In Thailand
หลวงพี่น้ำฝนนำศิษย์ปิดจ๊อบมอบเตียงไฟฟ้าครบ208เตียง
นครปฐม-หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะศิษย์ ส่งมอบเตียงไฟฟ้า จำนวน 97 เตียงปิดจ๊อบ ครบ 208 เตียง ให้โรงพยาบาลนครปฐม ใช้ดำเนินการรักษาผู้ป่วยศูนย์โรคหัวใจ ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐมบอกตอนนี้ได้รับครบเพียงพอแล้ว ซึ่งมีภารกิจอีกส่วนคือเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยคัดสรรตามความเหมาะสม ส่วนหลวงพี่น้ำ ย้ำวัดไผ่ล้มช่วยคนป่วยและคนเสียชีวิต แม้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าเสี่ยงทุกวันตลอด 2 ปี แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน จะไม่ขอลัดคิวและสั่งเดินหน้าทำงานและป้องกันตัวเองให้ดีเพราะในวัดยังไม่มีใครติดเชื้อ
วันนี้ 9 มิถุนายน 64 ที่โรงพยาบาลนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพิธีรับมอบเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า จำนวน 97 เตียง โดยมี พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์ อาทิ เช่น นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ นางสาวภัคภิญญา แซ่อึ้ง นายธงรัฐ บูรณบุรีเดช นักธุรกิจรายใหญ่ นางนิศารัตน์ ด่านตระกูล คุณวีรชัย วีรคเชน ชมรมหมู่บ้านนันทวัน วงแหวนปิ่นเกล้าและนักธุรกิจอีกหลายราย ร่วมส่งมอบให้กับ แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อใช้ในอาคารผู้ป่วยโรคหัวใจ โรงพยาบาลนครปฐม โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เผยว่า การมอบเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า วันนี้จำนวน 97 เตียง ทำให้ยอดรวมในการบริจาคทั้งหมดทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้รับจากหลวงพี่น้ำฝนเป็น 208 เตียง มูลค่า 8,112,000 บาท ซึ่งเดิมนั้นเตียงต่างๆ ได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ประกอบกับในปีงบประมาณ 2560 โรงพยาบาลยนครปฐม ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างอาคารโรคหัวใจเขตบริการสุขภาพที่ 5 ซึ่งได้ขอรับการสนับสนุนเตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้าจำนวน 200 เตียง ซึ่งทางหลวงพี่น้ำฝน ได้นำคณะศิษยานุศิษย์มาร่วมกันบริจาคให้ ซึ่งถือว่าเป็นกุศลที่ดีและเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ได้มากในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต
ด้าน แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า เตียงที่ได้รับมาจะนำไปใช้ให้กับผู้ป่วยโรคหัวใจและกระจายไปยังส่วนต่างๆ ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว ซึ่งตอนนี้ภารกิจของโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งเป็นศูนย์กลางหนึ่งของการดำเนินการการแก้ไขปัญหาของการแพร่กระจายไวรัสโควิด-19 โดยขณะนี้ได้มีการกระจายและดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามความเหมาะสมในช่วงนี้ ซึ่งประชาชนที่มีข้อสงสัยขอให้ลงนัดไว้และตรวจสอบวันเวลาตามที่โรงพยาบาลได้ทำการนัดไว้โดยจะมีการแจ้งกลับไปให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง โดยขอให้มีการติดตามข่าวและข้อมูลจังหวัดนครปฐม อย่างต่อเนื่องด้วย
ขณะที่พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า วันนี้ก็ถือว่าจบการดำเนินโครงการจัดหาเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลนครปฐม จำนวนทั้งสิ้น 208 ตัวแล้ว โดยก่อนหน้า ครั้งที่ 1 ได้ทำการมอบให้เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 จำนวน 29 เตียง ครั้งที่ 2 วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 34 เตียง ครั้งที่ 3 วันที่ 25 มีนาคม 2564 จำนวน 48 เตียง และครั้งที่ 4 วันที่ 9 มิถุนายน 64 จำนวน 97 เตียง
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวอีกว่า วัดไผ่ล้อมได้ดำเนินการในการช่วยเหลือและสนับสนุนกิจกรรมของโรงพยาบาลนครปฐม มาตลอดระยะเวลาหลายปี ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินการช่วยทั้งคนป่วยและคนเสียชีวิต ซึ่งส่วนของคนป่วย ได้เปิดสถานที่เป็นคลินิกครอบครัว สาขาโรงพยาบาลนครปฐม ที่วัดไผ่ล้อมดำเนินการในการจัดการตรวจเลือดให้กับผู้ป่วยที่มีอาการความดัน เบาหวาน ซึ่งมีผู้สูงอายุมารับบริการถึงวันละ 200-300 คน โดยมีการสนับสนุนทั้งสถานที่และค่าดำเนินการอื่นให้ทั้งหมดรวมถึงค่าน้ำค่าไฟฟ้า
ในส่วนของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะระยะ 2 ปีเศษ ได้มีการรับดำเนินการเผาศพของผู้ที่ป่วยด้วยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เสียชีวิตจากทั้งโรงพยาบาลนครปฐม และจากทั่วประเทศถึงวันนี้ก็เป็นศพที่ 42 แล้วทั้งหมดการดำเนินการทั้ง 2 ส่วนก็ใช้คณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่วัดเข้าดำเนินการทั้งหมดเพื่อบริการประชาชน โดยตอนนี้รอบวัดไผ่ล้อมนั้นมีการติดเชื้อไวรัสไปหมดแล้ว ซึ่งเหลือแต่ที่วัดยังไม่มีใครติดเชื้อเพราะเราได้มีการวางมาตรการกันเองอย่างรัดกุม แม้จะมีพระสงฆ์ที่เข้าทำงานในด่านหน้า รับวัคซีนเพียง 11 รูป จากพระสงฆ์ที่ทำงานทุกวันในด่านหน้า เกือบ 40 รูปและมีเจ้าหน้าที่อีกเกือบ 40 คน ที่ยังคงทำงานอยู่
“เรื่องนี้อาตมาได้สั่งการในการป้องกันตัวเองไว้อย่างรัดกุมในวัด ซึ่งทางวัดไผ่ล้อมไม่ได้มีการขออภิสิทธิพิเศษเพื่อขอรับวัคซีน ทุกอย่างได้มีการรับคิวตามกระบวนการทั้งหมด โดยทยอยเข้ารับการฉัดตามที่ได้การจัดสรรมา ซึ่งมีคำถามจากเจ้าหน้าที่มากว่าจะได้รับเมื่อไหร่อาตมาก็ตอบไม่ได้ เพราะถ้าเขาเห็นความดีของเราเขาก็จะจัดสรรวัคซีนมาให้เราเอง แต่ขอให้คณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ด่านหน้านั้นทำงานให้ดีและป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดนั่นเอง โดยใช้หลักศีล สมาธิ ปัญญา ” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องโดยมีประชาชาชนมารอรับการบริการที่วัดไผ่ล้อมทุกวันทั้งการตรวจเลือดและเผาศพที่ติดเชื้อไวรัสโควิดแม้จะได้รับวัคซีนไม่ครบในด่านหน้าแต่ยังไม่มีการปิดการดำเนินการในส่วนต่างๆ แต่อย่างใด