Biz news
ยืนหนึ่ง!เจาะกลยุทธ์และเหตุผล...ทำไม? 'ไทวัสดุ'ครองใจศูนย์รวมสินค้าบ้านปี67
เรียกได้ว่า 2024 เป็นปีสุดหินของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในปีนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย และผู้ดำเนินธุรกิจในตลาดดังกล่าวต่างต้องปรับตัวเพื่อสู้กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความผันผวน โดยในส่วนของประเทศไทยมีการคาดการณ์จากสถาบันต่างๆว่า ปิดท้ายปีนี้อาจติดลบถึง 20% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในรอบทศวรรษ และถือเป็นธุรกิจที่ยังคงต้องจับตาว่าก้าวต่อไปในอนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องของกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมดังกล่าวจะอยู่ในระดับการเติบโตที่ไม่มากนัก แต่หากเจาะลึกถึงธุรกิจในห่วงโซ่จะพบว่าบางภาคส่วนมีการเติบโตสวนกระแส และอยู่รอดได้ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่รุนแรง ดังเช่นไทวัสดุ ผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่จะเห็นได้ว่ามีทั้งการขยายจำนวนสาขาเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อจากหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วประเทศ และที่เป็นไฮไลต์อย่างการเขย่าวงการธุรกิจรีเทลฮาร์ดไลน์กับผลประกอบการสุดแกร่งจากปี 2023 ที่ผ่านมา ด้วยยอดขายรวมนิวไฮสูงสุด 40,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 11%
จากภาพรวมการเติบโตนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ดังอย่างไทวัสดุเติบโตสวนเส้นทางกำลังซื้อและภาพรวมทางเศรษฐกิจ และถือเป็นกรณีที่น่าศึกษาว่าทำไมหากนึกถึงเรื่องบ้าน งานก่อสร้าง และไลฟ์สไตล์ต้องนึกถึงแบรนด์ที่รู้ใจทุกความต้องการอย่าง “ไทวัสดุ”
·โมเดลไฮบริดสโตร์ ชูแกร่งทั้งวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน
เป็นระยะเวลานานถึง 14 ปี ที่ไทวัสดุ ได้เข้ามาเป็นผู้เล่นเบอร์ต้นๆในวงการธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง แม้จะมาทีหลัง แต่สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วทุกปี ด้วยการวาง Position ตัวเองที่ชัดต่อการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง ตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ตามสโลแกน “ไทวัสดุ ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี” จึงทำให้ช่างและผู้รับเหมาที่ต้องการซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างทั้งงานเล็ก งานใหญ่ จะต้องนึกถึงร้านไทวัสดุ เป็นอันดับแรกๆ ทั้งนี้ไทวัสดุ ยังเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกของวงการธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ที่สร้างโมเดล White Format ในรูปแบบไฮบริดสโตร์ เปิดเต็มรูปแบบครั้งแรกที่สาขาศรีสมาน จังหวัดนนทบุรี ในปี 2021 ซึ่งเป็นการรวมจุดเด่นของสองแบรนด์ คือ ‘ไทวัสดุ’ และ ‘บีเอ็นบี โฮม’ กลายเป็น ‘ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม’ ศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้างฮาร์ดไลน์ และสินค้าสำหรับตกแต่ง-ซ่อมแซมบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเพื่อบ้านครบวงจรกว่า 50,000 รายการ เป็นอีกจุดนัดพบของช่าง ผู้รับเหมา ผู้ประกอบการ และเจ้าของบ้าน ได้มาสัมผัสประสบการณ์ช้อปในโมเดิร์นเทรดทันสมัย ครบครันด้วยสินค้าเพื่อบ้านทุกหมวดหมู่จากแบรนด์ดัง คุณภาพดีและราคาคุ้มค่า เพิ่มยอดขายได้ถึง 30% ตลอดจนการเพิ่มไลน์สินค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น เพื่อตอบรับดีมานด์และขยายฐานลูกค้าระดับ Mid-to-High เป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ให้การเลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป และสามารถเข้าถึงไลฟสไตล์ผู้คนได้ทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
·สินค้าราคา ‘ถูก’ และ ‘คุ้ม’ หลายต่อ
หากเดินเข้าไปในร้านไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม เราจะพบเห็นสินค้ามากมายติดราคาลดพิเศษสูงสุดถึง 70% และถูกกว่าในท้องตลาด นั่นเป็นเพราะไทวัสดุ ให้ความสำคัญในเรื่องราคาสินค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อได้ในราคาที่เอื้อมถึง จึงได้ใช้กลยุทธ์ Big Volume Order ทำการซื้อและจัดหาสินค้าที่เน้น Volume สูง เพื่อให้ได้ต้นทุนต่ำ แต่สินค้ายังคงคุณภาพที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ไทวัสดุ ยังมีการจัดโปรโมชันทุกเดือน ยิ่งช้อปมากก็ยิ่งคุ้มกับคูปองส่วนลด บัตรกำนัลเงินสด บัตรกำนัลทอง และสิทธิประโยชน์หลายต่ออีกมากมาย ซึ่งโปรโมชันในออนไลน์และที่หน้าร้านนั้นเป็นแบบเดียวกัน ราคาเท่ากัน ไม่ต้องเสียเวลาในการเปรียบเทียบราคา อีกทั้งยังมีบริการจัดส่งสินค้าฟรี จึงทำให้ไทวัสดุ สามารถดึงดูดลูกค้าที่คำนึงถึงความอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าช่างและผู้ประกอบการที่ต้องมีการสั่งซื้อวัสดุสินค้าก่อสร้างในปริมาณมาก หรือลูกค้าเจ้าของบ้านที่มีความใส่ใจทั้งคุณภาพของสินค้าและราคา
·ขยายสาขาเยอะ เข้าถึงทุกพื้นที่แบบ ‘ป่าล้อมเมือง’
ปัจจุบัน ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม มีจำนวนสาขารวมทุกฟอร์แมททั้งหมด 103 สาขา ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในจังหวัดใหญ่และเมืองรอง ทำให้เข้าถึงลูกค้าในทุกพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง โดยที่ร้านไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮมจะตั้งอยู่ในไพร์มโลเคชั่น ใจกลางเมือง และโลเคชั่นบนถนนสายหลักสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองและไปพื้นที่จังหวัดอื่นได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มในพื้นที่และจากพื้นที่ใกล้เคียงสามารถเดินทางมาช้อปที่ไทวัสดุได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ไทวัสดุให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มรายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นครบวงจร ตั้งแต่สินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่าง สินค้าสำหรับตกแต่งซ่อมแซมบ้าน สินค้าอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ระบบประปา โซล่าร์เซลล์ เฟอร์นิเจอร์สำหรับทุกห้องในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเพื่อบ้าน เรียกได้ว่า หากต้องการสร้างบ้านใหม่ หรือตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน ก็สามารถมาที่ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ได้ของครบจบในที่เดียว
·ก้าวล้ำกว่าใครในตลาดด้วยบริการที่เหนือมาตรฐาน
ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม ไม่ได้หยุดแค่เรื่องการจำหน่ายสินค้าดี ราคาถูก และมีสาขาเยอะเท่านั้น แต่ยังให้บริการที่มากกว่าคำว่าได้มาตรฐาน ด้วยความเข้าใจในลูกค้าทุกกลุ่ม เจาะลึกถึง Pain point และ Demand ของลูกค้า เพื่อนำไปพัฒนาการให้บริการในทุกช่องทาง ตั้งแต่พนักงานไทวัสดุ ที่มีความรู้ในสินค้าเป็นอย่างดี สามารถให้คำแนะนำในเรื่องตัวสินค้าหรือโปรโมชั่นเพื่อความคุ้มค่าแก่ลูกค้า บริการ vFIX ช่างมือ 1 เรื่องบ้านจากไทวัสดุ ให้คำแนะนำและบริการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ ปั๊ม แท็งค์น้ำ เตาแก๊ส ชุดสุขภัณฑ์ ระบบไฟฟ้า รวมถึงงานซ่อมแซม รีโนเวท งานออกแบบดีไซน์ด้วยโปรแกรม 3D ฯลฯ ซึ่งพนักงาน vFIX ทุกคนผ่านการอบรมจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่อาจไม่มีเวลาในการไปหาช่าง และการได้ช่างฝีมือดี ไม่ทิ้งงานนั้นก็เป็นอีกปัญหาที่ไทวัสดุมองเห็น จึงเกิดบริการ vFIX นี้ที่ไทวัสดุทุกสาขา เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าแล้ว สามารถขอคำแนะนำหรือใช้บริการได้ทันที
การให้บริการจำหน่ายสินค้าทั้งแพลตฟอร์มออฟไลน์และออนไลน์ของไทวัสดุ ด้วย Omnichannel ในรูปแบบ Phygital คือ Physical Shop (หน้าร้าน) ผสานกับ Digital Shop (ช่องทางออนไลน์) ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยมีการเชื่อมต่อ data ให้ลูกค้าสามารถช้อปได้ในทุกแพลตฟอร์มอย่างไร้รอยต่อ เช่น บริการ Click & Collect สั่งสินค้าทางออนไลน์ และเลือกรับสินค้าได้ในสาขาที่สะดวก บริการ E-Commerce ด้วย Website Social Commerce (Line -Chat & Shop, Facebook, Call & Shop, Call Center, Application, Call center 1308)
·เข้าใจ อินไซต์ลูกค้า ตอบทุกโจทย์ความต้องการได้เหนือความคาดหมาย
ไทวัสดุ ให้ความสำคัญกับลูกค้าตั้งแต่รายย่อย กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ เข้าใจในความต้องการของลูกค้า รับฟังความคิดเห็น แล้วนำเสนอด้วยสินค้าที่ผ่านการคัดสรรจากแบรนด์ดัง การตั้งราคาและโปรโมชั่นที่มุ่งเน้นความคุ้มค่าของลูกค้า ตลอดจนบริการโซลูชั่น การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆเพื่อการให้บริการที่ดีที่สุด
“ไทวัสดุ เกิดขึ้นและสำเร็จได้เพราะเราให้ความสำคัญในเรื่อง Customer Centric เชื่อว่าการที่ไทวัสดุ อยู่ในใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้นั้นเป็นเพราะเรามองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งได้มีการนำอินไซต์ต่างๆมาพัฒนาแผนการตลาด ปรับปรุงกลยุทธ์ต่างๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง จึงทำให้ไทวัสดุ มีลูกค้าที่เป็น long-term customer ขณะเดียวกันเราก็ได้ขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยเช่นกัน”
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลา 14 ปี ตั้งแต่เปิดสาขาแรกมาจนถึงปัจจุบันนี้ ไทวัสดุ ยังมุ่งเน้นจุดยืนการเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ช้อปที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า สร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่ง ซ่อมแซมบ้านอย่างไม่จำกัด ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพันธมิตรกับคู่ค้าทางธุรกิจ การพัฒนารูปแบบนวัตกรรมของสินค้า และบริการ ตลอดจนให้ความสำคัญ เรื่องความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ดังเช่น การจำหน่ายสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อลูกค้า การเป็นเจ้าแรกที่ทำกรีนโลจิสติกส์ด้วยการใช้รถบรรทุกสินค้า เป็นผู้นำเจ้าแรกในวงการธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ใช้รถบรรทุกพ่วงแม่ลูก
ในส่วนภาพรวมจำนวนสาขาของไทวัสดุและบีเอ็นบี โฮม รวมได้ทั้งหมด 103 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ใน 50 จังหวัด โดยภายในปี 2567 ที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ สามารถขยายสาขาใหม่ ไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม รวมเป็นจำนวน 8 สาขา ได้แก่ 1.) ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาอุดรธานี กุดสระ 2.) ไทวัสดุ สาขาอรัญประเทศ 3.) ไทวัสดุ สาขาสระแก้ว 4.) ไทวัสดุ สาขาแกลง 5.) ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาพระรามสาม 6.) ไทวัสดุ สาขาอุทัยธานี 7.) ไทวัสดุ สาขาแพร่ และ 8.) ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาขอนแก่น 2 ซึ่งในปี 2568 นี้ยังมีแผนเปิดสาขาอื่นๆ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ได้ยึดหลักปรัชญาดำเนินธุรกิจ CRC CARE ภายใต้เซ็นทรัล รีเทล ในด้าน CARE FOR THE COMMUNITY ด้วยการเคียงข้างสังคม ยกระดับคุณภาพชิวิตของผู้คนในท้องถิ่น ดังเช่น โครงการ
‘ไทวัสดุ เคียงข้าง สร้างสุข’ ที่ส่งความช่วยเหลือบริจาคน้ำดื่ม อุปกรณ์ทำความสะอาด และการระดมกำลังทำ Big Cleaning จากกลุ่มพนักงานไทวัสดุจิตอาสา ที่ได้มีการลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือและภาคใต้, การบริจาคเงินสนับสนุนสถานพยาบาลในท้องถิ่น โดยไทวัสดุร่วมบริจาคกับคู่ค้าพันธมิตรทุกครั้งที่เปิดสาขาใหม่ ซึ่งในปี 2567 นี้ ยอดเงินบริจาครวมแล้วกว่า 400,000 บาท เพื่อเป็นประโยชน์และส่งเสริมการรักษาพยาบาลในชุมชน รวมไปถึงการยึดมั่นในด้านความยั่งยืน CRC CARE FOR SUSTAINABILITY ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ดังเช่น การร่วมสืบสานพระราชปณิธานในโครงการป่ารักษ์น้ำ สร้างฝายชะลอน้ำใน จ.เชียงใหม่ รวมกว่า 1,400 ฝาย , การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ด้วยการนำรถบรรทุกพลังงานสะอาด หรือ EV Truck มาใช้ในการขนส่งสินค้า เพื่อร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และยังมีการส่งต่อความยั่งยืนในตัวบุคคลอีกด้วย ทั้งด้านการเปิดโอกาสจ้างงานคนในท้องถิ่นกว่า 200 อัตรา ที่สาขาใหม่ทุกแห่ง และการเปิดศูนย์บริการลูกค้า Contact Center ณ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัมนาคนพิการ โดยมีคนพิการกว่า 100 คน ได้ปฏิบัติงานในตำแหน่ง Call Center ซึ่งเป็นการส่งเสริมอาชีพผู้พิการให้มีรายได้มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลคนในครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
เชื่อมั่นว่า เราจะยังได้เห็นการเดินทางของไทวัสดุในปีต่อๆไปว่าจะมีทิศทางการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างไร ท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์บ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม ซึ่งส่งผลกระทบในการดำเนินงานทุกธุรกิจและทุกองค์กร ที่ต้องมีการปรับตัว ไม่อยู่นิ่ง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ท้าทายของ ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ในการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านอย่างครบวงจร