Authority & Harm

สองผัวเมียพ่วงลูกน้อยทำทีจะจำนำมือถือ เห็นคนแก่อยู่คนเดียวย้อนกลับมาขโมยซ้ำ



ชุมพร-สองผัวเมียพ่วงลูกวัยละอ่อนสุดแสบทำทีเข้ามาจะจำนำมือถือ เห็นคนแก่อยู่เพียงลำพัง ย้อนกลับมาขโมยมือถือ

โดยกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.กนกวรรณ รุ่งโรจน์วุฒิพงษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.16 ต.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า ตนเองเปิดร้านจำหน่ายและรับซื้อโทรศัพท์มือถือ ชื่อร้าน ส.มือถือท่าแซะ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายเพชรเกษม ขาขึ้นกทม.ใกล้ป้อมสายตรวจตำรวจท่าแซะ เพียง 50 เมตร โดยก่อนเหตุนั้น ตนเองได้เดินทางไปธุระในตัวเมืองชุมพร โดยที่ร้านซึ่งตอนแรกจะไม่เปิดเพราะเมื่อวานเป็นงานเทิดพระเกียรติเสด็จในกรมหลวงชุมพร คนส่วนใหญ่จะไปร่วมในพิธีกัน แต่เพราะลูกค้านัดจะมารรับมือถือที่ซ่อมไว้ จึงเป็นต้องเปิดและให้นางปุณณภา คุณาวิทย์ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นแม่ และยาย ช่วยดูแลและเฝ้าร้านให้ หากมีใครจะมีซื้อและขายโทรศัพท์มือถือ แม่ก็จะโทรศัพท์มาที่ตนเพื่อพูดคุยจะขายมือถือหรือรับซื้อในราคาเท่าไหร่ เพื่อจะได้บอกลูกค้าได้ถูกต้อง

น.ส.กนกนวรรณ กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านเวลาประมาณ 17.30 น.(19/12/67)ขณะที่ตนเองกำลังธุระอยู่ในเมืองชุมพร แม่ก็ได้โทรศัพท์มาหาว่ามีลูกค้านำแทบแล็ทมาขาย และแม่ก็ถ่ายแทบแล็ทเครื่องดังกล่าวส่งมาให้ดู ซึ่งตนเองก็บอกว่า รุ่นนี้ไม่ได้ราคาอะไร เพราะตกรุ่นมาก จึงไม่รับซื้อ จากนั้นคนที่เอาแทบแล็ทมาจะขาย ก็รับกลับไป แล้วก็ขึ้นรถ จยย.ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านขับออกไป โดยแม่ได้สงสัยหรือเอะใจอะไร

จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองได้เปิดร้าน ก็พบว่าโทรศัพท์มือถือในตู้โชว์ ตรงด้านหน้า ซึ่งมีทั้งของมือสองและของลูกค้าที่เอามาซ่อม หายไป จึงได้สอบถามแม่ว่าได้ขายมือถือที่ตั้งโชว์ในตู้ไปแล้วหรือเปล่า ซึ่งแม่ได้บอกว่า เมื่อวานไม่มีลูกค้ามาซื้อและมารับมือถือที่ซ่อมกลับไปสักราย ตนเองจึงรู้เลยว่า มีมือดี เข้ามาขโมยโทรศัพท์ไปแล้วแน่ จึงได้ไปเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่รอบร้านทุกมุมดู

น.ส.กนกวรรณ กล่าวต่อว่า และเมื่อเปิดกล้องวงจรปิดย้อนไล่กลับไปดู โดยตั้งข้อสงสัยตั้งแต่คนที่มาจะจำนำแทบแล็ทน่าจะเป็นคนขโมย ซึ่งก็เป็นจริงที่สันนิษฐานไว้ เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เริ่มที่มีชายสวมเสื้อยืดคอวี แขนยาวสีออกโทนม่วงอ่อน สวมกางเกงยีนส์สีดำซีด มีแมสสีดำคาดติดอยู่ที่ปลายคาง อายุ ไม่น่าจะเกิด 40 ปี ขับรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียนรถ ดจฉ 177 สุราษฎร์ธานี เข้ามาโดยมีหญิงสาวสวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเทาพร้อมเด็ก อายุ 2- 3 ปี ขับเข้ามาหน้าร้าน ซึ่งคาดว่าทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูกกัน

เมื่อจอดรถแล้ว ผู้หญิงพร้อมเด็ก ลงจากรถเดินมายืนรออนู่หน้าร้าน ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาเย็นแล้ว เตรียมจะปิดร้าน คงเหลือเปิดอยู่ด้านเดียว ส่วนตัวผู้ชายได้หันรถ จยย.กลับหัวไปทางถนน ก่อนจะลงมาสมทบแล้วเข้ามาพร้อมกัน โดยเข้ามาพูดคุยกับแม่ เพื่อจะขอจำนำแทบแล็ต แต่เมื่อไม่ขอรับซื้อ ทั้งสามก็กลับไปขึ้นรถ ขับเลี้ยวซ้ายไปทาง กทม. แต่เพียงไม่กี่นาที ทั้งสามก็ได้ขับรถ จยย.คันเดิม ย้อนศรกลับมา ผ่านหน้าร้านไปจอดก่อนถึงป้อมตำรวจ แล้วครึ่งเดินครึ่งวิ่ง เข้าหน้าร้าน แล้วก็พุ่งเข้าไปในร้านก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือทั้งของมือถือสองที่วางขายและโทรศัพท์มือถือของลูกค้า ที่เอามาทั้งจำนำและซ่อมไป จำนวน 5-6 เครื่อง ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถขับหนีไป ตนเองเชื่อว่าครั้งนี้จะเข้ามาดูลาดเลา พอเห็นมีแต่คนแก่ จึงได้ย้อนกลับมาก่อเหตุ ตนจึงได้นำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว และเพราะหลังจากที่ตนเองได้โฟสต์เฟซ ก็มีหลายคนเข้าคอมเม้นท์และแจ้งว่า น่าจะเป็นคนร้ายสามพ่อลูกที่เคยเข้าไปลักโทรศัพท์มือถือที่รีสอร์ทเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา