Biz news

เจแอลแอล(ไทย)ฉลอง35ปีแห่งการร่วม สร้างสรรค์อนาคตวงการอสังหาฯไทย



กรุงเทพฯ 26 พฤศจิกายน2567 – เจแอลแอล (NYSE: JLL) ประเทศไทยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก ฉลองการดำเนินธุรกิจครบรอบ35 ปีซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของบริษัทสู่ความเป็นเลิศในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์และเติบโตไปพร้อมกับวิวัฒนาการของภาคธุรกิจอสังหา ฯ ในประเทศไทยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

โครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในยุคแรก ๆ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีรูปแบบการใช้งานเพียงอย่างเดียว และค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีการผสานอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆเข้าด้วยกันจนกระทั่งในปัจจุบันตลาดอสังหา ฯ เดินทางเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่นำเสนอการใช้งานหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ โครงการที่ล้ำสมัยเหล่านี้ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงสิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานระดับโลกทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของผู้เช่าและผู้ใช้สอยพื้นที่ทั่วไป

วิสัยทัศน์ของเจแอลแอลต่ออนาคตวงการอสังหาริมทรัพย์

เจแอลแอลเล็งเห็นแนวโน้มในอนาคตและได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ทั่วโลกพร้อมคาดการณ์ผลกระทบหลักต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหา ฯ ในประเทศไทยทั้งนี้บริการต่าง ๆ ของบริษัทจะมีความสอดคล้องไปกับ“อนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์”ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในหลายมิติโดยบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอันดับแรก เนื่องจากกำลังเป็นหัวข้อหลักในการสนทนาและกระบวนการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจอสังหา ฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เจแอลแอลมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนโดยการลงมือปฏิบัติในเห็นเป็นตัวอย่างทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถให้คำปรึกษาเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั้งในด้านธุรกิจอสังหาฯ พร้อมกับการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน

เจแอลแอลกำลังเตรียมพร้อมสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่5 ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการกำหนดรูปแบบอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในอนาคตบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญและน้อมรับการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆโดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์(AI)ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ กำลังให้ความสนใจอย่างมากเนื่องด้วยบริษัทฯ ตระหนักดีว่าการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและAI ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานทั่วไปได้จริง

นอกจากนี้เจแอลแอลยังมุ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนภายในองค์กรและตอบสนองความต้องการในสถานที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมความตระหนักรู้ถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของปัจจัยด้านสังคม เจแอลแอลจึงกำหนดวิสัยทัศน์และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในโลกของการทำงานยุคใหม่ที่ซึ่งพนักงานในธุรกิจต่างๆสามารถกำหนดรูปแบบเวลาและสถานที่ทำงานของพวกเขาเองได้มากขึ้นซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้คนที่โน้มเอียงไปสู่การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน

การวิเคราะห์ข้อมูลนับว่ามีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ของเจแอลแอลโดยบริษัทฯ กำลังบุกเบิกความเป็นผู้นำทางความคิดเกี่ยวกับเมืองกลุ่มธุรกิจเฉพาะสาขาและกระแสเงินทุนซึ่งความสามารถในการเข้าถึงฐานข้อมูลที่ครอบคลุมกว่าคู่แข่งทั้งในไทยและทั่วภูมิภาค ทำให้เจแอลแอลสามารถสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจบนพื้นของฐานข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ความสำเร็จของเจแอลแอล ประเทศไทย

เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจแอลแอลประเทศไทยก้าวขึ้นมาในฐานะผู้นำในหลายภาคธุรกิจ สำหรับภาคธุรกิจตลาดทุนบริษัทฯ ได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุน การปล่อยเช่าและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี2559-2566 โดยฝ่ายตลาดทุนของบริษัทฯ สามารถปิดการขายที่มีความซับซ้อนและมูลค่าสูงได้สำเร็จหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาส่งให้บริษัทฯ ขึ้นแท่นบริษัทที่ปรึกษาอันดับหนึ่งสำหรับลูกค้าที่กำลังต้องการซื้อที่ดินหรือสินทรัพย์กลยุทธ์การขายและปล่อยเช่าสินทรัพย์มองหาพันธมิตรร่วมทุนและบริการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ

สำหรับภาคธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม เจแอลแอลได้ปิดการขายที่ดินหลายแปลงขนาดรวมประมาณ1,600 เฮกเตอร์ (10,000 ไร่) ในช่วงปี 2561-2566 สำหรับภาคธุรกิจโรงแรมและบริการต้อนรับเจแอลแอลได้เป็นตัวแทนซื้อขาย โรงแรมถึง54 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 66,000 ล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งรวมถึงการเจรจาซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตอกย้ำในด้านความเป็นผู้นำ ความเชี่ยวชาญ และความสำเร็จในภาคธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง

ในฐานะผู้นำตลาดตัวจริงในด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์เจแอลแอลได้บริหารพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์รวมมากกว่า7.1 ล้านตารางเมตรทั่วประเทศไทยซึ่งรวมถึงโครงการระดับโลกที่เพิ่งเปิดใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้อย่าง One Bangkok นอกจากนี้แผนกงานบริการวิจัยและให้คำปรึกษาของบริษัทได้รับรางวัลSEA Research Team of The Year ประจำปี 2567จากทาง RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors)และได้ให้คำปรึกษากับโครงการมากกว่า360 โครงการมีมูลค่าโครงการรวมเกินกว่า500,000 ล้านบาทตั้งแต่ปี2558ถึงปัจจุบัน

ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของเจแอลแอลประเทศไทย ยังเห็นได้อย่างชัดเจนจากสำนักงานในกรุงเทพฯซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับLEED Gold ด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานอันยอดเยี่ยมและเป็นสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้การรับรองWELL Platinum ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของพื้นที่สำนักงานที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพของผู้คนเป็นหลัก นอกจากนี้เจแอลแอลประเทศไทยยังผ่านการรับรองGreat Place to Work®โดยพนักงาน87% ยืนยันว่ามีประสบการณ์เชิงบวกในสำนักงานใหญ่การยกย่องเหล่านี้สะท้อนถึงความทุ่มเทของเจแอลแอลในการสร้างวัฒนธรรมของสถานที่ทำงานได้อย่างโดดเด่นผ่านการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน

มุมมองบริการรูปแบบใหม่

เจแอลแอลกำลังปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอบริการเพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่าน 4 แผนงานหลัก ได้แก่ บริการด้านกลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Workplace Strategy & Change Management) เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้สำนักงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และสนับสนุให้การเปลี่ยนแปลงดำเนินไปอย่างราบรื่น ผ่านการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการที่แท้จริงของพนักงานและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนได้ที่ช่วยเพิ่มกำลังผลผลิต นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้นำเสนอบริการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Energy & Sustainability Services: ESS) เพื่อสนับสนุนลูกค้าบนเส้นทาง ESG โดยนำเสนอโซลูชันที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมเพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติงานที่ยั่งยืนและชี้แนะถึงวิธีการบรรลุเป้าหมายด้านESG อย่างเป็นรูปธรรม

ฝ่ายปรับปรุงและพัฒนาสินทรัพย์ (Asset Enhancement) จะช่วยแก้ไขกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานตลาดโดยปรับปรุงประสิทธิภาพและปรับคุณสมบัติให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่าที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มมูลค่าพอร์ตโฟลิโอให้สูงสุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงนี้และเพื่อสนับสนุนบริการเหล่านี้ บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี(Tech Advisory)ของเจแอลแอลจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีสำหรับนำไปปรับใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินงานและการบริหารทรัพย์สิน

แผนงานทั้ง4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเจแอลแอลในการนำเสนอนวัตกรรมที่พร้อมรับมือกับอนาคตเพื่อเพิ่มมูลค่าในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเจแอลแอลวางตำแหน่งบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและการเปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการนำเสนอบริการที่ครอบคลุมซึ่งตอบโจทย์ด้าน กลยุทธ์ในที่ทำงานความยั่งยืนการยกระดับสินทรัพย์และการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม

นายไมเคิลแกลนซี่กรรมการผู้จัดการเจแอลแอล ประจำประเทศไทยและอินโดนีเซียกล่าวว่า“ในโอกาสการฉลองการดำเนินงานในประเทศไทย35 ปีเราไม่เพียงแค่มองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของเราเท่านั้นหากยังมุ่งหน้าสู่อนาคตที่เรากำลังสร้างสรรค์ต่อไปความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคอสังหาริมทรัพย์และโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเจแอลแอล ทำให้เรากลายเป็นแนวหน้าของวิวัฒนาการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของวันนี้”

นายอนาวิลเจียมประเสริฐหัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษาบริษัทโจนส์แลงลาซาลล์ (ประเทศไทย) จํากัด (JLL) กล่าวว่า “การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้เราสามารถสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกที่แข็งแรงและครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทยนอกจากนี้เรายังคงสานต่อความเป็นผู้นำทางความคิด พร้อมนำเสนอบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษาคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราให้สามารถลงุทนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความท้าทายด้วยความมั่นใจ”

นอกจากการฉลองความสำเร็จในครั้งสำคัญนี้ เจแอลแอล ประเทศไทยประกาศความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อโลกที่ดีกว่า ผ่านการนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ พร้อมคำแนะนำที่ดีเยี่ยมจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อลูกค้าในประเทศไทยและที่อื่น ๆ ทั่วโลก