ปลุกกระแส!ดึง'เบลล่า ราณี'ร่วมขบวนแห่ งานหลวงพ่อโสธรปีนี้จัดช่วง12-24พ.ย.นี้

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 - 17:59 น.

---

ฉะเชิงเทราเบลล่า “ราณี แคมเปน” นางเอกคนดังจ่อร่วมขบวนแห่งานนมัสการหลวงพ่อโสธรครั้งที่ 134 ในวันที่ 12 พ.ย.ปีนี้ ขณะทางจังหวัดจัดยาวต่อเนื่อง 13 วัน (12-24 พ.ย.67) ควบรวมงานวันลอยกระทงที่ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ระหว่าง 14-15 พ.ย.67 พร้อมชมการแข่งขันเรือมาศพื้นบ้านและเรือยาวประจำปีสุดยิ่งใหญ่ ที่เตรียมการระดมปี่ฆ้องกองเชียร์และนักพากย์ชั้นนำมาร่วมสั่นสะเทือนลำน้ำในช่วง 15-16 พ.ย.67 โดยมีกองเรือเข้าร่วมบุญสร้างกุศลลงสนามแข่งขันมากถึง 82 ลำในวันที่ 15-16 พ.ย.67 นี้

วันที่ 6 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (5 พ.ย.67) ระหว่างเวลา 16.00-17.30 น. ทาง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดให้มีการจัดแถลงข่าวการจัดงานนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทราขึ้นที่บริเวณศาลาริมน้ำ ท่าน้ำหน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี น.ส.ฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา มาเป็นประธานในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและผู้ร่วมงาน

โดยในปีนี้ทาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกำหนดการจัดงานแบบต่อเนื่องยาวนานว่าในทุกปี เป็นเวลา 13 วันระหว่างวันที่ 12-24 พ.ย.67 ทั้งที่บริเวณวัดโสธรและที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ในงานจะมีมโหรสพ การแสดงดนตรี กิจกรรมการประกวดร้องเพลงการเดินแบบผ้าไทย และการออกร้านและลานเครื่องเล่นภายในงาน 

สำหรับในวันที่ 12 พ.ย.67 นั้น จะเริ่มมีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน จ.ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เวลา 04.09 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์รัชการที่ 5 หน้าศาลากลาง ศาลหลักเมือง ศาลท้าวมหาพรหม การบวงสรวงบูรพกษัตริย์ และต่อเนื่องด้วยพิธีบวงสรวงหลวงพ่อโสธร ด้วยไข่ไก่ต้มจำนวน 110,999 ฟอง ซึ่งในปีนี้ได้เปิดให้ประชาชนผู้ที่ต้องการร่วมบวงสรวงต่อองค์หลวงพ่อโสธรนั้น สามารถนำไข่ต้มเข้ามาร่วมพิธีบวงสรวงได้ด้วย ก่อนที่จะมีการอัญเชิญหลวงพ่อโสธรองค์จำลองขึ้นสู่ขบวนรถบุพชาติ ประกอบริ้วขบวนแห่ทางบกและการแสดงรวม 16 ขบวน 

ขณะที่ตามเส้นทางขบวนแห่ได้จัดให้มีการประกวดโต๊ะหมู่บูชาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 109 แห่งร่วมกับส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 209 โต๊ะหมู่บูชา ที่จะมาจัดเครื่องบูชารอรับเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์หลวงพ่อโสธรตามรายทาง ในขณะที่ขบวนเคลื่อนผ่าน ซึ่งในปีนี้ทางธนาคารกรุงไทย ได้เตรียมจัดการแสดงร่วมขบวน โดยได้นำดารานักแสดงคนดัง “เบลล่า ราณี แคมเปน” มาทำการแสดงถวายหลวงพ่อโสธรและร่วมในขบวนแห่ทางบกด้วย

 

ส่วนในวันที่ 14 พ.ย.67 จะมีพิธีอัญเชิญองค์หลวงพ่อโสธร ลงสู่ขบวนแห่ทางน้ำ ในเวลา 07.09 น.เริ่มปล่อยขบวนเรือล่องไปยังทาง อ.บางปะกง และไปสิ้นสุดที่ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง และในวันที่ 15 พ.ย.67 เวลา 06.00 น. จะมีการปล่อยขบวนแห่ทางน้ำขึ้นไปทาง อ.บางคล้า โดยจะแวะเข้าเทียบท่าที่บริเวณที่ว่าการ อ.บางคล้า เป็นจุดสุดท้าย

ด้าน นายพงศธร ถาวรวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้กล่าวแถลงถึงการจัดงานลอยกระทง “วิถีไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ที่ทาง ทม.ฉะเชิงเทรา จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 พ.ย.67 ที่บริเวณสวนมรุพงษ์ ด้านหน้า รพ.พุทธโสธร ต่อเนื่องไปจนถึงบริเวณหน้ากำแพงเมืองเก่า ตลอดแนวชายน้ำไปจนถึงหน้าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีท่าน้ำที่ได้จัดเตรียมความพร้อมไว้ในงานรวม 5 ท่าและท่านอกบริเวณงาน 2 ท่า โดยรูปแบบการจัดงานจะมุ่งเน้นในเรื่องของการลอยกระทงในแบบของการอนุรักษ์เป็นเป้าหมายสำคัญของงานมากที่สุด ในงานมีการจัดประกวดร้องเพลง การฉายหนังกลางแปลง การประกวดหนูน้อยนพมาศ และการออกร้านค้าจำหน่ายอาหารประจำถิ่นที่มีรสชาติดีมีชื่อเสียงในจังหวัดกว่า 130 ร้านค้า นายพงศธร ระบุ

สำหรับงานในส่วนของทางวัดโสธรนั้น พระครูสุตวรกิจพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ได้กล่าวถึงการจัดงานในส่วนของทางวัดโสธรว่า ทางวัดจะทำการเปิดพระอุโบสถให้ประชาชนเดินทางมานมัสการหลวงพ่อโสธร ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. ตลอดระยะเวลา 13 วันของการจัดงาน โดยที่ในคืนวันลอยกระทง 15 พ.ย.67 นั้น พระอุโบสถจะปิดในเวลา 00.00 น. หรือเที่ยงคืน โดยที่ ว่าที่ ร.ต.เกชา กลิ่นเพ็ง ผอ.โรงเรียนวัดโสธรฯ ได้กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลา 13 วันในช่วงหัวค่ำจะมีการแสดงวงโยธวาทิตของนักเรียน และจะมีการแสดงวงดนตรีลูกทุ่งดังจากโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา 

โดยในคืนวันลอยกระทงจะได้นำขบวนเรือแห่องค์หลวงพ่อโสธร ไปลอยลำให้ประชาชนผู้มาเที่ยวในงาน ได้ชื่นชมความสวยงามที่บริเวณกลางลำน้ำ หน้าสวนมรุพงษ์ด้วย ว่าที่ ร.ต.เกชา กล่าว  

ขณะที่ นายธนพัฒน์ เจียรสถิต รองนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เตรียมจัดงานแข่งขันเรือพายพื้นบ้านและเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน ที่บริเวณคุ้งน้ำหน้าวัดโสธร โดยในปีนี้มีเรือมาศและเรือยาวเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันจากหลากหลายจังหวัดเกือบทั่วทุกภูมิภาคมากถึงกว่า 82 ลำ โดยที่ในปีนี้ได้มีการจัดเตรียมนักพากย์การแข่งเรือชั้นนำ และมีกองเชียร์ปี่ฆ้องกลองบรรเลงเอาไว้อย่าคึกคัก เพื่อให้เกิดความสนุกสนานดังลั่นสั่นสะเทือนออกไปไกลจนทั่วทั้งคุ้งน้ำ

สำหรับรางวัลทีมเรือผู้ชนะ ประเภทเรือยาวใหญ่ไม่เกิน 55 ฝีพาย รางวัลชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 7 หมื่นบาท รางวัลรองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจากวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมเงินรางวัล 5 หมื่น 3 หมื่นและ 2 หมื่นบาทตามลำดับ ประเภทเรือยาวไม่เกิน 40 ฝีพาย รางวัลชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมเงินรางวัล 5 หมื่นบาท รางวัลรองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจากวัดโสธรฯ พร้อมเงินรางวัล 3 หมื่น 2 หมื่นและ 1.5 หมื่นบาทตามลำดับ 

การแข่งขันเรือยาวเล็กไม่เกิน 30 ฝีพาย เรือชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 3 หมื่นบาทรางวัลรองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจากวัดโสธรฯ พร้อมเงินรางวัล 2 หมื่น 1.5 หมื่นและ 1 หมื่นบาทตามลำดับ เรือยาวจิ๋วไม่เกิน 12 ฝีพายผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ พร้อมเงินรางวัล 1.5 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจากวัดโสธรฯ พร้อมเงินรางวัล 1 หมื่น 8 พันและ 6 พันบาทตามลำดับ

ส่วนการแข่งขันเรือมาศพื้นบ้านไม่เกิน 12 ฝีพาย ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1.5 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1 หมื่น 8 พันและ 5 พันบาทตามลำดับ การแข่งขันเรือมาศพื้นบ้านแต่งไม่เกิน 12 ฝีพายผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1.5 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1 หมื่น 8 พันและ 5 พันบาทตามลำดับ

การแข่งขันเรือมาศพื้นบ้านไม่เกิน 9 ฝีพาย ผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 8 พัน 6 พันและ 4 พันบาทตามลำดับ การแข่งขันเรือมาศพื้นบ้านแต่งไม่เกิน 9 ฝีพายผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 1 หมื่นบาท รองชนะเลิศ 1-3 ได้รับถ้วยรางวัลจาก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมเงินรางวัล 8 พัน 6 พันและ 4 พันบาทตามลำดับ นายธนพัฒน์ กล่าว 

สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา