Think In Truth
เทคโนโลยีควอนตั้น...กับ 'ยุคศิวิไลซ์' โดย: ฟอนต์ สีดำ
เมื่อวันอังคารที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ประเทศจีนสร้างความฮือฮาด้วยการส่งดาวเทียมสื่อสารเชิงควอนตัมสู่อวกาศเป็นชาติแรกของโลก เพื่อทดลองการสร้างเครือข่ายการสื่อสารเชิงควอนตัม ซึ่งมีความปลอดภัยสูง ชนิดที่แทบจะเรียกได้ว่า ปลอดการเจาะข้อมูล ขึ้นมา ซึ่งหากจีนประสบความสำเร็จในการทดลองครั้งนี้ แดนมังกรจะนำหน้าประเทศคู่แข่งอื่นๆ ในการแข่งกันด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ทั่วโลก
วันที่ 24 ตุลาคม 2024มีรายงานว่า ที่ประชุมระดับผู้นำบริกส์ (BRICS) ออกแถลงการณ์ร่วมของผู้นำ ซึ่งถือเป็นผลลัพธ์การประชุมครั้งนี้ ปรากฏในปฏิญญาคาซาน (Kazan Declaration) ตามชื่อเมืองคาซาน สถานที่จัดประชุม หลังจากการประชุมสุดยอดที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพในระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม โดยมีบางประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบใหม่ของโลก โดยเฉพาะระบบการเงินของโลกใหม่ มีดังนี้
การปฏิรูประบบการเงินระหว่างประเทศ : ผู้นำบริกส์ BRICS เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิรูปโครงสร้างการเงินระหว่างประเทศในปัจจุบัน เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการเงินระดับโลก รวมถึงการกำกับดูแลเศรษฐกิจระดับโลก เพื่อให้โครงสร้างการเงินระหว่างประเทศมีความครอบคลุมและยุติธรรมมากขึ้น ระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนของ บริกส์ BRICS : “เราตระหนักถึงประโยชน์อย่างกว้างขวางของเครื่องมือการชำระเงินข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส ปลอดภัย และครอบคลุม ซึ่งสร้างขึ้นบนหลักการของการลดอุปสรรคทางการค้าและการเข้าถึงที่ไม่เลือกปฏิบัติให้เหลือน้อยที่สุด เรายินดีกับการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศบริกส์และคู่ค้า” โครงการริเริ่มบริกส์เคลียร์ (BRICS CLEAR) : ผู้นำบริกส์จะหารือและศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานการชำระหนี้และการฝากเงินข้ามพรมแดนที่เป็นอิสระ ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเพื่อเสริมโครงสร้างพื้นฐานตลาดการเงินที่มีอยู่เดิม
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เป็นผู้มีบทบาทนำในการเรียกร้องให้ประเทศกลุ่มบริกส์กระชับความร่วมมือทางการเงินและเศรษฐกิจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยระบุว่าความจำเป็นในการปฏิรูปโครงสร้างการเงินระหว่างประเทศกำลังมีความเร่งด่วนมากขึ้น
ประเด็นในการบริหารจัดการทางการเงินของโลกใหม่ ที่ประชุมระดับผู้นำบริกส์ (BRICS) ได้กล่าวถึงเป็นการบริหารจัดการเงินของโลกใหม่ด้วยระบบควอนตั้มคอมพิวเตอร์ ที่กำหนดเม็ดเงินเป็นดิจิตอลในระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน Block Chain ที่มีทองคำเป็นตัวค้ำประกันค่าของเงินในแต่ละสกุล ดังนั้นปริมาณของเงินการการแลกเปลี่ยนสินค้าโดยใช้เงินดิจิตอลที่มีมีทองคำค้ำประกันค่าเงินเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน โดยผ่านระบบการบริหารจัดการเงินด้วยระบบ ควอนตั้ม ไฟแนนเชียล ซิสเต็ม หรือ QFS จะเป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถกำกับติดตามการใช้เงินให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์
จากข้อมูลที่ยกมาให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ ก็พอที่จะบอกได้ว่า โลกของเรากำลังพัฒนาไปสู่ยุคศิวิไลซ์ ที่มีเทคโนโลยีควอนตั้มเป็นพื้นฐานในการสร้างสังคมแห่งความศิวิไลซ์
โดยการเริ่มต้นจากเทคโนโลยีการสื่อสาร ที่ประเทศจีนได้ส่งจรวด 'ลอง มาร์ช-2ดี' (Long March-2D) ถูกยิงออกจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วฉวน ในทะเลทรายโกบี เพื่อส่งดาวเทียมทดลองควอนตัมในระดับอวกาศ (Quantum Experiments at Space Scale: QUESS) น้ำหนัก 600 กก. สู่วงโคจรของโลก ที่ความสูงประมาณ 500 กม. ดาวเทียมดวงนี้ยังมีชื่อเล่นว่า 'ม่อจื๊อ' ซึ่งตั้งตามชื่อของนักปรัชญาในอดีตของจีน โดยโครงการทดลองครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันวิทยาศาสตร์จีน, มหาวิทยาลัยเวียนนาของออสเตรีย และสถาบันวิทยาศาสตร์ออสเตรีย เพื่อพัฒนาการเข้ารหัสเชิงควอนตัม (quantum encryption) และเทคโนโลยีส่งข้อมูลระหว่างอะตอม (quantum teleportation) นี่เป็นนวัตรกรรมทางเทคโนโลยีควอนตั้ม ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวิถีชีวิตของคนในสังคมโลก
อีกทั้งการประชุมประเทศในกลุ่มบริกซ์ (BRICS) ยังได้ประกาศถึงการจัดระเบียบทางการเงินโลกใหม่ (One World Order) ที่จะบริหารจัดการทางการเงินด้วยระบบ Quantum Financial System หรือ QFS เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการเงินของโลกในอนาคต ก็พอที่จะชี้ให้เห็นถึงเทคโนโลยีควอนตั้ม เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ ถึงแม้นการกำกับความตรงไปตรงมา และควบคุมให้เกิดความเป็นธรรมด้วยเทคโนโลยีอยู่ แต่ก็จะทำให้เกิดการลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมโลกด้วยการตรวจสอบได้ และการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของคนในโลกได้อย่างตรงไปตรงมา
เทคโนโลยีควอนตั้ม คืออะไรควอนตัมเป็นสาขาของฟิสิกส์ที่ศึกษาพฤติกรรมของสสารและพลังงานในระดับที่เล็กที่สุด ซึ่งมีพฤติกรรมที่แปลกและน่าสนใจ และนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเราในอนาคต ง่ายๆ เลยคือ ควอนตัม คือ การศึกษาพฤติกรรมของสสารและพลังงานในระดับที่เล็กมากๆ เช่น อะตอม หรืออนุภาคย่อยอะตอม
ควอนตัม หมายถึง ปริมาณที่น้อยที่สุด ในฟิสิกส์ควอนตัม พลังงาน สสาร และปริมาณอื่นๆ จะถูกแบ่งออกเป็นหน่วยเล็กๆ ที่ไม่สามารถแบ่งย่อยได้อีก เรียกว่า ควอนตา (quanta)
พฤติกรรมแปลกๆ: อนุภาคในระดับควอนตัมมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเห็นในชีวิตประจำวันมาก เช่น อาจอยู่ในหลายสถานะพร้อมกัน (superposition) หรือเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก (entanglement)
ซูเปอร์โพซิชัน (Superposition): อนุภาคควอนตัมสามารถอยู่ในหลายสถานะพร้อมกัน เช่น เหรียญที่กำลังโยนอยู่ อาจจะเป็นหัวและก้อยไปพร้อมกัน จนกว่าจะเปิดดู เอ็นแทงเกิลเมนต์ (Entanglement): อนุภาคสองตัวที่พัวพันกัน จะมีสถานะเชื่อมโยงกัน แม้จะอยู่ห่างกันไกลแค่ไหน การวัดสถานะของอนุภาคหนึ่ง จะส่งผลต่อสถานะของอีกอนุภาคหนึ่งทันที
จากปรากฏการณ์ของอนุภาคที่มีพฤติกรรมแปลกนี้ จึงเป็นที่มาของการใช้ความเป็นควอนตั้มของอนุภาคมาพัฒนาเทคโยโลยี โดยใช้ความเป็น ซูเปอร์โพซิชั่น (Superposition) มากำหนดโปรโตคอลเพื่อลดอุปกรณ์ในการส่งสัญญาณถึงกัน เพราะอนุภาคควอนตั้น จะมีสองเสตท คือ สปินลง(spin down) กับ สปินขึ้น(spin up) อนุภาคคู่นี้ จะอยู่กันแค่ไหน ก็จะสามารถแสดงพฤติกรรมที่มีผลต่อกันในทางตรงกันข้ามเสมอ คุณสมบัตินี้จึงถูกนำมากำหนดทางไบนารี่เป็น 0 กับ 1 ซึ่งเป็นเลขฐานสอง ที่ใช้กับระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้
พัฒนาการของเทคโนโลยีควอนตั้ม จึงยกระดับของการส่งสัญญานจากที่หนึ่งไปยักอีกที่หนึ่ง โดยไม่ต้องใช้ตัวกลางในการนำสัญญาณถึงกัน เพียงแต่ใช้คุณสมบัติของอนุภาคควอนตั้ม เป็นการสื่อสารของสัญญาณ ด้วยความเร็วของการแสดงพฤติกรรมของอนุภาคควอนตัม ที่แสดงพฤติกรรมพร้อมกัน จึงทำให้การส่งสัญญาณของควอนตัมสามารถส่งสัญญาณได้เร็วมาก หรือจะถึงว่าพร้อมกัน เทคโนโลยีนี้จึงมีประสิทธิภาพสูงกว่าเทคโนโลยีดิจิตอลคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุปัน
โลกแห่งเทคโนโลยีควอนตัม จึงสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหว และการประมวลผลได้อย่างทันท่วงที และสามารถควบคุมกระบวนการต่างได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคศิวไลซ์ จึงถูกควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ ด้วยความตรงไปตรงมาของเทคโนโลยี ที่จะนำมาใช้ในการตรวจจับ และให้การส่งเสริมพัฒนาการในการใช้เทคโนโลยีควอนตั้มเพื่อความแม่นยำและถูกต้องของเนื้องาน ที่เป็นที่ยอมรับของคนในสังคม ในการสนองความต้องการ และแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพ
สังคมในอนาคต จะถูกตรวจสอบ คนในสังคมต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเอง ตามเงื่อนไขทางสังคมที่กำหนดให้สามารถปฏิบัติได้ ด้วยความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ที่ถูกวางเงื่อนไขให้เทคโนโลยีตรวจจับความผิดปกติของพฤติกรรมมนุษย์ จะทำให้สังคมต้องเรียนรู้กติกาโลกใหม่ และปฏิบัติตามระเบียบโลกโดยไม่ให้ผิดต่อกติกาที่ถูกบันทึกไว้ในการประมวลปลของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจจับในการควบคุมให้สังคมอยู่ในระเบียบของโลกใหม่ ซึ่งจะเป็นการลดอาชญากรรมของโลกลง เศรษฐกิจของโลกจะถูกเปลี่ยนความมั่งคั่งไปอยู่ผลผลิตและทรัพยากรที่มวลมนุษยชาติเป็นผู้สร้างขึ้นมา โดยใช้เงินเป็นตัวกลางในการผลิตและแลกเปลี่ยน สังคมจะตรงไปตรงมาตามเทคโนโลยีที่ถูกกำหนดเงื่อนไขที่เป็นกติกาในการควบคุม ซึ่งนี่เป็นการคาดการณ์ในบางส่วน ที่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมยุคศิวิไลซ์ ที่ใช้เทคโนโลยีควอนตั้มเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต
สังคมยุคศิวิไลซ์ที่มีเทคโนโลยีควอนตั้มเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ถือว่าเป็นวิวัฒนาการของโลกถึงขั้นสูงสุดแล้วหรือยัง ก็อยากจะบอกถึงท่านผู้อ่านว่า ยัง เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นในการก้าวสู่ยุคพระศรีอารย์ หรือยุคพระศรีอริยเมตไตร หรือยุคพระศรีอริยไมตรี กล่าวคือ ยุคศิวิไลซ์ เป็นเพียงยุคที่มนุษย์ถูกควบคุมจากการตรวจจับด้วยเทคโนโลยีควอนตั้ม ที่มีศูนย์ข้อมูลควอนตั้มคอมพิวเตอร์เป็นศูนย์กลางของข้อมูล ทั้งระเบียบกติกาของสังคม และข้อมูลจากการตรวจจับพฤติกรรมของมนุษย์และสรรพสิ่งบนโลก โดยศูนย์ข้อมูลนี้ จะไม่สามารถเข้าไปแก้ไขข้อมูลได้จากบุคคลทั่วไป หรือฐานข้อมูลมีความปลอดภัยสูง ซึ่งนั่นหมายความว่า ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บโดยเทคโนโลยีควอนตั้ม จะถูกบันทึกไว้ ที่ยากจะเกิดการแฮ็กข้อมูล เพื่อการเพิ่มเติม แก้ไข หรือลบออกได้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า จะเข้าถึงไม่ได้ เพราะการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล นั้นจะใช้รหัสผ่านเข้าไปเพื่อการเข้าถึงข้อมูล นั่นหมายถึงความเป็นมิตรระหว่างผู้ใช้ที่เป็นบุคคลทั่วไปกับควอนตัมเทคโนโลยีนั้นยังไมเกิดขึ้น ความเป็นอริยะระหว่างสรรพสิ่งและการใช้ข้อมูลที่เกิดจากการตรวจจับในสิ่งที่เกิดขึ้น ยังขาดความความมีไมตรีต่อกันอย่างเป็นกุศล
โลกอนาคตที่มีวิวัฒนาการสูงสุด จะไม่ได้หยุดอยู่ที่ยุคศิวิไลซ์ที่ใช้เทคโนโยลีควันตั้มเป็นเครื่องมือตรวจจับพฤติกรรมของมนุษย์ที่อยู่บนโลกใบนี้ เมื่อคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้สามารถฝึกตนเองให้สามารถตีความหมายถึงพฤติกรรมของอนุภาคควันตั้มด้วยตนเอง และสามารถแปลความหมายของพฤติกรรมอนุภาคควันตั้นด้วยฌาณของตนเองได้ เมื่อนั้นเป็นวิวัฒนการสูงสุดของสังคมโลก คือ มนุษย์ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี ที่ใช้ในการรับสัญญาณควันตั้นเพื่อแปลความหมายให้เป็น 0 และ 1 ที่เป็น DATAออกมาแล้วนำไปผ่านระบบประมวลผลหรือ Processor และแสดงผล Mornitor ออกมาให้คนเรารับทราบและประมวลผลด้วยตนเอง เพื่อการตัดสินใจเป็นกระบวนการสื่อสารครั้งสุดท้ายของ LOOP ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มนุษย์สามารถพัฒนาให้เกิดวิวัฒนาการถึงขั้นสูงสุดได้ด้วยการฝึกสมาธิด้วยฌาณสมาบัติ จนสามารถสื่อสารถึงกันและกันด้วยฌาณได้นั้น บุคคลนั้นจะเป็นผู้ละกิเลสได้อย่างหมดจด เมื่อคนในสังคมสามารถฝึกปฏิบัติตนถึงขั้นมีฌาณขั้นสูงแล้ว สังคมของมนุษย์โลกจะอยู่ในมิติแห่งสวรรค์ที่แท้จริง