In Thailand
สมัครนายกอบจ.จันทบุรีนายกโจ้ศึกหนัก พรรคสีส้มส่ง'สจ.หน่อย'ลงสู้ชิงเก้าอี้
จันทบุรี-เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ได้เปิดรับสมัครการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เป็นวันแรก บรรยากาศการรับสมัครเป็นไปด้วยความคึกคัก ก่อนเวลา 08.00 น. เนื่องจากมีประชาชนและผู้สนับสนุน ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี เดินทางมาให้กำลังใจ เป็นจำนวนมาก
โดยก่อนเวลา 08.00 น. มีผู้มาลงทะเบียนเพื่อสมัครนายกอบจ.จันทบุรี จำนวน 3 ราย คือ “นายกโจ้” นายธนภณ กิจกาญจน์ อดีตนายกอบจ.จันทบุรี “สจ.หน่อย” นายมานะ ชนะสิทธิ์ ซี่งมาพร้อมกับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) และ นายคเชน ผู้สมัครอิสระ
ทำให้ต้องการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยนายคเชน ได้สละสิทธิ์ไม่ขอจับสลาก โดยนายธนภณ กิจกาญจน์ และ นายมานะ ชนะสิทธิ์ จับสลากกันเพียง 2 คนเท่านั้น ผลการจับสลาก นายมานะ ชนะสิทธิ์ ได้หมายเลข 1 นายธนภณ กิจกาญจน์ ได้หมายเลข 2 และ นายคเชนท์ ทาหุ่น ได้หมายเลข 3 จากนั้นเป็นขั้นตอนการยื่นเอกสารการสมัคร และชำระค่าสมัครนายกอบจ. จำนวน 30,000 บาท
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ตนเองได้รับมอบหมายให้มาช่วยหาเสียง “สจ.หน่อย” นายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี โดยจะปักหลักอยู่ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี จนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อทำให้ “สจ.หน่อย” นายมานะ ชนะสิทธิ์ ชนะศึกเลือกตั้งนายอบจ.จันทบุรี
“ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการเลือกตั้งนายกอบจ.อุบลราชธานี สะท้อนอะไรบ้าง” นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวว่า ทุกการเลือกตั้งเป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลง และเป็นโอกาสการเลือกตั้งที่จันทบุรี วันนี้ “สจ.หน่อย” จับหมายเลขเป็นคนสุดท้าย แต่ได้หมายเลข 1 สะท้อนให้เห็นแล้วว่า คลื่นของการเปลี่ยนแปลงมาที่จันทบุรีแล้ว
“ได้เวลาเบอร์ 1 เป็น มานะ ชนะสิทธิ์ ได้เวลาเบอร์ เป็นของประชาชน ได้เวลาเบอร์ 1 เป็นของประชาชน ได้เวลาพรรคประชาชน เป็นเบอร์ 1 เพื่อทำให้จันทบุรี เป็นที่ 1 สักที”
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวอีกว่า หากผู้สมัครของพรรคประชาชน ชนะการเลือกตั้ง นายอบจ.จันทบุรี จะทำให้งานของอบจ.ไร้รอยต่อ ราบลื่น เพราะในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เป็น สส.ของพรรค ทั้ง 3 เขต การเลือกตั้งครั้งนี้ที่จังหวัดจันทบุรี ไม่ได้หนักใจ เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือ ประชาชน
ด้าน นายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี หมายเลข 1 กล่าวว่า ตนเองอยู่ในวงการการเมืองไม่น้อยกว่า 30 ปี จังหวัดจันทบุรี ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ จึงได้อาสาเข้าทำงานเพื่อพัฒนาจังหวัดจันทบุรี ให้สอดคล้องกับนโยบายของพรรคประชาชน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีนโยบาย 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านการเมือง
นายธนภณ กิจกาญจน์ ผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี หมายเลข 2 กล่าวว่า ตนเองทำงานมาตลอดชีวิต การเลือกตั้งเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชน ตนเองจะพิสูจน์ด้วยการกระทำ การเลือกตั้งครั้งนี้ มีนโยบาย 4 ด้าน คือ ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านการสาธารณสุข
“ตนเองเล่นการเมือง ไม่เคยสังกัดพรรคการเมือง เพราะตนเองเป็นคนของท้องถิ่น โดยท้องถิ่น เพื่อท้องถิ่น โดยใช้สโลแกนนี้ มีตั้งแต่เล่นการเมืองสมัยแรก เมื่อปี 2543 การสังกัดพรรคการเมือง เป็นเรื่องประชาธิปไตย ใครสมัครใจอยู่พรรคไหนก็ว่ากันไป ตลอดระยะเวลาที่เล่นการเมือง 34 ปี ไม่เคยสังกัดพรรคการเมือง” นายธนภณ กิจกาญจน์ กล่าวปิดท้าย
นายคเชนท์ ทาหุ่น ผู้สมัครนายกอบจ.จันทบุรี หมายเลข 3 กล่าวว่า สนามเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นสนามที่ 2 ที่ตนเองได้ลงสมัคร ซึ่งตนเองมีความพร้อม ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่หาเสียงเพื่อชี้แจงนโยบายของตนเอง โดยมี 10 นโยบาย 10 ยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาจังหวัดจันทบุรี
ส่วน ว่าที่สมัครอีก 1 ราย ที่มีข่าวจะลงสมัครนายกอบจ.จันทบุรี คือ "ดร.ตี๋" ชาตรี ทิพยเจือจุน คาดว่าน่าจะมาสมัครหลังจากนี้ ส่วนการรับสมัครการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี จะปิดรับสมัครในวันที่ 27 ธันวาคม 2567 และจะมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568
รายงานโดย กิตติพงศ์ คงคาลัย ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี