Biz news
'สหพัฒนพิบูล'รับรางวัลกำกับดูแลกิจการ 'ดีเลิศ'ระดับ5ดาวรับ100คะแนนเต็ม
กรุงเทพฯ-“สหพัฒนพิบูล” คว้ารางวัลกำกับดูแลกิจการ "ดีเลิศ" ระดับ 5 ดาว 2 ปีซ้อนพร้อมรับ 100 คะแนนเต็ม ประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 3 ปีต่อเนื่อง
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของไทย กล่าวว่า สหพัฒนพิบูล มีความภาคภูมิใจที่ได้รับคะแนนการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies: CGR) ประจำปี 2567 ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ด้วยการสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งรางวัลดังกล่าวมีการสำรวจภายใต้หลักเกณฑ์ 5 ข้อ ได้แก่ 1) สิทธิของผู้ถือหุ้น 2) การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน 3) การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย 4) การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และ 5) ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งสหพัฒนพิบูลได้ปฏิบัติตามมาตรฐานโครงการอย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้ สหพัฒนพิบูล ยังได้รับคะแนนสูงสุด 100 คะแนนเต็ม (5 เหรียญ) คือ ดีเยี่ยม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในโครงการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ AGM Checklist โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งหลักเกณฑ์ของ AGM Checklist ทำการประเมินเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ เช่น การให้ข้อมูลกับผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การเผยแพร่เอกสารการประชุมทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์บนเว็บไซต์ของบริษัท การจัดประชุมในวันและเวลาที่เหมาะสม กรรมการและผู้บริหารเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง และหลักเกณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
อีกบทพิสูจน์ถึงศักยภาพความเป็นเลิศในการดำเนินงานของ สหพัฒนพิบูล สะท้อนถึงการมีธรรมาภิบาล วิสัยทัศน์ และการบริหารแบบยั่งยืนขององค์กรตามแนวทาง ESG ให้ความใส่ใจกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ควบคู่การเดินหน้าขยายธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน ผลการประเมินนี้จะนำไปใช้เป็นแนวทางพัฒนาการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาลของบริษัท อันเป็นส่วนช่วยให้องค์กรเติบโตและดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานด้านความยั่งยืนต่อไป