Authority & Harm
พระวัดในกาฬสินธุ์ขอบิณฑบาต'นายกอิ๊ง' เร่งรัดแก้7ชั่วโคตรทำชาวบ้านเดือดร้อน
กาฬสินธุ์-ผลกระทบ 2 ผู้รับเหมาขาใหญ่ “เฮงนำกิจ-ประชาพัฒน์” ทิ้งงาน 8 โครงการ 7 ชั่วโคตร งบประมาณกว่า 545 ล้านบาท ทำชาวบ้านเดือดร้อน เสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เบิกจ่ายไปกว่า 250 ล้านบาท ทำงานไม่เสร็จ หลังน้ำลดปรากฏเศษซากเสาเข็ม ก้อนหิน เป็นตราบาปสะเทือนใจ ซ้ำเติมความเสียหาย “มหากาพย์ 7 ชั่วโคตร” เป็น “อภิมหา 7 ชั่วโคตร x 2” ขณะที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดขอบิณฑบาต ”นายกอิ๊ง” และ “อนุทิน”รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เร่งหาผู้รับเหมามาทำงานต่อ เพราะกลัวว่าพระพุทธรูปและศาลาวัด จะเกิดการสไลด์ลงแม่น้ำชี
คืบหน้าผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเพื่อป้องกันน้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ งบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการใหญ่ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย “ปัญหา 7 ชั่วโคตร” ที่เกิดปัญหาผลกระทบกับประชาชนโดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เนื่องจาก ก่อสร้างไม่เสร็จ แม้แต่โครงการเดียว ตั้งแต่ปี 2562ถึงปัจจุบัน ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการตรวจสอบ จากกรมโยธาฯ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ขณะที่มีข่าวว่าปรากฏในเอกสารชี้แจง กมธ.ติดตามงบประมาณว่า 2 หจก.ขาใหญ่กลับได้เข้าทำงาน 8 โครงการ 7 ชั่วโคตร อีกครั้งตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำชี หลังวัดใหม่สามัคคี ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จุดก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชี พระอธิการชยุต โชติวโร รองเจ้าคณะตำบลเจ้าท่า เจ้าอาวาสวัด พร้อมด้วยนายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ชาวบ้านจำนวน 10 คน ร่วมกันตรวจสอบสภาพดิน และความมั่นคงของชั้นดิน หลังศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวัด พร้อมร่วมกันเรียกร้องไปถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้รีบจัดผู้รับเหมามาทำงานต่อให้เสร็จในช่วงฤดูแล้งนี้ ก่อนที่พระพุทธรูปและศาลาวัด รวมทั้งเขตธรณีสงฆ์ จะพังทลายลงไปในแม่น้ำชี
นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า กล่าวว่าโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำชีจุดนี้ มีความยาว 423 ม. งบ 59,306,000 บาท ผู้รับจ้างคือ หจก.เฮงนำกิจ จากข้อมูลเริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.63 สิ้นสุดสัญญา 10 ส.ค.65 เบิกจ่าย 19,775,900 บาท ต่อมาผู้รับเหมาได้ทิ้งงานไป และจากการติดตามปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงานกับทางจังหวัด และสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง เจ้าของงบประมาณ ยังได้ทราบว่ามีอีก 7 โครงการ รวมเป็น 8 โครงการกับที่นี่ โดย หจก.เฮงนำกิจได้งาน 6 โครงการ, หจก.ประชาพัฒน์ ได้งาน 2 โครงการ รวมงบประมาณทั้งหมดกว่า 545 ล้านบาท และเกิดปัญหาเดียวกัน จนมีชาวบ้านประณามว่าโครงการมหากาพย์ 7 ชั่วโคตร เพราะการก่อสร้างล่าช้า ยาวนาน ไม่เสร็จสักที ก่อนที่จะขนย้ายเครื่องจักรหนี และทราบต่อมาว่าถูกกรมโยธาฯ ยกเลิกสัญญาไปแล้วทั้ง 8 โครงการ
“ที่ผ่านมาตนและชาวบ้าน พยายามติดตามข่าวความคืบหน้าตลอดว่า ทางรัฐบาลหรือกรมโยธาฯ จะมีมาตรการใดกับผู้รับเหมาทิ้งงาน และเบิกจ่ายเงินงวดงานไปแล้วนั้น จะสามารถเอาผิดและเรียกเงินคืนได้หรือไม่ รวมทั้งจะจัดหาผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานต่อเมื่อไหร่ ซึ่งคำตอบคือความเงียบหาย ตนและชาวเมืองกาฬสินธุ์ได้แต่รอคอย ยังไม่มีความชัดเจนอะไรออกมา และพอระดับน้ำในแม่น้ำชีลดลง มองเห็นเศษซากความเสียหาย แล้วรู้สึกเศร้าใจ เนื้องานที่ทำไว้มลายและเบิกจ่ายไปแล้ว หายไปกับสายน้ำช่วงน้ำหลากที่ผ่านมา และที่ดินบริเวณหลังวัดความกว้างประมาณ 20 เมตร และระยะทางยาวกว่า 200 เมตรก็หายไป ส่วนที่เหลือก็เสี่ยงกับการสไลด์ลงแม่น้ำชี หากไม่รีบมาสร้างต่อ ก็คงจะถูกน้ำกัดเซาะและทรุดพัง ภาพตลิ่งที่เคยเป็นพื้นที่วัดถูกเครื่องจักรขุดดินออกจนสูงชัน ซึ่งติดกับศาลาและพระพุทธรูปที่ปรากฏอยู่นี้ จึงน่าวิตกมากว่าจะเกิดการสไลด์ลงไปในแม่น้ำชีไม่วันใดก็วันหนึ่ง”นายก.อบต.กล่าวในที่สุด
ด้านพระอธิการชยุต โชติวโร รองเจ้าคณะตำบลเจ้าท่า เจ้าอาวาสวัดใหม่สามัคคี กล่าวว่า ช่วงฤดูน้ำหลากที่ผ่านมาเกือบ 2 เดือน นอนไม่หลับเลย ต้องเรียกคณะกรรมการวัด กรรมการหมู่บ้าน มาเป็นเพื่อน คอยเฝ้าระวังนำชีหนุนสูงเอ่อท่วมวัด และหวาดกลัวว่าดินบริเวณหลังวัด ที่เป็นเขตธรณีสงฆ์จะเกิดการสไลด์ลงแม่น้ำชี อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้หลังน้ำลด ก็ยังอดวิตกกังวลไม่ได้ เพราะยังอยู่ในภาวะเสี่ยง ที่พื้นดินบริเวณหลังวัดตามริมฝั่งแม่น้ำชี โดยเฉพาะจุดที่ตั้งศาลา และประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งก็ทำได้แต่คอยช่วยกันตรวจตรา ว่ายังมั่นคงแข็งแรงอยู่หรือไม่ ซึ่งหากดินส่วนนี้จะเกิดการสไลด์ก็คงจะแก้ไขไม่ได้ มีวิธีเดียวที่จะป้องกันได้คือ รีบมาสร้างเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำชีหลังวัดให้แล้วเสร็จเท่านั้น
พระอธิการชยุตกล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ยังไม่ได้รับการแก้ไข จากกรมโยธาธิการฯ หรือหน่วยงานไหนว่าจะทำอย่างไรต่อไป ก็อยากจะขอบิณฑบาตไปถึง “นายกอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เร่งรัดจัดหาผู้รับจ้าง มาดำเนินการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำชีให้แล้วเสร็จด้วย หากมาทำต่อในช่วงฤดูแล้งนี้จะทำง่ายมาก เพราะน้ำลด หากช้าไปถึงหน้าฝนปีหน้าน้ำหลาก ก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิมหลายเท่า และผืนดินบริเวณหลังวัด รวมทั้งศาลา ประดิษฐานพระพุทธรูป ก็อาจจะถูกกระแสน้ำกัดเซาะ และสไลด์ลงแม่น้ำชีได้รับความเสียหายเป็นแน่ หลวงพ่อขอบิณฑบาตตรงนี้ รีบหาผู้รับเหมาดำเนินการสร้างต่อเถิด เจริญพร
ปัญหาก่อสร้าง 8 โครงการ งบประมาณกว่า 545 ล้านบาท โดยทั้ง 2 บริษัทรับเหมาเบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 250 ล้านบาท ปัจจุบันถูกกรมโยธาธิการฯ ยกเลิกสัญญาทั้ง 8 โครงการ เหลือหลักฐานให้เห็นคือเศษซากการก่อสร้าง เสาเข็ม ก้อนหิน ส่วนเนื้องานที่เป็นสันคู คันดิน ถูกกระแสน้ำท่วมจมหายไปหมด จากภาพความเสียหายที่ปรากฏ เหมือนเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมความรู้สึกเจ็บปวดให้กับประชาชนชาวกาฬสินธุ์ และแสนเสียดายงบประมาณที่ละลายหายไปกับสายน้ำ จึงมีชาวบ้านหลายคนประณามโครงการ จากเดิม “มหากาพย์ 7 ชั่วโคตร” เพิ่มเติมว่า “อภิมหา 7 ชั่วโคตร x 2” ดังกล่าว