Authority & Harm

ชาวบ้านห้วยเม็กไม่ทนบุกร้องเรียนศรธ. 'บิ๊กจังหวัด'ส่ออุ้มคนท้องถิ่นทิ้งงาน15วัน



กาฬสินธุ์-ตัวแทนชาวบ้านในตำบลคำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ บุกศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงละเลยต่อหน้าที่ มีพฤติกรรมส่ออุ้มข้าราชการท้องถิ่น “ทิ้งงานเกิน 15 วัน” ตั้งแต่ปี 2560 ผ่านมากว่า 7 ปียังไม่มีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือให้ออก ทั้งที่  ปปช.ชี้มูลความผิด กลับได้ใจคุยข่มไปทั่ว ไม่เกรงกลัวใคร อ้างมีผู้ใหญ่คุ้มกะลาหัว ชาวบ้านสุดทนร้องขอความเป็นธรรมถึง “นายกอุ๊งอิ๊ง” ช่วยจัดการกับมาเฟียในวงการราชการเมืองน้ำดำ

วันที่ 10 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เมื่อวัน 8 ม.ค.68 ตัวแทนชาวบ้านใน ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 7 คน นำโดยนายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 บ้านคำมันปลา หมู่ 6 ต.คำเหมือดแก้ว  ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน กรณีเจ้าหน้าที่ละเลยต่อหน้าที่ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด โดยมีนายสนุน แจะหอม นิติกรประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์และเจ้าหน้าที่รับเรื่อง โดยในวันนี้ชาวบ้านยังเฝ้ารอคอยและมีความหวังว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัด จะได้มีการดำเนินการตามที่ร้องเรียน อย่างตรงไปตรงมา เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ไม่อุ้มข้าราชการที่แสวงหาประโยชน์

นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน กล่าวว่า  หลายปีมาแล้วที่ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้ว 9 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อน  เสียโอกาส เนื่องจากการพัฒนาล่าช้า โดยมีสาเหตุจากข้าราชการคนหนึ่ง (ตำแหน่งนักวิเคราะห์ฯ)  ในสำนักงานเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้ว คอยขัดขวางและร้องเรียนตลอด ไม่ว่าทางสภา หรือผู้บริหารจะจัดกิจกรรมหรือโครงการพัฒนาอะไร  เป็นได้ร้องเรียนต่อ ปปช.ตลอด เป็นอุปสรรคในการพัฒนา สร้างความแตกแยกในองค์กร ทั้งๆข้าราชการคนดังกล่าว ได้ถูก ปปช.ชี้มูลความผิดมาก่อนหน้านี้หลายปี กรณีขาดราชการติดต่อกัน 15 วัน

นายพูนพิพัฒน์กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมของข้าราชการคนดังกล่าว ที่ขาดราชการเกิน 15 วัน เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2560 ทางผู้บริหารท้องถิ่นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน สรุปสำนวนเสนอ ปปช.ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และปปช.ได้สรุปมีความผิดจริง จากการติดตามเรื่องทราบว่า ปปช.ได้ส่งผลการพิจารณาถึงท้องถิ่นจังหวัด เพื่อนำเข้าสู่อนุกรรมการระดับจังหวัด  ดำเนินการทางวินัยและการให้อออกจากราชการ  แต่ความจริงที่เกิดขึ้นถึงปี 2568 เทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วผ่านนายกเทศมนตรีมาแล้ว 3 คน ข้าราชการคนดังกล่าวยังไม่ถูกพักงานหรือมีคำสั่งให้ออกจากราชการ แต่กลับสร้างความป่วนปั่น เดือดร้อน ให้กับชาวบ้านและสร้างความแตกแยกในองค์กรตลอดมา

“นอกจากนี้ ข้าราชการคนดังกล่าว ยังมีพฤติกรรมไม่เกรงกลัวใคร อ้างว่ามีผู้ใหญ่ในระดับจังหวัดคอยช่วยเหลือ  แม้มีผู้ใดบังอาจมาร้องเรียน ก็ไม่อาจเป็นผลให้มีความผิดแม้จะขาดราชการก็ตาม  และยังบอกอีกว่าข้าราชการส่วนท้องถิ่นฯที่ประสงค์ให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลือ ต้องมีการจ่ายเงินในอัตราสำนวนละ 5,000-10,000 บาท เพื่อแลกกับการช่วยเหลือ ให้ได้รับโทษน้อยลงหรือเก็บสำนวนวินัย ไม่เสนอหรือไม่จัดส่งให้อนุกรรมการวินัยในคณะกรรมการพนักงานส่วนท้องถิ่นของจังหวัด พิจารณา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก  หากเป็นความจริงถือเป็นสิ่งเลวร้ายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมข้าราชการ  โดยรายละเอียดทั้งหมดมีอยู่ในหนังสือร้องเรียน และรายงานผลการพิจารณา จำนวน 300 หน้า ที่ทางสำนักปลัดเทศบาลตำบลคำเหมือิดแก้วส่งให้กับสำนักงานท้องถิ่นนานแล้ว แต่เรื่องยังเงียบหาย ข้าราชการคนนั้นยังทำงานตามปกติ และคอยจับผิด หาเรื่องร้องเรียนองค์กรตัวเองเช่นเดิม” นายพูนพิพัฒน์กล่าว

นายพูนพิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนและชาวบ้าน รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่คนที่มีความผิดกลับไม่ได้รับการลงโทษ คอยแต่ร้องเรียน ถ่วงความเจริญของตำบล และอาจจะเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในจังหวัดแสวงหาประโยชน์  จึงได้ทำหนังสือร้องเรียน 2 ส่วน ทั้งพิจารณาบทลงโทษข้าราชการเทศบาลตำบลคำเหมือดแก้วที่ขาดราชการเกิน 15 วัน และให้ตรวจสอบข้าราชการระดับสูงบางคนในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระเบียบวินัยข้าราชการท่องถิ่นที่ถูกร้องเรียน ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่ดำเนินการใดๆ 

“หากเจ้าหน้าที่ระดับสูงมีพฤติกรรมอย่างนี้ ก็จะเป็นการใช้ช่องทางแสวงผลประโยชน์  ทำลายภาพลักษณ์องค์กรส่วนท้องถิ่น ชาวบ้านเสียโอกาสได้รับการพัฒนา และสร้างความแยกแยกในองค์กร อย่างที่ชาวบ้านตำบลคำเหมือดแก้วประสบอยู่ เพราะผู้ข้าราชการที่ขาดราชการเกิน 15 วัน ล่วงเลยมาแล้ว 7 ปี ยังไม่ถูกลงโทษ แต่กลับคอยแต่ร้องเรียนการพัฒนาตำบลไปทุกเรื่อง ไม่ต่างกับคอยแต่จะจุดไฟเผาบ้านตัวเอง  ทั้งนี้ หากร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมไม่เป็นผล ก็จะรวมตัวไปร้องเรียนถึงสำนักนายกรัฐมนตรี และนายกอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตรต่อไป” นายพูนพิพัฒน์กล่าวในที่สุด

ด้านนายสนุน แจะหอม นิติกรประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ จากการสอบถามและตรวจสอบหนังสือร้องเรียนเบื้องต้น หากข้าราชการขาดราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน ก็ถือว่าเป็นความผิดวินัยชัดเจนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว ก็จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ดำเนินการตรวจสอบในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปและให้เร็วที่สุด เพราะเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน