In Bangkok

หนองจอกเล็งย้ายผู้ค้าที่ซอยเลียบวารี25 จับตาลักลอบทิ้งขยะถนนผดุงพันธ์



กรุงเทพฯ-หนองจอกเล็งย้ายผู้ค้าเลียบวารี 25 ชมคัดแยกขยะชุมชนเลียบคลอง 13 จับตาลักลอบทิ้งขยะถนนผดุงพันธ์ จัดสรรงบฯ สร้างอาคารใหม่ฝ่ายเทศกิจ พัฒนาสวนบึงน้ำใส คุมเข้มฝุ่นจิ๋วหม้อไอน้ำ (Boiler) ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ

(6 ม.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตหนองจอก ประกอบด้วย 

ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า บริเวณปากซอยเลียบวารี 25 ถนนเลียบวารี ปัจจุบันเขตฯ มีพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน จำนวน 2 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 52 ราย ดังนี้ 1.ซอยสุวินทวงศ์ 64 ผู้ค้า 26 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-09.00 น. จำนวน 18 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 16.00-20.00 น. จำนวน 8 ราย 2.ถนนเลียบวารี ตั้งแต่ปากซอยเลียบวารี 25 ถึงหมู่บ้านเพ็ญศิริ ซอยเลียบวารี 27 ผู้ค้า 26 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 06.00-10.00 น. จำนวน 12 ราย ช่วงเวลาทำการค้า 16.00-20.00 น. จำนวน 14 ราย และ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผันอย่างต่อเนื่อง รวมพิจารณาย้ายผู้ค้าเข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ว่างด้านใน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ 

เยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะ ที่ทำการชุมชนเลียบคลอง 13 พื้นที่ 300 ไร่ มีประชากร 762 คน เข้าร่วมโครงการคัดแยกขยะ ตั้งแต่ปี 2566 วิธีการคัดแยกขยะ โดยจำแนกตามประเภทของขยะ ดังนี้ 1.ขยะอินทรีย์ โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพ จากเศษอาหาร โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพ จากเศษฟางข้าว 2.ขยะรีไซเคิล โครงการคัดแยกขยะโดยใช้วัสดุจากขยะรีไซเคิล โครงการแปรรูปภาชนะเหลือใช้เป็นอุปกรณ์ในการปลูกพืชผักสวนครัว โครงการผลิตสินค้าตกแต่งบ้านจากเศษวัสดุเหลือใช้ 3.ขยะทั่วไป กิจกรรมคัดแยกขยะให้ถูกประเภท 4.ขยะอันตราย กิจกรรมคัดแยกขยะให้ถูกประเภท สำหรับปริมาณขยะก่อนคัดแยกและหลังคัดแยก ดังนี้ ขยะทั่วไปก่อนคัดแยก 350 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 210 กิโลกรัม/วัน ขยะรีไซเคิลก่อนคัดแยก 120 กิโลกรัม/วัน ขยะอินทรีย์ก่อนคัดแยก 280 กิโลกรัม/วัน ขยะอันตรายก่อนคัดแยก 12 กิโลกรัม/วัน หลังคัดแยก 12 กิโลกรัม/วัน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ให้คำแนะนำแก่ทางชุมชนในการคัดแยกขยะประเภทต่าง ๆ เพื่อให้การคัดแยกขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณขยะที่คัดแยกจะมีผลต่ออัตราค่าธรรมเนียมในการจัดการมูลฝอยฉบับใหม่ 

ตรวจสอบพื้นที่รกร้างและการลักลอบทิ้งขยะ บริเวณฮอลิเดย์ฟาร์ม ถนนผดุงพันธ์ จากการสำรวจพบว่าเขตฯ มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จำนวน 4 จุด มีการลักลอบนำเศษวัสดุจากการก่อสร้างมาทิ้ง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวจะมีวัชพืชที่แห้งตายสะสมอยู่ อาจก่อให้เกิดหตุเพลิงไหม้ได้ ที่ผ่านมาเขตฯ ได้ออกหนังสือแจ้งเจ้าของที่ดิน ให้ดำเนินการล้อมรั้วโดยรอบ พร้อมทั้งสำรวจการใช้ประโยชน์จากที่ดิน หากไม่มีการใช้ประโยชน์หรือปล่อยไว้เป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า จะดำเนินการจัดเก็บภาษีตามอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ ดำเนินการตามหนังสือสั่งการของสำนักเทศกิจ ตามข้อกฎหมาย จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 2.พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 3.พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ป้องกันการลักลอบนำเศษวัสดุจากสิ่งปลูกสร้างหรือขยะชิ้นใหญ่มาทิ้ง 

ติดตามการขอจัดสรรงบประมาณ โครงการก่อสร้างอาคารสถานที่ทำงานฝ่ายเทศกิจหลังใหม่ เพื่อทดแทนอาคารไม้ชั้นเดียวหลังเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม โดยก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ ความสูง 5 ชั้น มีห้องปฏิบัติงาน ห้องพักเจ้าหน้าที่ ห้องประชุมขนาดใหญ่ พื้นที่เตรียมความพร้อมในการออกปฏิบัติงาน ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ จัดทำแผนในการปรับปรุงสถานที่ทำงานฝ่ายเทศกิจให้ชัดเจน กำหนดระยะเวลาดำเนินการห่อสร้าง เพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาขอจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเบิกจ่ายตามปีงบประมาณที่กำหนดไว้ 

พัฒนาสวน 15 นาที สวนบึงน้ำใส ถนนเชื่อมสัมพันธ์ ซึ่งเขตฯ ได้พัฒนาพื้นที่ ปรับปรุงทางเดินวิ่งภายในสวน ปลูกต้นไม้เพิ่มเติม อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นอยู่เดิมภายในสวน ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเขตฯ ได้ร่วมกันปลูกต้นแสงจันทร์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างกำแพงกรองฝุ่น เพิ่มความร่มรื่นและสวยงามให้กับสวนดังกล่าว ปัจจุบันเขตฯ มีสวน 15 นาที (สวนเดิม) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1.สวนไม้มงคล 76 จังหวัด ฝั่งตรงข้ามสวนพิพิธภัณฑ์ ถนนฉลองกรุง พื้นที่ 4 ไร่ 2.สวนคลองลำไทร ถนนลำไทร พื้นที่ 1 ไร่ 3.สวนบึงน้ำใส ซอยเชื่อมสัมพันธ์ 11 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ พื้นที่ 7 ไร่ 4.สวนฉลองกรุง ถนนฉลองกรุง พื้นที่ 4 ไร่ อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ สวน 15 นาที (สวนใหม่) จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ 1.สวนหนองจอกสนาภิรมย์ ถนนเลียบคลองลำตามีร้องไห้ พื้นที่ 40 ไร่ 2.สวนเลียบวารีภิรมย์ ซอยเลียบวารี 21 ถนนเลียบวารี พื้นที่ 7 ไร่ 3.สวนน้ำพระยาปลา ถนนประชาสำราญ พื้นที่ 8 ไร่ 4.สวนบึงแตงโม ถนนมิตรไมตรี พื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน 49 ตารางวา 5.สวนลำสลิดทอง ซอยอยู่วิทยา 7 ถนนอยู่วิทยา พื้นที่ 3 งาน 25 ตารางวา 6.สวนไผ่คลองลำแขก ถนนเลียบคลองลำแขก ซอยสุวินทวงศ์ 78 พื้นที่ 5 ไร่ อยู่ระหว่างปรับปรุงภูมิทัศน์ 7.สวนชุมชนเคหะชุมชนฉลองกรุง โซน 5 พื้นที่ 3 งาน อยู่ระหว่างจัดสรรงบประมาณ 8.สวนวัดประยงค์ อยู่ระหว่างหารือปรับปรุงพื้นที่ 9.สวนลำต้นไทร พื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน 25 ตารางวา 10.สวนแยกมหานคร พื้นที่ 2 งาน อยู่ระหว่างประสานขอใช้พื้นที่ 11.สวนวุฒิภัทร พื้นที่ 2 งาน 37.5 ตารางวา อยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้เขตฯ สำรวจพื้นที่ว่างเพื่อจัดทำสวน 15 นาที ให้ครบทั้ง 10 แห่งตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้พื้นที่ การออกแบบพื้นที่ภายในสวนให้ตรงกับความต้องการของชุมชน โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการหรือทำกิจกรรมได้อย่างแท้จริง 

ติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตไส้กรอก ลูกชิ้น และผลิตภัณฑ์อื่นที่คล้ายกันที่ทำจากเนื้อสัตว์และสัตว์ปีก ลักษณะของสถานประกอบการมีการใช้หม้อไอน้ำ (Boiler) ซึ่งมีกระบวนการเผาไหม้ที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ เขตฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบและควบคุมสถานประกอบการที่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยกำชับให้สถานประกอบการในพื้นที่ปฏิบัติตามแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างเคร่งครัด เน้นย้ำผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

ในการนี้มี นางสาวยุวนุช นงพรมมา ผู้อำนวยการเขตหนองจอก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตหนองจอก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล