Authority & Harm
กรมราชทัณฑ์ส่งผู้ต้องราชทัณฑ์ออกช่วย ผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ต่อเนื่อง
นนทบุรี-“กรมราชทัณฑ์ ยังคงเดินหน้าส่งผู้ต้องราชทัณฑ์ ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้” โดยจัดตั้ง "ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ กระทรวงยุติธรรม" โดยให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 9
ด้วยนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและร่วมส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนชาวใต้ที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วมในขณะนี้ รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความสูญเสียให้เกิดน้อยที่สุด โดยมอบหมายให้กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลเข้าพื้นที่สนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้
ตามข้อสั่งการ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงกำชับให้กรมราชทัณฑ์เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือสังคม ในการบรรเทาเหตุอุทกภัยภาคใต้ เพื่อยกระดับการพัฒนาพฤตินิสัยผ่าน การทำงานผู้ต้องขังนอกเรือนจำให้มีประสิทธิภาพ โดยให้เรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 9 เป็นแกนกลาง ในการประสานหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานจังหวัดในพื้นที่ ออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ รวมทั้งให้เรือนจำและทัณฑสถาน เขต 9 จัดเตรียมแรงงานนักโทษเด็ดขาดตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะหรืองานอื่นใด เพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ พ.ศ. 2566 หรือ นักโทษเด็ดขาดตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดจ่ายออกทำงานนอกเรือนจำ พ.ศ. 2561 นำวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยมาตรฐานการควบคุมและความปลอดภัยในการทำงาน ตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ก้าวพลาดกับสังคม ชดเชยการที่กระทำในอดีตอย่างดีเยี่ยม
โดยมีเรือนจำในเขต 9 ซึ่งได้แก่ เรือนจำกลางสงขลา เรือนจำกลางยะลา เรือนจำจังหวัดสตูล เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เรือนจำอำเภอนาทวี และทัณฑสถานบำบัดพิเศษสงขลา ได้ร่วมส่งผู้ต้องราชทัณฑ์ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น การขนย้ายสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน ร่วมทำความสะอาดบ้านเรือน อาคารสถานที่ ช่วยเก็บซากไก่เพื่อฝังกลบ นอกจากนี้ยังได้ส่งผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ผ่านการฝึกอบรม อสรจ.ของเรือนจำ เพื่อร่วมช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยติดเตียง ณ ศูนย์พักพิง โรงเรียนเทศบาล 3 อีกด้วย
การที่กรมราชทัณฑ์ได้นำผู้ต้องขังออกทำงานสาธารณะ และงานนอกเรือนจำเพื่อประโยชน์ของสังคม โดยปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุม และตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานที่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนนั้น เป็นการให้โอกาส สร้างความเชื่อมั่นทั้งผู้ต้องขัง และสังคม รวมถึงการให้การยอมรับ และเป็นการเตรียมความพร้อมในการคืนคนดีสู่สังคมต่อไป