Think In Truth
'ยุคศิวิไลซ์'...จะเริ่มขึ้นหลังการเลือกตั้ง สหรัฐอเมริกา โดย: ฟอนต์ สีดำ
ผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งประธานธิบดีของสหรัฐ ปรากฏว่านายโดนัล ทรัมป์ มีคะแนนจากการเลือกตั้งของประชาชนสหรัฐเหนือกว่า นางกมลา แฮร์รีส ซึ่งหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกมาก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากนโยบายทางด้านการเงินการคลังของสหรัฐก็จะมีการเปลี่ยนแปลง การเมืองโลกที่มีสถานการณ์ความอึมครึมของโลกก็จะเปลี่ยนแปลง ความสัมพันธ์ของความร่วมมือของพันธมิตรของทุกประเทศในโลกก็จะดีขึ้น การฟื้นฟูสภาพแวดล้อม การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ก็จะดีขึ้น
ก่อนอื่นต้องขอทำความเข้าใจกับการจำแนกค่ายการปกครองของประเทศต่างๆ เพื่อให้เข้าใจถึงเงื่อนไขทางการเมืองโลกได้ชัดเจนขึ้น ที่ผ่านมาเรามักจะจำแนกการปกครองของประเทศต่างทั่วโลก เป็นค่ายประชาธิปไตย กับค่ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งความรู้สึกของคนทั่วไปก็จะมองว่าค่ายประชาธิปไตย เป็นค่ายทุนนิยม และค่ายคอมมิวนิสต์ เป็นค่ายคอมมูน ที่ประชาชนและทรัพยากรของประเทศนั้นเป็นของส่วนรวม แนวคิดทางการเมืองโลกจึงจำแนกประเทศต่างๆ ออกเป็นสองค่ายใหญ่อย่างนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วประเทศไทยเองก็พยายามที่จะอยู่ระหว่างของสองค่ายนี้อย่างมีความประนีประนอม หรือจะเรียกว่าประเทศเป็นกลางนั้นเอง แต่มันก็ยากในการที่จะนำเสนอความเป็นกลางของตนเองให้เกิดการยอมรับทั้งสองฝ่าย นั่นคือภาพที่เรามองเห็น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากที่ฝ่ายโลกสังคมนิยมได้ปรับแนวทางการปกครอง ก็ได้เกิดแนวคิดทางการปกครองตามทฤษฎีนีโอมาร์กซิสต์ ที่ไม่ได้ปฏิเสธทุนกับการพัฒนา แนวคิดการพัฒนาระบอบการปกครองใหม่ได้กระจายไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศด้อยพัฒนาและประเทศกำลังพัฒนา การจำแนกแนวทางการปกครองจะยึดเอาชื่อประเทศแล้วจำแนกว่าประเทศนั้นเป็นประเทศอยู่ในกลุ่มการปกครองนั้นเลยไม่ได้ จำเป็นต้องศึกษาเข้าไปภายในการปกครองของประเทศนั้นอย่างลึกซึ้ง
แนวทางการปกครองของโลกที่มีการแข่งขันเพื่อให้มีบทบาทสำคัญให้การกำกับทิศทางการจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ One World Oder จึงจำเป็นต้องมองถึงแนวคิดในการดำเนินการทางการเมืองของกลุ่มผลประโยชน์ (Interest Group) ในประเทศนั้นๆ ด้วยว่า กลุ่มผลประโยชน์ที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของประเทศนั้น มีแนวคิดอย่างไร กล่มผลกระโยชน์ที่ทำกิจกรรมทางการเมืองในประเทศนั้นเข้าถึงประชาชนของเขาทั้งในและนอกประเทศอย่างไร จึงจะสามารถประเมินได้ว่า ในแต่ละประเทศจัดอยู่ในกลุ่มมหาอำนาจที่ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลกในกลุ่มใด
กลุ่มมหาอำนาจที่ควบคุมระบบเศรษฐกิจโลกอยู่ปัจจุบันนี้ ถ้าจะจำแนกกล่มใหญ่ๆ ก็จะมีอยู่เพียงสองกลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มอิลลูมิเนติ(Illuminati) และกลุ่มไวท์แฮท (White Hat) โดยกลุ่มอิลลูมิเนติเป็นกลุ่มทุนใหญ่ที่มีตระกูลรอทไชด์ ตระกูลร็อคกี้ เฟลเลอร์ และกลุ่มเจพี มอร์แกน เป็นกลุ่มหลักในการวางระบบการเงินการธนาคาร ทั้งโลก ที่มุ่งเน้นทำธุรกิจการเงิน โดยอาศัยหลักทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ของอดัม สมิธ เป็นฐานหลักสำคัญ ซึ่งรายละเอียดในการบริหารจัดการขึ้นอยู่กับตลาดในแต่ละประเทศ โดยใช้เงิน FIAT เป็นหลักในการเป็นตัวแทนทางการค้า ที่ใช้ระบบ SWIFT ในการดำเนินการระบบการเงินการธนาคาร ซึ่งในขณะเดียวกัน กลุ่มไวท์แฮท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่พึ่งก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในโลก โดยแนวคิดของกลุ่มไวท์แฮทนี้ได้ใช้หลักและแนวทางในการดำเนินการแบบ นีโอมาร์คซิสต์ ที่มีระบบการบริหารจัดการแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงระบบควอนตั้ม เป็นเครื่องมือในการควบคุมระบบการบริหาร ซึ่งใช้ระบบบล็อคเชน เป็นฐานข้อมูลในการประมวลผล ซึ่งมีความปลอดภัยสูง โดยระบบการเงิน เรียกว่า Quantum Financial System หรือ QFS ในกลุ่มไวท์แฮทไม่ได้ทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อความมั่งคั่งทางการเงิน แต่ดำเนินการแชร์เงินเพื่อการผลิต ซึ่งกลุ่มอิลลูมิเนติจะให้ความสำคัญกับปริมาณเงินเป็นความมั่งคั่ง แต่ในทางกลับกันกลุ่มไวท์แฮทจะให้ความสำคัญกับผลผลิตเป็นความมั่งคั่ง
ระบบทุนทั้งสองกลุ่มนี้ ได้แทรกตัวอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยมีระบบ SWIFT ของกลุ่มอิลลูมิเนติ ยังคงมีระบบควบคุมระบบการเงินของโลก ซึ่งในเวลานี้ ระบบ SWIFT กำลังถูกท้าทายจากระบบ QFS จึงถึงทำให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ถอนทองคำที่นำไปฝากเพื่อรองรับค่าเงินของตนเอง ออกมาเพื่อสำรองค่าเงินในระบบ QFS ซึ่งส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐไม่น้อย หรืออาจจะส่งผลต่อการล่มสลายของระบบการเงินการธนาคารในระบบ SWIFT ในอนาคต
ด้วยระบบทางการเงินการธนาคารของโลกที่มีทั้งสองระบบเข้าไปมีบทบาทต่อกลุ่มผลประโยชน์ ที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของในทุกประเทศทั่วโลก การที่เราจะเอ่ยชื่อประเทศแล้วจัดกลุ่มประเทศในค่ายต่างๆ เลยนั้น จึงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องมากนัก เราจึงจำเป็นต้องพิจารณาจำแนกประเทศต่างๆ ถึงกลุ่มผลประโยชน์ที่ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของประเทศนั้นๆ เราจำเป็นต้องพิจารณานโยบายสอดคล้องกับมหาอำนาจทางการเงินการธนาคารกลุ่มใด เราจึงจะประเมินได้ว่า ทิศทางของการพัฒนาประเทศเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร และจะมีความสัมพันธ์กับประเทศต่างทั่วโลกอย่างไร??...
ต่อกรณีของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐที่มีนายโดนัล ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ เราก็พอที่จะประเมินได้ว่า ในอนาคต นายโดนัล ทรัมป์ จะมีความสำคัญต่อการทำให้ระบบ SWIFT ของการเงินการธนาคารของโลกนั้นล่มสลายลง และโลกจะดำเนินการเงินการธนาคารใหม่ด้วยระบบ QFS ความสัมพันธ์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะดีขึ้น สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮีซบอลเลาะห์ก็จะสงบลง ความกลังวลที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามก็จะไม่มี แนวทางการแก้ปัญหาสภาพโลกร้อนก็จะดีขึ้น ถ้ามองย้อนเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยถูกมองจากโลกของฝั่งว่าเป็นประเทศเป็นกลางมาตลอด ดังนั้นประเทศไทยจะได้รับเกียรติจากมหาอำนาจสองฝ่ายเป็นประเทศที่เชื่อมสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของสองฝ่ายมหาอำนาจ กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก พื้นฐานประเทศที่ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในความสนใจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ก็จะได้รับการยอมรับในฐานะเป็นประเทศที่เชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีของประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยควรต้องคว้าโอกาศนี้ไว้ รักษาโอกาสและพัฒนาความน่าเชื่อถือนี้เป็นแนวทางการสร้างสันติภาพและวัฒนธรรมของโลกที่เป็นโลกแห่งสันติภาพ โลกแห่งความสงบสุขอย่างนิรันดร์ในยุคพระศรีอริยไมตรี ที่ต่อจากยุคศิวิไลซ์ ไปให้ได้
***หมายเหตุ....ยุคพระศริอริยไมตรี หรือยุคพระศรีอาริย์ ขอให้ท่านผู้อ่านไปอ่านเพิ่มเติมในตำราพระมาลัยสูตร ของนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ หรือเจ้าฟ้ากุ้ง ควรอ่านหลายๆ รอบ ถ้าอ่านออกเสียงได้ จะดี จะทำให้จำและตีความได้ดี