Authority & Harm

คนบุรีรัมย์เดือดร้อนหนักนายทุนล็อคบ้าน  พบปลอมเอกสารแจ้งความแต่ตร.ทำเฉย



บุรีรัมย์-อำเภอประโคนชัย/ซับซ้อนยิ่งกว่าทนายตั้ม หญิงวัย 52 ปีกลับมาจากกรุงเทพฯบ้านโดนล็อคเข้าบ้านไม่ได้ทราบต่อมาเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ ที่โอนเอาบ้านไปแล้ว เจ้าตัวเผยไปกู้เงินจริงแต่ยังไม่เคยโอนบ้าน ระบุนายหน้าทำแบบเดียวกันโดนหลายราย ปลอมเอกสารไปโอนเอาบ้านพร้อมที่ดินแล้วโยกมาให้นายทุน แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะเกรงนายทุนใหญ่ 

วันที่ 10 พ.ย. 67 นางไฮ อายุ 52 ปี อยู่เลขที่ 254 หมู่ 12 ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องต่อสื่อ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายทุนเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ใน อ.ประโคนชัย  

หลังจากกลับจากไปเยี่ยมลูกสาวที่กรุงเทพฯ กลับมาถึงบ้านพบประตูรั้วและประตูห้องถูกล็อคเข้าบ้านไม่ได้ กระทั่งชาวบ้านมาแจ้งว่าคนที่มาล็อคบ้านเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ใน อ.ประโคนชัย 

นางไฮ เล่าว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ตนได้เอาโฉนดที่ดินจำนวน 4 ไร่ในนั้นมีบ้านอยู่ 1 หลังไปกู้กับบริษัทไฟแนนท์ ได้เงินมา 110,000 บาท บริษัทดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อเดือน ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 66 มีนายหน้ามาติดต่อให้ย้ายไฟแนนท์ โดยจะเพิ่มเงินทุนให้อีก 10,000 บาท จึงยอมย้ายไฟแนนท์เพราะต้องการเงินเพิ่ม โดยได้ทำหนังสือสัญญาเงินกู้ภัยนายทุนใน อ.ประโคนชัย

หลังจากนั้นได้มีผู้หวังดีมาเตือนว่าให้ระวัง ไปตรวจสอบที่ดินของตัวเองหรือยังว่า “อยู่ไหม” จึงเดินทางไปที่ดินอำเภอประโคนชัย พบว่าได้มีการยื่นหลักฐานเตรียมโอนเป็นของนายทุนแล้ว จึงขอคัดสำเนาเอกสารทั้งหมดจากสำนักงานที่ดินอำเภอประโคนชัย มาตรวจสอบเพราะไม่เคยจะไปซื้อขายกับใคร

ปรากฎว่าได้มีนางบัวรื่น เป็นคนรับโอนที่ดินตนเองงงมากเพราะไม่เคยโอนให้ใครเพียงแต่เอาไปจำนองเท่านั้น เมื่อตรวจสอบเอกสารจากที่ดิน พบว่าการโอนครั้งนั้นมีหลักฐานเป็นใบลงบันทึกประจำวันของ สน.ร่มเกล้า ระบุว่า 

“นางสาวไฮ ห่วงประโคนมาลงบันทึกที่สถานนีตำรวจเพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.65 เวลาประมาณ 13.06 น.ผู้แจ้งมีประสงค์มอบอำนาจให้นางบัวรื่น สุดประโคน มีอำนาจในการโอนขายที่ดินจำนวน 2 แปลงมอบให้นางบัวรื่น สุดประโคน ทำการขายแทนผู้แจ้ง ตั้งแต่เวลานี้ ลงชื่อ พ.ต.ท.ทวี ลาดแล่น สว.(สอบสวน)สน.ร่มเกล้า ได้รับแจ้งความไว้แล้ว จึงให้ผู้แจ้งลงลบายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน”

นางไฮ เล่าด้วยว่า จากการตรวจสอบจากที่ดินยังพบอีกว่านางบัวรื่น ได้โอนบ้านและที่ดินไปยังชื่อของนายทุนเงินกู้รายหนึ่งใน อ.ประโคนชัย สิ่งที่ตนงงคือเอกสารของ สน.ร่มเกล้า ตนไม่เคยไปแจ้ง ไม่เคยรู้จัก สน.ร่มเกล้า ต่อมาทราบว่ามีชาวบ้านที่โดนในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย ใช้ชื่อ สน.ร่มเกล้าเช่นเดียวกัน ไปโอนเอาที่ดินในลักษณะเดียวกัน ส่วนตัวมั่นใจว่าเป็นเอกสารปลอมอย่างแน่นอน

จากนั้นได้เดินเรื่องเพื่อขอความเป็นธรรม เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับนางบัวรื่น ที่รับโอนเป็นคนแรก ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม แต่ตำรวจ สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย กลับใช้วิธีให้เจรจากับนายทุน แต่ไม่สำเร็จเพราะนายทุนเรียกเอาเงิน800,000 บาท ทั้งที่ค้างทั้งหมดเพียง 200,000 บาทเท่านั้น เดินทางไปสถานีตำรวจหลายครั้งแต่ถูกบ่ายเบี่ยงตำรวจไม่รับแจ้งความมาโดยตลอด จนกระทั่งบ้านโดนล็อคประตูดังกล่าว

ตอนนี้อยากให้ผู้รู้กฎหมายมาช่วยชี้แนะหรือช่วยเหลือด้านคดี เพราะตนหมดหนทางแล้ว อยากรู้ว่าการโอนเอาบ้านพร้อมที่ดินด้วยการใช้วิธีปลอมเอกสารดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตอนนี้ต้องไปขออาศัยอยู่บ้านญาติที่อยู่ติดกัน ข้าวของภายในบ้านก็เอาออกไม่ได้ จะงัดเข้าไปก็กลัวโดนแจ้งความเพราะบ้านเป็นชื่อเขา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า ธุรกิจปล่อยเงินกู้ในเขตภาคอีสาน จะมีกลุ่มนายหน้าเข้ามาติดต่อกับคนที่ไปกู้ยืมเงินกับบริษัทหรือธนาคารอยู่แล้ว มาชักชวนให้ย้ายนายทุน เพราะจะได้ยอดเงินกู้เพิ่ม จากนั้นได้เอาเอกสารไปให้นายทุนรายใหม่ที่รู้กัน เอายอดเงินเพิ่มหลังแสนถึงสองแสน ส่วนใหญ่จะเน้นวิธีขายฝาก แล้วเอาเงินส่วนต่างที่ได้จากนายทุนให้กับเจ้าของทรัพย์เพียงหลักหมื่น ที่เหลือนายหน้าเอาไปแบ่งกัน กรณีนี้คาดว่าน่าจะเป็นการปลอมแปลงบันทึกประจำวันของ สน.ร่มเกล้า แล้วเอามาแนบหลักฐานการโอนที่ดินโดยมีเจ้าหน้าที่ที่ดินรับรู้ด้วย เท่าที่ทราบหลักฐานการแจ้งความเป็นของ สน.ร่มเกล้า เหมือนกันทั้งหมดกับผู้เสียหายแต่ละราย

ธีรยุทธ์ ชำนาญกองผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์รายงาน