Authority & Harm
ชาวไร่อ้อยภาคอีสานจี้รัฐฯเร่งช่วยเหลือ ค่าตัดอ้อยสดตันละ120บาท
กาฬสินธุ์-สมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาวร่วมกับโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จำกัด จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 “งานวันไหล รวมใจชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5” ขณะที่ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสานจี้รัฐเร่งช่วยเหลือเกษตรกรค่าตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท วอน “นายกอุ๊งอิ๊ง” และ “รองนายกภูมิธรรม” เห็นถึงความยากลำบากของชาวไร่อ้อย เตรียมบุกทวงถามความคืบหน้าสิ้นเดือนนี้
วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่ลานข้างสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาว ต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 “งานวันไหล รวมใจชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5” ซึ่งสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาวร่วมกับโรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จำกัด จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสมาชิกชาวไร่อ้อย และรายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ตลอดจนสถาบันชาวไร่อ้อยต่างๆ
โดยมีนายสมหวัง วงศ์คำ นายอำเภอสามชัย นายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน นายทิวากร ศิริกูล เลขาสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน และเลขาธิการสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาว นายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาว นายพิพัฒน์ จรรยาจรัสพร ผู้อำนวยการใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน นายพิษณุ บุญศรี ผจก.บริหารส่งเสริมสรรหาและพัฒนาเพิ่มผลผลิตอ้อย นายวีระพงษ์ ธาราเกษม ผจก.โรงงานฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสมาคมชาวไร่อ้อย และเกษตรกรชาวไร่อ้อยจังหวัดต่างในภาคอีสานเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,500 คน
นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์มีสมาคมชาวไร่อ้อย 2 แห่ง คือสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาว และสมาคมชาวไร่อ้อย จ.กาฬสินธุ์ มี 2 โรงงาน ซึ่งมีสมาชิกรวมกันมากกว่า 15,000 คน มีเนื้อที่ปลูกอ้อยกว่า 4.4 แสนไร่ รวมผลผลิตปีละประมาณ 4 ล้านตัน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนและสามารถรายได้ให้กับเกษตรกรมากถึงปีละ 5,000 – 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในเรื่องของการปลูกอ้อยทางด้านนายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้รณรงค์อย่างเข้มข้น เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้งดการเผาอ้อย เพื่อป้องกันและลดฝุ่นละอองPM2.5 มาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายสมศักดิ์ ขวัญแก้ว นายกสมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาว กล่าวว่า สมาคมชาวไร่อ้อยลำน้ำปาวมีสมาชิกที่สังกัดสมาคมฯประมาณ 2,500 ราย มีพื้นที่ปลูกอ้อยจำนวน 145,900 ไร่ ปลูกอ้อยในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ,อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ฤดูการผลิตปี 2566/67 มีอ้อยเข้าหีบ โรงงานอุดสาหกรรมน้ำตาลอีสาน 848,122.270 ตัน ซีซีเอส เฉลี่ย 13.62 ccs. สำหรับการจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ในครั้งนี้จัดขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสมาชิกชาวไร่อ้อยและรายงานสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ตลอดจนสถาบันชาวไร่อ้อยต่างๆ
ขณะที่นายสิทธิบูรณ์ รัชตะสุวิโรจน์ ประธานสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า อยากฝากถึงไปยังรัฐบาลว่า ขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังมีพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศที่ยังคงรอคอยความช่วยเหลือ ในเรื่องค่าเก็บเกี่ยวผลผลิตตัดอ้อยสดตัน 120 บาท ตามที่รัฐบาลรับปากไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกขบวนการเราได้ดำเนินการมาหมดแล้ว ตั้งแต่การไปยื่นหนังสือกลับพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ไปพบท่านภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะที่เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ซึ่งท่านก็ได้สั่งการมายังสำนักงานอ้อย ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้เร่งดำเนินการภายใน 1-2 เดือน เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย
นายสิทธิบูรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เราก็ได้เข้าพบท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการภายใน 1-2 สัปดาห์ และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เข้าพบกับท่านนายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ก็บอกว่าภายใน 1 สัปดาห์ ให้พี่น้องเกษตรกรรอฟังข่าวดี แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับข่าว หรือความคืบหน้าจากสำนักงานอ้อย กระทรวงอุตสาหกรรมเลย จึงทำให้ไม่ได้รับทราบนโยบายของภาครัฐว่าจะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างไร
ดังนั้นภายในสิ้นเดือนตุลาคม2567นี้ หากเรื่องดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้านี้ สถาบัน และสมาคมต่าง ๆ รวมทั้งพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยจะเดินทางไปทวงถามความคืบหน้ากับผู้ที่เกี่ยข้อง อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงไปยังท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ท่านเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และท่านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ช่วยมองเห็นความลำบากของพี่น้องเกษตรกรให้สั่งการเร่งช่วยเหลือด้วย ชาวไร่อ้อย เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรได้ให้ความร่วมมือภาครัฐทุกอย่าง และในอาชีพนี้นำรายได้มาพัฒนาประเทศตลอด
ด้านนายดร ศรีโสภา นายกสมาคมชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นถึงความยากลำกบากของเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพราะต้องแบกรับค่าจ้างตัด ค่าปุ๋ย ค่าแรง และให้มีความชัดเจนในเรื่องการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวผลผลิตตัดอ้อยสด รวมทั้งมีความชัดเจนของในเรื่องราคาอ้อยไหม้ด้วย