Biz news

JobThaiเผยคนทำงานให้การตอบรับ 'WORK LIFE FESTIVAL 2024'



กรุงเทพฯ-อีเวนต์ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ในโลกการทำงาน Work Life Festival 2024 โดย JobThai ร่วมกับ Future Trends จัดงานสุดพิเศษที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตการทำงาน ทั้งด้าน Work-Wealth-Health-Fun ในวันที่ 2 - 3 พฤศจิกายน 2567 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากผู้เข้าร่วมกว่า 15,000 คน!

งานนี้มีทั้งหมด 5 โซนหลัก ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานยุคใหม่ ทั้งการพัฒนาทักษะการทำงาน การสร้างความมั่นคงทางการเงิน การรักษาสุขภาพและความสมดุลในชีวิต รวมไปถึงการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการหางานที่ตรงใจ

  • SKILL FORCE EXPO: เตรียมตัวให้พร้อมกับโลกการทำงานแห่งอนาคต ด้วยการอัปสกิลที่ไม่ใช่แค่การพัฒนา แต่คือการเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการทำงานจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ที่จะช่วยเสริมทักษะการทำงานให้คุณพร้อมลุยงานในยุคดิจิทัล
  • MAKE RICH EXPO: ปลดล็อกความมั่งคั่งในแบบฉบับคนรุ่นใหม่ รู้จักการลงทุนและการสร้างความมั่นคงทางการเงินเพื่ออนาคต ผ่านเทคนิคการลงทุนที่เข้าใจง่ายและเหมาะสมกับคนทุกวัย
  • THAILAND TAX EXPO: เจาะลึกทุกมุมมองของภาษี ให้คุณเข้าใจเรื่องภาษีและวางแผนการลดหย่อนภาษีได้อย่างชาญฉลาด
  • FUTURE JOBS EXPO: พบกับโอกาสใหม่ ๆ ในการหางาน ด้วยตำแหน่งงานแห่งอนาคตจาก บริษัทชั้นนำ กว่า 800 ตำแหน่ง ที่มีการเปิดรับสมัคร มากกว่า 5,700 อัตรา ในหลากหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็น Technology, Marketing, Data, HR และอีกมากมาย
  • WORK ไร้ BALANCE EXPO: นำเสนอกิจกรรมสร้างความสมดุลในชีวิตการทำงานเพื่อสุขภาพกาย-ใจ และวิธีการจัดการชีวิตการทำงานให้เต็มที่ได้โดยไม่สูญเสียความสุข

ภายในงาน JobThai ไม่พลาดที่จะเปิดบูธแนะนำแพลตฟอร์มและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่จะทำให้การหางานหรือการหาคนตรงกับเนื้องานเป็นเรื่องง่าย และยังมี Resume Clinic ที่ให้คำปรึกษาและแนะนำเคล็ดลับการทำเรซูเม่ให้น่าสนใจและโดดเด่นในสายตาของ HR พร้อมกิจกรรมลุ้นของรางวัลสุดพิเศษสำหรับผู้ที่มาที่บูธ เช่น ปากกาสมุดโน้ตกระบอกน้ำ และ เสื้อยืดลายพิเศษสำหรับคนทำงานอีกด้วย

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ Co-Founder และ Chief Operating Officer ของ JobThai เผยว่า  ในโซน FUTURE JOBS EXPO ได้รวบรวมตำแหน่งงานแห่งอนาคตจากบริษัทชั้นนำกว่า 800 ตำแหน่ง รวมกว่า 5,700 อัตรา ในสายงานต่าง ๆ เช่น Technology, Marketing, E-Commerce, Data, HR โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากผู้สมัครงานมากกว่า 70,000 คน รวมออนไลน์และออฟไลน์ที่เข้ามาสมัครงานและหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งต่าง ๆ

นอกจากนี้ ยังได้มีการแบ่งปันข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นสำหรับคนทำงานในอนาคตในหัวข้อ The Winning Skills for a Competitive Edge in the Future of Work บนเวที Skill Force Stage โดยกล่าวว่า การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีอย่าง AI และระบบ Automation กระแสโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงทางประชากร รวมถึงแนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ส่งผลให้โลกการทำงานเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Lifelong Learning คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คนทำงานประสบความสำเร็จในอนาคต ทักษะที่จำเป็นในยุคนี้ ได้แก่

  1. Technical Skills: ทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับแต่ละตำแหน่ง เช่น Data Analyst ที่ต้องการทักษะด้านการเขียนโปรแกรมและ Machine Learning
  2. Human Skills: ทักษะการทำงานกับมนุษย์ซึ่งหุ่นยนต์ไม่สามารถทดแทนได้ เช่น การเจรจาต่อรอง การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และความฉลาดทางอารมณ์
  3. Conceptual Skills: ทักษะการคิดที่ช่วยในการวิเคราะห์และสร้างสรรค์นวัตกรรม

และจากการสำรวจที่ JobThai ได้สอบถาม HR และ Line Manager กว่า 1,000 คน ว่าเทรนด์สำคัญของโลกส่งผลกระทบต่อการทำงานในอนาคตอย่างไรบ้าง ผลการสำรวจพบว่า การสรรหาพนักงานที่มีทักษะพร้อมทำงานเป็นเรื่องที่ยากขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงองค์กรได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ Soft Skills และลงทุนในการพัฒนาทักษะ Hard Skills ของพนักงาน เพราะช่องว่างของทักษะที่กว้างขึ้น ทำให้องค์กรต้องให้ความสำคัญกับทักษะทั้งสองกลุ่มควบคู่กัน

โดยทักษะที่ HR คิดว่าเป็นทักษะที่มีความสำคัญกับคนทำงานทุกสายอาชีพในยุคนี้ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. Communication: สามารถสื่อสารทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. Dependability and Attention to Detail: ทำงานด้วยความมีวินัย ละเอียดรอบคอบ และมุ่งมั่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายอย่างมีคุณภาพ ตรงตามกำหนดเวลา และเชื่อถือได้ รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อผลของการตัดสินใจที่เกิดขึ้น 3. Customer Experience: เข้าใจลูกค้า สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า 4. Quality Management: สามารถควบคุมคุณภาพการทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถประเมิน ตรวจสอบ ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงกระบวนการต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ได้ 5. Resilience, Flexibility and Agility: สามารถรับมือและจัดการกับความท้าทายหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และฟื้นตัวจากปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว จัดการกับสถานการณ์ความตึงเครียดในที่ทำงานได้ รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน

นอกจากนี้ผลสำรวจในเรื่องการจ้างงานแบบ Skill-Based Hiring ขององค์กร พบว่า กว่า 82% ขององค์กรพิจารณาคนย้ายสายงานที่มีทักษะตรงตามที่ต้องการ แต่อาจจะมีเงื่อนไขบางอย่างเพิ่มเติม เช่น ผ่านการทดสอบขององค์กร มีประสบการณ์จากสายงานใกล้เคียงกัน  หรือมีประกาศนียบัตรจากสถาบันต่าง ๆ รองรับ

"ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ใครที่รู้จักพัฒนาทักษะตัวเอง มีทักษะการทำงานที่หลากหลายและปรับตัวให้ทันกับเทรนด์ใหม่ ๆ มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จในโลกการทำงาน" นางสาวแสงเดือน กล่าวทิ้งท้าย