Think In Truth

จิตตบารมีมุ่งมั่นเป็นอิทธิฤทธิ์ผู้มีชัยเหนือ เหล่ามารผู้โหดเหี้ยม โดย: ฟอนต์ สีดำ



พระคาถาชัยมงคลคาถา บทที่สี่มีว่า “อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เป็นเรื่องยุทธวิธีในการเอาชนะความโหดเหี้ยมของมนษย์ที่อยู่บนพื้นฐานแห่งกิเลสของพระพุทธเจ้ากับองคุลีมาร เรื่องมีอยู่ว่า องคุลีมาร เดิมทีเป็นโจรที่ใจโหดเหี้ยม ฆ่าคนมาแล้วมากมาย จนได้สมญานามว่า "องคุลีมาร" ซึ่งแปลว่า "ผู้มีนิ้วเป็นมาลัย" เพราะเขาจะตัดนิ้วของคนที่ตนฆ่ามาคล้องคอเพื่อเป็นเครื่องหมายในการนับจำนวนคนที่ตนฆ่าไป

เรื่องราวขององคุลีมาร มีความน่าสนใจตรงที่เขาได้พบกับพระพุทธเจ้า และด้วยพระเมตตาของพระพุทธเจ้า ทำให้องคุลีมารเกิดความสำนึกผิด กลับใจ และออกบวชเป็นพระภิกษุในที่สุด แม้ว่าในอดีตเขาจะเป็นโจรที่เลวร้ายเพียงใด แต่ด้วยความตั้งใจปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ในที่สุดองคุลีมารก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

เหตุการณ์ที่น่าสนใจ ที่ทำให้องคุลีมารกลับใจนั้น มีหลายเรื่อง เช่น การที่พระพุทธเจ้าทรงวิ่งหนีองคุลีมาร และตรัสว่า "เราหยุดแล้ว แต่ท่านสิยังไม่หยุด" ทำให้องคุลีมารเกิดความสงสัยและอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าหยุดอะไร จึงทำให้เขาเกิดความสงบลงและเปิดใจฟังพระธรรมคำสอน

ความสำคัญของเรื่องราวองคุลีมาร นั้น สอนให้เราเห็นว่า แม้แต่คนชั่วก็สามารถกลับตัวเป็นคนดีได้ เพียงแค่มีโอกาสได้ฟังธรรมและปฏิบัติตาม พระพุทธศาสนาสอนให้เราให้อภัยและเมตตาต่อกันเสมอ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเคยทำผิดอะไรมาก่อนก็ตาม
การที่พระพุทธเจ้าเอาชนะองคุลีมารได้นั้น เป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงพลังของพระเมตตาและปัญญาอย่างลึกซึ้ง

การเอาชนะของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้หมายถึงการต่อสู้ทางกายภาพ แต่เป็นการเอาชนะใจขององคุลีมารด้วยวิธีดังนี้ค่ะ:

  • พระเมตตาอันยิ่งใหญ่: พระพุทธเจ้าทรงเห็นถึงความทุกข์ที่องคุลีมารกำลังเผชิญ และทรงมีพระเมตตาต่อเขาอย่างสุดซึ้ง แม้ว่าองคุลีมารจะเป็นโจรที่ใจโหดเหี้ยมก็ตาม พระเมตตานี้เองที่ทำให้องคุลีมารเกิดความสงบและเปิดใจรับฟังพระธรรม
  • ปัญญาอันเฉียบแหลม: พระพุทธเจ้าทรงใช้ปัญญาในการเข้าถึงจิตใจขององคุลีมาร ทรงรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่องคุลีมารต้องการและขาดแคลน พระองค์จึงทรงแสดงธรรมที่ตรงกับจิตใจขององคุลีมาร ทำให้เขาเกิดความเข้าใจและเปลี่ยนแปลงตัวเอง
  • ความอดทนและไม่หวั่นไหว: แม้ว่าองคุลีมารจะเป็นคนอันตราย แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงอดทนและไม่หวั่นไหว ทรงเดินเข้าหาองคุลีมารด้วยความสงบเยือกเย็น ทำให้องคุลีมารเกิดความประทับใจและรู้สึกเคารพ
  • การให้โอกาส: พระพุทธเจ้าทรงให้โอกาสองคุลีมารในการกลับตัวเป็นคนดี ทรงแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เสมอ ไม่ว่าจะเคยทำผิดอะไรมาก่อนก็ตาม

จากเรื่องราวขององคุลีมาร สอนให้เราได้เรียนรู้หลายอย่าง เช่น:

  • พลังของพระเมตตา: พระเมตตาสามารถเปลี่ยนแปลงคนชั่วให้กลายเป็นคนดีได้
  • ความสำคัญของปัญญา: ปัญญาช่วยให้เราเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
  • ความอดทนและไม่ย่อท้อ: การเผชิญหน้ากับปัญหาด้วยความอดทนและไม่ย่อท้อจะนำไปสู่ความสำเร็จ
  • การให้โอกาส: การให้โอกาสผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทุกคนมีโอกาสที่จะได้เริ่มต้นใหม่

เรื่องราวขององคุลีมาร เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนาสอนให้เราให้อภัยและเมตตาต่อกันเสมอ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเคยทำผิดอะไรมาก่อนก็ตาม

กระบวนการพัฒนาคนให้มีจิตบารมี เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจิตบารมีนั้นเป็นคุณธรรมที่เกิดจากการฝึกฝนและสั่งสมบุญมาอย่างยาวนาน ไม่มีสูตรสำเร็จรูปตายตัว แต่สามารถนำแนวทางต่อไปนี้ไปปรับใช้ได้ค่ะ

1. การปลูกฝังความเข้าใจในหลักธรรม:

  • เรียนรู้หลักธรรมคำสอน: เริ่มต้นจากการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้เข้าใจถึงความหมายของจิตบารมี และวิธีการบำเพ็ญ
  • ศึกษาชีวิตของพระอรหันต์: ศึกษาชีวประวัติของพระอรหันต์ เพื่อเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตน
  • เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา: เช่น การฟังธรรม การปฏิบัติธรรม การเข้าวัด เป็นต้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ

2. การฝึกปฏิบัติ:

  • เจริญภาวนา: การฝึกสมาธิและวิปัสสนา จะช่วยให้จิตใจสงบและเกิดปัญญา
  • ปฏิบัติธรรม: การปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอน เช่น การให้ทาน การรักษาศีล การเจริญภาวนา เป็นต้น
  • ฝึกฝนคุณธรรม: เช่น ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ความอดทน ความเพียร เป็นต้น

3. การใช้ชีวิตประจำวัน:

  • ดำเนินชีวิตอย่างมีสติ: สังเกตความคิดและอารมณ์ของตนเองอยู่เสมอ เพื่อปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดี
  • ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยเมตตา: มีความเมตตา กรุณาต่อทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่ศัตรู
  • ช่วยเหลือผู้อื่น: การทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น จะทำให้จิตใจเบิกบานและเกิดบุญกุศล

4. การสร้างแรงบันดาลใจ:

  • ตั้งเป้าหมาย: กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาตนเอง
  • หาแรงบันดาลใจ: จากพระธรรมคำสอน ชีวิตของผู้มีคุณธรรม หรือจากประสบการณ์ส่วนตัว
  • สร้างแรงจูงใจ: ให้รางวัลตนเองเมื่อทำได้ตามเป้าหมาย

5. การหาผู้ช่วย:

  • ปรึกษาพระอาจารย์: เพื่อขอคำแนะนำและแนวทางในการปฏิบัติ
  • เข้าร่วมกลุ่มปฏิบัติธรรม: เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
  • หาเพื่อนร่วมทาง: เพื่อร่วมกันปฏิบัติธรรมและสร้างแรงบันดาลใจให้กัน

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้:

  • ความสม่ำเสมอ: การพัฒนาจิตบารมีต้องใช้ความสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำเพียงครั้งสองครั้งแล้วจะสำเร็จ
  • ความอดทน: การฝึกฝนจิตใจต้องใช้ความอดทน เพราะจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย
  • ความไม่ย่อท้อ: แม้จะล้มเหลวบ้างก็ไม่ควรท้อแท้ ให้ลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่
  • ความเชื่อมั่น: เชื่อมั่นในพลังของบุญและกุศลที่ได้ทำไป

การพัฒนาจิตบารมีเป็นการเดินทางที่ยาวไกล แต่หากเราตั้งใจจริงและมีความเพียร ก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ปัญญาทานบรมี เมตตาบารมี ขันตีทบารมี เป็นบารมีที่เคยได้เสนอไว้แล้วก่อนหน้านี้สามบท ซึ่งถ้านำบารมีทางสามมารวมกับ จิตตบารมี ในบทที่สี่ ก็สามารถสยบความโหดเหี้ยมในจิตใจของบุคคลได้

เนื่องในโอกาสวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า และหลายๆ สถานที่ได้จัดสวดมนต์ข้ามปี จึงขอมอบพระคาถาชัยมงคลคาถา เป็นพรอันประเสริฐแด่ท่านผู้อ่านทุกท่าน เพื่อให้เข้าถึงธรรม ในการนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของท่าน ให้ท่านผู้อ่านทุกท่านได้ผ่านพ้นภยันตรายจากเหล่ามารทั้งปวงจากพลังแห่งการปฏิบัติตามหลักธรรม ให้ท่านได้พบกับความสุข ความเจริญ พร้อมด้วยปฏิภาร ธนสาร สมบัตร อายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดปี พ.ศ. 2568 ด้วยเทอญ