Authority & Harm

แฉรายวัน7ชั่วโคตรทำเทศบาลซ้ำขาใหญ่ ทิ้งงานเสาโด่เด่ไร้เยียวยา-แก้ปัญหา 



กาฬสินธุ์-ยิ่งขุดยิ่งฉาว “7 ชั่วโคตร” ทิ้งงาน 3 ปี ทำริมแม่น้ำลำปาวช้ำชุมชนเมืองผวาภัยเงียบ ถนนทรุด อุบัติเหตุ โรคระบาด ผู้นำชุมชน ประชาชนจับมือลุยแฉอีกจุด ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำปาว จากริมน้ำที่สวยงามทิ้งงานกลายสภาพเป็นสุสานเสาเข็ม กองหินทิ้งเกลื่อน จังหวัดไม่เคยลงมาเหลียวแล วอนกราบ “นายกอุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลุยแก้ปัญหาชี้ควรสอบพฤติกรรมบิ๊กกาฬสินธุ์ถามติดปัญหาอะไร ถึงไม่เอาผิดผู้รับจ้างและผู้ว่าจ้างเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน 

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณจุดก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมลำน้ำปาว ชุมชนซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นางสาวรัตนา มาตประสงค์ ประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ คิสารัง รองประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ และชาวบ้าน ชี้จุดโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปาว บริเวณซอยน้ำทิพย์เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หลังผู้รับเหมาทิ้งงานหยุดการก่อสร้าง จึงเกิดความสงสัย เพราะไม่มีหน่วยงานไหนภายในจังหวัดเข้ามาทำความเข้าใจให้กับชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยเนื่องจากสภาพการทิ้งงานภายหลังน้ำลดกลายสภาพพอเห็นเหมือนสุสานเสาเข็ม กองหิน กองดิน โดยเฉพาะในบริเวณทางเท้าที่เคยสวยงามที่ประชาชนสามารถไปออกกำลังกายได้แต่ปัจจุบันจะเดินลงไปยังไม่กล้า เพราะเส้นทางถูกเปิดขรุขระ เต็มไปด้วยเศษซากกองดิน กองหิน กองขี้หมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุเนื่องจากถนนทรุด อีกทั้งยังทำให้น้ำขังผวาจะมีโรคระบาดโดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกและโรคฉี่หนูที่มากับความสกปรกหมักหมมในน้ำขัง

นางสาวรัตนา มาตประสงค์ ประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ กล่าวว่า เส้นทางการก่อสร้างนี้ก่อนหน้าไม่ต่างจากพื้นที่ที่อยู่ทั้ง 8 โครงการ เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วม ก็ได้รับการจัดสรรเหมือนในโครงการทั้ง 8 ที่เค้าประณามว่า 7 ชั่วโคตร เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่กลับถูกทิ้งงานอย่างน่าตกใจ เมื่อประมาณปลายเดือน ต.ค.64 เห็นผู้รับเหมาขนเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์มาลงพื้นที่ ทำการปรับหน้าดินตลอดแนวลำปาวในชุมชนซอยน้ำทิพย์ จากการสอบถามผู้รับเหมาทราบว่า โครงการเขื่อนดังกล่าวมีความยาว 937 ม. เริ่มต้นสัญญา 10 ก.ย.64 สิ้นสุดสัญญา 20 ส.ค.66 งบประมาณ 59,350,000 บาท ช่วงที่ดำเนินการก่อสร้างเห็นทำๆ หยุดๆ ทั้งปรับหน้าดิน และตอกเสาเข็มได้ระยะหนึ่ง ก่อนที่ผู้รับเหมาจะขนย้ายเครื่องจักรหนีไป โดยไม่มีใครมาแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทิ้งงานไปเฉยๆ ต่อมาทราบว่าอธิบดีกรมโยธาธิการมาดูสภาพพื้นที่ และปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้ทราบว่ามีการเบิกจ่ายไปแล้ว 10,336,000 บาท

แต่ถึงวันนี้ ยังไม่มีการแก้ไชปัญหาใดๆเลย ทำให้เกิดความหวาดผวา เพราะลำน้ำปาวแห่งนี้เดิมตื้นเขิน และคันคูต่ำ ถึงฤดูฝนตกน้ำปาวเอ่อท่วมพื้นที่ ซึ่งเคยเกิดสภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปี 54 เมื่อเห็นโครงการสร้างเขื่อนป้องปันตลิ่งของกรมโยธาธิการและผังเมืองมาลงพื้นที่ พี่น้องประชาชนชาวเมืองกาฬสินธุ์ก็ดีใจ ที่จะได้มีตลิ่งที่มีความมั่นคง แข็งแรง ป้องกันน้ำท่วม และมีถนนคนเดินบนสันตลิ่งที่สวยงาม เป็นจุดชมวิวกลางเมืองกาฬสินธุ์ แต่พอผู้รับเหมาทิ้งงานไปอย่างนี้ ก็อยากจะได้รับฟังคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง เพราะชาวชุมชนเราอยากเห็นความสวยงาม ความเจริญของบ้านเมืองกาฬสินธุ์ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องและกราบ “นายกอุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งสางปัญหานี้ โดยหาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างต่อให้แล้วเสร็จด้วย

ด้านนายทรงศักดิ์ คิสารัง รองประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ กล่าวว่า เดิมสภาพลำปาวที่เชื่อมเข้ามากลางชุมชนซอยน้ำทิพย์ จะเกิดภาวะน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากเป็นประจำ โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งที่เข้ามาดำเนินการ จึงเป็นความหวังของชาวชุมชนซอยน้ำทิพย์ ว่าจะได้รับความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน แต่พอเห็นการทำงานผู้รับเหมาที่ไม่ต่อเนื่อง และเปลี่ยนหน้าผู้รับเหมารายใหม่เข้ามา 2-3 ราย แล้วก็มีลักษณะเดียวกันอีกคือ ทำๆ หยุด สุดท้ายก็ขนย้ายเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์หนีไปหมด ทิ้งไว้เพียงร่องรอยการก่อสร้างและเสาเข็ม ที่ตั้งเรียงรายอยู่ ขณะที่ผิวถนนริมฝั่งลำปาวในชุมชนบางจุดเริ่มทรุดตัว และแตกร้าว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ภาวะน้ำขับยังเสี่ยงเกิดโรคระบาดไม่ว่าจะเป็นไข้เลือดออก โรคฉี่หนู ทำชาวบ้านเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ผู้รับเหมาทิ้งงาน ในระดับพื้นที่ ยังไม่มีใครเข้ามาชี้แจงสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งไม่รู้ว่าจะมีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งชาวชุมชนซอยน้ำทิพย์และชาวเมืองกาฬสินธุ์ยังรอคำตอบ แต่เมื่อผู้รับเหมาทิ้งงานไปนานหลายเดือน ไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมามาทำงานต่อ ในขณะที่ตนและชาวบ้านชาวเมืองกาฬสินธุ์ทุกคน อยากเห็นชุมชนและจังหวัดกาฬสินธุ์มีความเจริญก้าวหน้า โดยที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาชี้แจง และทำความเข้าใจกับชาวบ้าน  ซึ่งได้แต่รอคอยและสอบถามกันไปมาเหมือนเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ สุดท้ายก็จึงออกมากราบวิงวอนไปยัง “นายกอุ๊งอิ๊ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้รีบเร่งจัดหาผู้รับเหมารายใหม่มาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งต้องมาดำเนินการก่อนที่จะถึงฤดูน้ำหลาก เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมใหญ่ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นความหวังเดียวที่ประชาชนเชื่อมั่นว่า “นายกฯอิ๊ง” จะติดตามตรวจสอบปัญหานี้ให้กับประชาชนได้ ขณะที่การเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยติดตามก็เนื่องจากกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง และดูแลจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากปัญหานี้ภายหลังจากที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกสัญญา ยังไม่มีความชัดเจนในการดำเนินการเอาผิดกับผู้รับจ้างทิ้งงาน อีกด้านการเยียวยาให้กับกลุ่มแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้าง จาก หจก.รับเหมา ยังไม่มีการเข้ามาแก้ไข ทั้งที่ในอดีต อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ลงพื้นที่และรับปากจะส่งเรื่องต่อให้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.กาฬสินธุ์ ทำหน้าที่เจรจากับ หจก.ทิ้งงาน ให้กลุ่มแรงงานที่ลงทุนไปได้เงินคืนแต่จนถึงขณะนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางจังหวัด ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน รวมถึงการเอาผิดกับ 2 หจก.ทิ้งงาน ตามหลักกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลที่สงสัยว่าติดปัญหาอะไรในการแก้ไขปัญหานี้ให้กับประชาชน