คนพิการมีรายได้และสามารถพึ่งพาตนเองได้นั้น ถือว่า ความร่วมมือกับจ๊อบฟินฟินในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่   โดยเฉพาะการสร้างสังคมที่เอื้อต่อคนพิการในด้านการทำงาน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน การมีงานทำไม่เพียงช่วยให้คนพิการมีรายได้เลี้ยงชีพ แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจ สร้างความสุขและการมีคุณค่าในตนเอง ที่ได้มีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเท่าเทียม”

ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช,ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า “ที่ผ่านมาสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ให้ความสำคัญ ส่งเสริมและสนับสนุน พร้อมทั้งหาแนวทางร่วมกับภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการมาโดยตลอด ดังนั้นการร่วมมือกันครั้งนี้  จะเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ที่จะช่วยขยายโอกาสในการหางานที่เหมาะสมให้กับคนพิการได้ดียิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าแพลตฟอร์มนี้จะเป็นประโยชน์ที่เอื้อให้กับคนพิการและสังคมไทยเป็นวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย”