Authority & Harm
กาฬสินธุ์สุดทางแล้วคนกาสินไม่ทนแล้ว วอน'ทักษิณ'ช่วยสาง7ชั่วโคตร
กาฬสินธุ์-ชาวบ้านร้องข้ามปีไร้คนเห็นใจ เปรียบ”กาฬสินธุ์“ เป็นรถมีคนขับแต่รถคันนี้ไม่มีเกียร์ไม่ชัดเจนร้องไม่เลิก! ชาวเมืองน้ำดำเรียกร้อง ”ทักษิณ ชินวัตร“ อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อนายกรัฐมนตรี ”อุ๊งอิ๊ง“ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย หาวิธีแก้ปัญหา 7 ชั่วโคตรให้ชาวกาฬสินธุ์ เดือดร้อน 6 ปี ร้องข้ามปีไม่มีใครสนใจเยียวยาปลอบใจคนกาฬสินธุ์ เหมือนคนขับรถไม่มีเกียร์ ด้านผู้นำชุมชน พระ ยังถูกข่มขู่ให้หยุดเคลื่อนไหว จับตา คณะ กมธ.ปปช.ฯเรียก 2 ผู้รับเหมาขาใหญ่-ผู้ควบคุมงาน 7 ชั่วโคตรแจงเร็วๆนี้
ปัญหาการก่อสร้างโครงการระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำรวม 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ของ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ที่ตลอดทั้งปี 2567 ได้ถูกประชาชนเครือข่ายภาคประชาสังคม องค์กรเอกชนทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเรียกร้องให้ตรวจสอบ เพราะได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส กระทบต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่มั่นคงของประชาชน ที่ผ่านมาปลายปี 2567 ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธานคณะ กมธ.ปปช.สภาฯ นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ปปช.ฯ พร้อม กมธ.-คณะที่ปรึกษา ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบปัญหาและได้เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาชี้แจง ครั้งนั้น กมธ.ปปช.สภาฯ มีมติให้เรียกตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด ขณะที่ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ยืนยันว่าจะประกาศเวียนห้างหุ้นส่วนเฮงนำกิจ จำกัด และ ห้างหุ้นส่วนประชาพัฒน์จำกัด ก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 9 มกราคม 256 มีรายงานว่า ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และจุดที่มีโครงการก่อสร้างตลิ่งป้องกันน้ำท่วมอีก 8 โครงการ งบประมาณ 545 ล้านบาท ที่ถูกผู้รับเหมาขาใหญ่ “เฮงนำกิจ-ประชาพัฒน์” ทิ้งงาน ไปพร้อมซากปรักหักพัง และร่องรอยการก่อสร้างเป็นตราบาป ยังส่งผลกระทบให้ชาวเมืองน้ำดำ ต้องเผชิญกับความเดือดร้อนไม่หย่อนหยุด ความเจ็บปวดกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงกระบวนการตรวจสอบติดตามปัญหาของ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธิการ ปปช.ฯ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง อธิบดีกรมบัญชีกลาง
รวมไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าถึงแม้จะมีความเคลื่อนไหวของประชาชนเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองตรวจสอบจนไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นที่พึ่งสุดท้ายเพราะเป็นฝ่ายการเมือง ก็ยังไม่มีการขยับจัดส่งคนมาตรวจสอบเพื่อสร้างความสบาย มีเพียง ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ปปช.ฯ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รอง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ติดตาม จึงทำให้ประชาชนเชื่อว่าการตรวจสอบอาจจะไม่มีความโปร่งใสในอนาคต ผู้ได้รับผลกระทบจึงยังคงรอคอยความชัดเจนในการแก้ปัญหา หลังเคยมีกระแสข่าวออกมาว่ากรมโยธาธิการฯ ได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำสัญญาแล้ว 2 โครงการ คือโครงการป้องกันน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่ง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตำบลเจ้าท่า อ.กมลาไสย พื้นที่ก่อสร้างตลิ่ง เฝ้าติดตาม ความคืบหน้าของการแก้ปัญหากับทางกรมโยธาฯ เจ้าของโครงการ ที่ผ่านมาทราบว่า กรมโยธาฯ จะได้ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานแล้วในช่วงปลายเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการ ทำให้ชาวบ้านดีใจ ที่จะได้เห็นการแก้ปัญหาจริงจัง ด้วยความเอาใจใส่ของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีผู้รับเหมารายใหม่มาทำงานต่อแต่อย่างใด จึงเกิดความสงสัย และได้แต่สอบถามกันไปมา สุดท้ายก็คิดกันไปว่า “ชาวกาฬสินธุ์ถูกหลอกอีกแล้ว ปัญหานี้ทุกคนเฝ้าแต่ชะเง้อคอยดูการแก้ปัญหา ที่ไม่มีความคืบหน้าอะไร เหมือนเป็นบทพิสูจน์ว่าผู้หลักผู้ใหญ่-ผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการไม่มีความจริงใจที่จะบรรเทาปัญหาให้ประชาชน เมินความทุกข์ ความเจ็บปวด ไม่เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน เหมือนยังไม่รู้สึกเสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน เสมือนแค่ซื้อเวลาไปวันๆ คอยแต่จะออกข่าวป้อนยาหอมให้ชาวบ้านหลงดีใจ ปัญหาที่คาราคาซังชาวบ้านยังคงมีความทุกข์มานานเกือบ 6 ปี เป็นแบบนี้ จะทำให้ชาวบ้านคลายทุกข์ได้อย่างไร ทุกวันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมผู้หลักผู้ใหญ่เหมือนไม่ทำอะไรเลย เกิดเรื่องเสียหายอย่างนี้ในบ้านเมืองเราได้ยังไง"
“การเคลื่อนไหวเรียกร้องปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ยอมรับว่ามีผลกระทบหลายทางและการติดตามตรวจสอบของชาวบ้าน พระ และผู้นำชุมชน มีความพยายามจะให้ชาวบ้านหยุดพูดให้ข่าว มีพยายามที่จะข่มขู่พระและ ผู้นำชุมชน ผ่านมาทางตน รวมถึงตนก็โดนต่อว่าจากผู้มีอำนาจ กรณีนี้บอกตามตรงว่าพิษภัยของ 7 ชั่วโคตร ปัญหาไม่เกิดเฉพาะการก่อสร้างที่ไม่เสร็จ เป็นผลกระทบทุกโครงการ แต่ปัญหานี้ยังทำให้ประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวถูกรังแก ได้รับการดูแลที่ไม่เป็นธรรม กรณีนี้หากตนกลัวไม่เรียกร้องความเป็นธรรมร่วมกับชาวบ้าน แล้วใครจะเรียกร้อง ตนคือนายก.อบต.เจ้าท่า มาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนความสุขของพี่น้องประชาชนจะต้องมาเป็นอันดับหนึ่งปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องได้รับการแก้ไข หากตนนิ่งเฉยแล้วใครจะดูแล ดังนั้นในส่วนราชการที่ดูแลก็ควรที่จะเร่งรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาเข้ามาปลอบใจพี่น้องประชาชนให้มีความสุขถึงแม้ว่าโครงการนี้จะต้องล่าช้า แต่หากมีการติดตามด้วยการเอาใจใส่ด้วยความรัก ใช้พระคุณเป็นที่ตั้ง ปัญหาการร้องเรียนก็จะเบาบางลง“ นายก.อบต.เจ้าท่า กล่าวในที่สุด
ด้านนางสุรรณญา อุทัยทิพย์ เจ้าของสวนอาหารบริเวณถนน 7 ชั่วโคตร ช่วงเชื่อมศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ก่อนเกิดปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน สถานที่ตั้งบริเวณนี้เป็นเส้นทางเชื่อมศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นถนนเส้นตรงตัดผ่านมาจากตัวเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ถือว่ามีทำเลดีมาก จึงมาเปิดสวนอาหารบริการลูกค้าในช่วงปี 2565 ช่วงนั้นกิจการไปได้ดีจึงขอเช่าที่ข้างเคียงแปลงหนึ่งราคา 1 แสนบาท/ปี เพื่อขยายกิจการทำเป็นลานจอดรถ แต่เมื่อโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง มาก่อสร้างมีการเปิดผิวถนน ก็เริ่มทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน เวลาผ่านไปนานเข้าก็พบว่าผู้รับเหมาทิ้งงาน ทำให้ผิวถนนที่สวยงามเป็นหลุม เป็นบ่อ ตลอดระยะทาง ทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้านและต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินทิ้งไปเฉยๆปีละ 1 แสนบาท
นอกจากนี้ ริมถนนหน้าร้านที่ผู้รับเหมาขุดทิ้งไว้ ยังมีน้ำขัง ลมโชยมาแต่ละทีมีกลิ่นเหม็นรบกวน รวมทั้งยังมีแท่งปูนกีดขวางจราจรเกิดอุบัติเหตุบ่อย ทุกวันนี้จึงไม่ค่อยมีลูกค้ามาเข้าร้าน รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านค้าขาย หอพัก ห้องเช่า ร้านเสริมสวยต่างๆ ริมฝั่งถนนสายนี้ ที่ได้รับผลกระทบ ก็ต้องปิดกิจการลงผู้ประกอบการหลายรายยังประกาศบ้านขาย ให้เช่า มันส่งผลกระทบไปหมด เกิดความเสียหายต่อสภาพจิตใจและเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง โดยไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามรายงานแจ้งว่า การเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรมต่อปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบและกลุ่มคหบดี พ่อค้า นักธุรกิจ ยังติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งจากองค์กรอิสระที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ถึงแม้ขณะนี้จะมีเพียงการเคลื่อนไหวระหว่าง ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กับ กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ล่าสุด กรมโยธาฯ ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนแต่ก็ไม่ทำให้ชาวบ้านเกิดความสบายใจเพราะยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการจากกรมโยธาฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
รวมถึง การได้รับการแก้ไขเยียวยาจากผู้บริหารจังหวัดกาฬสินธุ์ สิ่งที่ชาวบ้านทำได้จึงมีเพียงการส่งเสียงเรียกร้องให้ผู้บริหารประเทศ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแล กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งคนดีคนจริงเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินด้วยหลักธรรมาภิบาล รักพี่น้องประชาชนเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ แต่สิ่งที่ต้องการหากเป็นไปได้ก็ขอเรียกร้องให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย พ่อของนายกรัฐมนตรี ที่ชาวกาฬสินธุ์ให้ความเคารพรัก ช่วยหาวิธีเร่งรัดแก้ไขปัญหานี้ให้ชาวกาฬสินธุ์ได้รับความเป็นธรรมด้วย
นอกจากนี้ ชาวกาฬสินธุ์ยังติดตามการพิจารณาปัญหา 7 ชั่วโคตร ซึ่ง ปัญหานี้ได้เข้าไปสู่กระบวนการพิจารณาของ คณะ กมธ.ปปช.สภาฯ มี ดร.ฉลาด ขามช่วง ปธ.กมธ.ปปช.ฯ ที่คาดว่าจะมีการเรียก 2 ผู้รับเหมา ประกอบด้วย หจก.เฮงนำกิจ - หจก.ประชาพัฒน์ รวมถึงผู้ควบคุมงานมาชี้แจงก่อนการพิจารณาเอกสารที่กรมโยธาฯจะส่งให้ กมธ.ปปช.ได้ในวันที่ 24 มกราคมนี้