In Bangkok
กทม.เดินหน้าป้องกันแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ทั้งสภาวะปกติ-ช่วงวิกฤต
กรุงเทพฯ-นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. กล่าวถึงมาตรการห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกว่า กทม. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปี 2568 ทั้งในสภาวะปกติและช่วงวิกฤตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ประกอบด้วย มาตรการติดตาม เฝ้าระวัง กำจัดต้นตอ และป้องกันประชาชน รวมทั้งการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งการตรวจจับรถยนต์ควันดำ การตรวจสอบสถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่โครงการก่อสร้างต่าง ๆ แห่งละ 2 ครั้ง/เดือน การเฝ้าระวังและป้องกันการเผาหญ้าและเผาขยะในที่โล่งเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงต่อการเผา รวมทั้งกำชับทุกหน่วยงานในสังกัดนำรถเข้าตรวจสภาพก่อนช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และตรวจวัดมลพิษรถของราชการ เพื่อควบคุมและป้องกันการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ส่วนการกำหนดแนวทางดำเนินมาตรการเขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพฯ (Low Emission Zone) เป็นมาตรการที่ช่วยป้องกันและลดผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ในช่วงที่ฝุ่นสูงอยู่ในขั้นวิกฤต โดยการห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ยกเว้นรถประเภท EV, NGV, CNG, EURO 5 - 6 และรถที่ได้ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green list) ซึ่ง กทม. ได้เปิดให้รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปลงทะเบียนบัญชีสีเขียวได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.67 เป็นต้นไป โดยนำหลักฐานการนำรถเข้ากระบวนการบำรุงรักษา ประกอบด้วย การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ (Google Form) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เมื่อสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในขั้นวิกฤตตามเงื่อนไข ส่วนรถประเภท EV, NGV, CNG, EURO 5 - 6 ที่ได้รับการยกเว้น สามารถลงทะเบียนบัญชีสีเขียวได้เช่นกัน เพื่อความสะดวกในการเข้าพื้นที่ Low Emission Zone และการตรวจสอบข้อมูล ทั้งนี้ Low Emission Zone จะมีผลบังคับใช้เมื่อสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในขั้นวิกฤตตามเงื่อนไข คือ ค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง คือ มากกว่า 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จำนวน 5 เขต ประกอบกับมีการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้า 2 วันว่า ค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 จะอยู่ในระดับสีแดง 5 เขต หรือระดับสีส้ม 15 เขต และมีอัตราการระบายอากาศน้อยกว่า 3,000 ตารางเมตร/วินาที รวมถึงมีทิศทางลมมาจาก
ทางตะวันออก โดยจะออกประกาศให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ระยะเวลาการห้าม 3 วัน มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดไปของประกาศ และหากพบว่า ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มอย่างต่อเนื่อง กทม. จะพิจารณาออกประกาศห้ามรถประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.airbkk.com หรือเพจเฟซบุ๊ก “กรุงเทพมหานคร” “สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.” หรือจอแสดงผลบริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ หรือแอปพลิเคชัน “AirBKK” เพื่อรับทราบสถานการณ์ล่วงหน้าและหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน ป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และหากประชาชน พบเห็นเบาะแสแหล่งกำเนิดฝุ่น หรือการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถแจ้งข้อมูลผ่าน Traffy Fondue หรือแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป