Biz news
'ท็อปส์'ยกระดับความยั่งยืนเปิดแคมเปญ 'Food Hero, Taste not Waste'
กรุงเทพฯ 28 พฤศจิกายน 2567 - ท็อปส์ ผู้นำธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทย ภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้ายกระดับแผนความยั่งยืน เปิดแคมเปญรณรงค์ “Food Hero, Taste not Waste” ชวนผู้บริโภคเป็นฮีโร่ ร่วมลด Food Waste ด้วยการเปลี่ยนมุมมองใหม่ในการซื้อสินค้า ที่ใกล้หมดอายุ แต่ยังคงคุณภาพดี ในราคาลดพิเศษ เพื่อลดการเหลือทิ้งสินค้าใกล้หมดอายุโดยเปล่าประโยชน์ ต่อยอดสู่การลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทยที่มีมากกว่า 9.68 ล้านตันต่อปี ชวนผู้บริโภคร่วมซื้อสินค้า ใกล้หมดอายุที่ติดสติกเกอร์ลดราคาป้ายเหลืองในราคาที่คุ้มค่าลดสูงสุด 30-50% สำหรับสมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 ที่ร้านท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา พร้อมเปิดตัวคลิปเรื่อง ‘Tops Food Hero’ สื่อสารพฤติกรรมอินไซต์ผู้บริโภคในการซื้อสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ให้คนดูได้อมยิ้มแต่ให้แง่คิดเสริมด้วยข้อมูลความเป็นจริงเกี่ยวกับสินค้าสติกเกอร์ลดราคาราคาป้ายเหลือง โดยตั้งเป้าให้แคมเปญ สามารถสร้างการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะอาหาร 30% ภายในปี 2573 ตอกย้ำการเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีก-ค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) จากทั่วโลกยังคงมีความท้าทาย รายงานจาก Food Waste Index 2024 ของ UNEP พบว่าในปี 2565 มีปริมาณขยะอาหารทั่วโลกสูงถึง 1.05 พันล้านตัน ส่วนหนึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากการบริโภค กว่า 60% และ 12% จากกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ก่อให้เกิดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนในปัจจุบันสูงถึง 8-10% ในขณะที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับปริมาณขยะอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีปริมาณถึง 9.68 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน ท็อปส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจเชนซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติภายใต้เจตนารมณ์ Green & Sustainable Retail & Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล ด้วยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน ท็อปส์ จึงได้เดินหน้าไปอีกขั้นให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการลดปริมาณอาหารส่วนเกิน ผ่านแคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” รณรงค์และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคเป็นเสมือนฮีโร่ที่ร่วมกันหันมาตระหนักและเห็นคุณค่าของอาหาร รวมถึงมุมมองที่มีต่อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง หรือสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ว่าเป็นสินค้าที่ยังคงคุณภาพและมีรสชาติที่ดี สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัยเหมือนสินค้าปกติ ซึ่งการที่ทุกคนช่วยกันซื้อสินค้าลดราคาป้ายเหลือง นอกจากจะได้สินค้าที่ราคาถูกกว่าปกติ คุณภาพดีแล้ว ยังเท่ากับได้ช่วยลด Food Waste เราจึงเปรียบคนเหล่านี้ว่าเสมือนเป็น Food Hero อันเป็นที่มาของชื่อแคมเปญนี้ โดยวางเป้าหมายให้แคมเปญดังกล่าวได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดขยะปริมาณอาหารลง 30% ภายในปี 2573”
แคมเปญ “Food Hero, Taste not Waste” เป็นหนึ่งในแผนงาน 12 Journeys to Net Zero เพื่อเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายใต้โครงการ Small Act Together ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนของท็อปส์ รวมถึงสอดคล้องกับกลยุทธ์ “ReNEW” ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงสะท้อนปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ “CRC Care”แคมเปญดังกล่าว วางเป้าหมายลดปริมาณอาหารส่วนเกินจากการจำหน่าย ด้วยการลดราคาสินค้าอาหารและวัตถุดิบสูงสุด 30-50% ที่ใกล้หมดอายุแต่ยังคงสภาพและรสชาติที่ดี ได้แก่ เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์จากนม ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูป ขนม เป็นต้น วางจำหน่ายอยู่ในโซนสินค้าโดยเฉพาะ พร้อมกับมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าโดยจ่ายน้อยลงแต่ได้ความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เมื่อซื้อสินค้าที่ “ติดสติกเกอร์ ลดราคาป้ายเหลือง” สมาชิก The1 รับคะแนนสะสมพิเศษ X2 ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และส่งต่อแนวคิดของการเป็น Food Hero ในวงกว้าง ท็อปส์จึงนำอินไซต์ของผู้บริโภคที่มีต่อซื้อการสินค้าป้ายเหลือง มาสร้างเป็นโฆษณาออนไลน์ชุด “Tops Food Hero” ความยาว 1.55 นาที นำเสนอเรื่องราวของคู่สามีภรรยาที่กำลังจะตัดสินใจเลือกซื้อสตอเบอร์รี่ที่กำลังจะหมดอายุ พร้อมสอดแทรกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสินค้าลดราคา เพื่อส่งต่อและถ่ายทอดมุมมองใหม่ที่มีต่อสินค้า และสร้างแรงบันดาลใจในการเป็น Food Hero ให้กับผู้ชมดังกล่าวให้กับผู้ชม สามารถรับชมคลิป Tops Food Hero ได้ทาง Tops TV (https://www.youtube.com/watch?reload=9&feature=shared&v=EoAsuCnzdrE)
“ท็อปส์ยังคงมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวเราไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพังแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรในทุกภาคส่วน โดยเราเชื่อในพลังฮีโร่ที่อยู่ในตัวของลูกค้าทุกคนว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ช่วยกอบกู้โลกใบนี้จากสถานการณ์ขยะอาหารล้นโลกที่กำลังเผชิญ เพื่อส่งต่อโลกที่น่าอยู่ขึ้นและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนในเจเนอเรชันถัดไป” นายสเตฟาน คูม กล่าวทิ้งท้าย