In Global
รัฐบาลจีนเดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยว 'มาเก๊า'

เขตปกครองพิเศษมาเก๊าเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางทั่วโลก ที่ต้องการมาสัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรม ผู้คน อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาล และกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย สำนักข่าว CGTN รายงานว่า ในช่วงปี 2014-2023 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนมาเก๊ามากเป็นอันดับ 1 คือ นักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ มีจำนวนกว่า 170 ล้านคน คิดเป็น 69.8% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด รองลงมา คือ ฮ่องกง ประมาณ 48 ล้านคน คิดเป็น 19.5% ไต้หวัน ประมาณ 7 ล้านคน คิดเป็น 2.8% ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา อินเดีย และสิงคโปร์ และปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมาเก๊าน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 33 ล้านคน
ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวของเขตปกครองพิเศษมาเก๊า โดยมีนโยบายและมาตรการต่างๆ ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว อาทิ สำนักบริหารการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวไห่หนานได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 144 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไขการท่องเที่ยวแบบกลุ่มที่ลงทะเบียนในฮ่องกงและมาเก๊า
ล่าสุด รัฐบาลจีนยังมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุดใหม่ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 ผู้อยู่อาศัยในเมืองจูไห่สามารถยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้ามาเก๊าสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้ โดยมีเงื่อนไขว่า สามารถพำนักได้ไม่เกิน 7 วันต่อการเดินทางแต่ละครั้ง
นอกจากมาตรการด้านการท่องเที่ยวแล้ว รัฐบาลจีนยังขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง เพื่อพัฒนาภูมิภาคในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า โดยมีการเปิดตัวโครงการ “สะพานข้ามทะเลหวงเหมาไห่” อย่างเป็นทางการ ทำให้การเดินทางเชื่อมเขตตะวันตกของมณฑลกวางตุ้งกับเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า สะดวกมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เขตปกครองพิเศษมาเก๊ายังเปิดเดินรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายเหิงฉิน (Hengqin) อย่างเป็นทางการ ให้บริการระหว่างสถานีโลตัสในมาเก๊ากับสถานีเหิงฉิน ที่จูไห่ มณฑลกวางตุ้ง เส้นทางนี้มีระยะทาง 2.2 กิโลเมตร รวมอุโมงค์ใต้น้ำความยาว 900 เมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 นาที โดยในชั่วโมงเร่งด่วน การพัฒนาเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของมาเก๊า และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวมาเก๊าอย่างมีนัยสำคัญ
ในปีหน้า เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ยังได้รับเลือกให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งเอเชียตะวันออกปี 2025 ร่วมกับเมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง เมืองคามาคุระ ของญี่ปุ่น และเมืองอันซองของเกาหลีใต้ แสดงให้เห็นว่า มาเก๊าเป็นเมืองที่เปี่ยมเสน่ห์ทั้งด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากเดินทางมาเยือนมาเก๊ามากยิ่งขึ้น
ผู้บริหารสำนักงานการท่องเที่ยวมาเก๊าระบุว่า การพัฒนาภาคการท่องเที่ยวของมาเก๊าต่อจากนี้ มาเก๊าจะร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเมือง ตามแผนผังเมืองใหม่ปี 2020-2040 ยกระดับการบริการ อำนวยความสะดวกในการเข้า-ออกเมือง จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของเขตปกครองพิเศษมาเก๊าให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย