Authority & Harm

เตือนภัย!มิจฉาชีพสวมรอยอ้างเป็นสตง. หลอก4หมื่นหาผู้รับเหมาทำโรงเห็ดในรร.



สิงห์บุรี-เตือนภัย!! มิจฉาชีพสวมรอยมาจาก สตง. หาผู้รับเหมาทำโรงเรือนตามโรงเรียน สูญเงินกว่าสี่หมื่น คาดว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย

วันที่ 14 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายธีรโชติ หรือ นายโรจน์ มีจันทร์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 ม.2 ต.บ้านจ่า อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี อาชีพ รับเหมา รับจ้างทั่วไป ว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้ทำสัญญาว่าจ้างรับเหมาทำโรงเพาะเห็ดที่โรงเรียนจำนวน 4 โรงเรียน แล้วเชิดเงินไปกว่าสี่หมื่นบาท และเงียบหายไป โทรไปก็ติดต่อไม่ได้ เมื่อไปตรวจสอบโรงเรียนที่มิจฉาชีพบอกไว้ปรากฎว่าไม่มีการทำโรงเรือนดังกล่าว จึงมั่นใจว่าถูกหลอกเสียแล้ว จึงได้มาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบางระจัน จ.สิงห์บุรี

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายโรจน์ ถึงที่มาของการถูกหลอกในครั้งนี้ นายโรจน์ เล่าให้ฟังว่า “เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 9.00 น. ที่ผ่านมา ตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่สิงห์บุรี แต่มีชายไม่ทราบชื่อโทรศัพท์มาหาตน ถามว่าตนเป็นผู้รับเหมาใช่หรือไม่ เมื่อตนบอกว่าใช่ ชายคนดังกล่าวได้บอกว่ามาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะมีงานสร้างโรงเห็ดซึ่งทำสัญญากับโรงเรียนในจังหวัดสิงห์บุรี ไว้จำนวน 4 โรงเรียน ตนจึงบอกว่าขอดูแบบแปลนก่อน จากนั้นได้นัดเจอกันที่วัดโพธิ์สุทธาลัย หรือ วัดหัวแหลม ม.12 ต.เชิงกลัด  อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ในวันที่ 15 พ.ย.67 เวลา 09.00 น. ซึ่งชายคนดังกล่าวได้บอกว่า วันที่นัดนั้นจะมาตรวจงานที่โรงเรียนดังกล่าว หลังจากได้พบกับชายดังกล่าวแล้ว ได้แนะนำตัวว่าชื่อ นายอรรถพล (จำนามสกุลไม่ได้) ขับรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโว่ สีเทา (ไม่ทันมองป้ายทะเบียน) ติดสติ๊กเกอร์ที่ด้านขวาของประตูรถมีคำว่า “สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน” จอดอยู่ โดยเห็นชายคนดังกล่าวเพียงคนเดียว รูปร่างท้วมๆ สูงประมาณ 160 กว่าๆ ผิวสองสี ตนจึงถามว่า ทำไมถึงมาคนเดียว ชายคนดังกล่าวบอกว่า คนอื่นๆ ได้ไปตรวจงานที่อื่น และได้คุยเรื่องการจ้างทำโรงเห็ด ที่โรงเรียนจำนวน 4 โรงเรียน ในเขตพื้นที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมทั้งนำแบบแปลนมาให้ตนดู ทำให้ตนเชื่อถือจึงได้ตกลงรับจ้างทำ ชายคนดังกล่าวได้ทำสัญญาว่าจ้าง โดยให้ตนจ่ายเงินค่าวางประกันสัญญา และค่าอื่นๆ รวม 44,300 บาท แต่นายอรรถพล ไม่ได้นำสัญญาคู่ฉบับให้กับตน จนต่อมาอีกไม่นาน ได้โทรมาขอยืมเงินของตนอีก 10,000 บาท ตนจึงเริ่มสงสัย และได้ปรึกษากับคนรู้จัก โดยให้คนรู้จักโทรไปพร้อมอัดเสียงไว้เป็นหลักฐานหลอกว่าเป็นเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้าง เพื่อจะขอดูสัญญาที่ทำกันไว้ โดย นายอรรถพล ก็ได้บ่ายเบี่ยง บอกเพียงว่ากำหนดที่จะทำโรงเรือนวันที่ 17 มกราคม 2567 แต่กำหนดว่าจะทำเสร็จเมื่อไหร่ยังไม่กำหนด หลังจากนั้นก็ติดต่อชายคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลย”

นายโรจน์ เล่าต่อว่า “ ต่อมา วันที่ 14 ธันวาคม 2567 ตนก็ได้รับจดหมายเป็นบันทึกข้อความ ซึ่งไม่ใช่สัญญาคู่ฉบับตามที่ นายอรรถพล บอกว่าจะส่งมา โดยในบันทึกข้อความได้แจ้งไว้(โดยย่อ) ว่าให้เข้าดำเนินการทำโครงการที่ได้ลงระบุไว้ในสัญญาจ้างเหมาและมารับฟังคำชี้แจงของคณะกรรมการที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 5 ในวันที่ 10 มกราคม 2568 และให้เริ่มปฏิบัติงานวันที่ 17 มกราคม แต่ตนเกิดความสงสัยว่าจะโดนหลอกแล้วจึงเช็คไปยังโรงเรียนที่ นายอรรถพล ได้บอกไว้ และได้ทรายว่าไม่ได้มีการจ้างทำโรงเห็ดจริง จึงไปเช็คที่ อบต.บ้านจ่า เนื่องในวันที่ 7 พฤศจิกายน ได้มี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มาตรวจที่ อบต.บ้านจ่า และได้พบบัตรประชาชนของคนขับรถที่ลงทะเบียนไว้พบว่า ชื่อ นายสาธิต ฤทธิ์กล้า อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 51 หมู่ที่ 3 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ซึ่งรูปในบัตรประชาชนนั้นตรงกับชายคนที่อ้างชื่อว่า ชื่ออรรถพล และเมื่อตรวจชื่อใน Facebook นั้น รูปโปรไฟล์และรูปที่ปรากฎในเฟซบุ๊กส์นั้น ตนยืนยันกับพนักงานสอบสวนว่า เป็นคนเดียวกันกับชายมิจฉาชีพคนดังกล่าว เมื่อตรวจสอบข้อมูลในเฟซบุ๊กส์พบว่า นายสาธิต นั้น ภูมิลำเนาเคยอยู่ตำบลเซ่าสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ทำให้ตนเข้าใจแล้วว่าทำไม นายสาธิต ถึงอ้างชื่อโรงเรียนต่างๆ ทั้ง 4 โรงเรียนที่อยู่ในเขตอินทร์บุรี ได้หมด และคาดว่ามีผู้เสียหายที่จะโดน นายสาธิต หลอกมากกว่านี้”

จากนั้นนายโรจน์ จึงได้เข้าพบ พ.ต.ท.มนเทียน ภูเขา สารวัตรสอบสวน สภ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว ซึ่งหลังรับแจ้งแล้วพนักงานสอบสวนจะได้ติดตามชายคนดังกล่าวมาดำเนินดดีต่อไป

จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี