Authority & Harm
สาวไทรโยคทนหนาวไม่ไหวลงก่อไฟผิง ร้อนไม่ทันใจเทน้ำมันราด พรึ๊บ!หน้าเละ!
กาญจนบุรี-เมืองกาญจน์ อุณหภูมิหนาวจัดเกือบติดลบ เป็นเหตุให้สาวใหญ่ไทรโยคกลับจากกรีดยาง ทนหนาวกลางดึกไม่ไหว สุมไฟในเตาคลายหนาว ไม่ทันใจใช้น้ำมันราดฟืนในเตา พรึบเดียว ! หวิดตาบอด ถูกเปลวไฟเผาใบหน้าเสียโฉม///
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้หวิดทำให้หญิงสาวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หวิดตาบอดใบหน้าเสียโฉม เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.32 น.ของวันที่ 14 ม.ค.68 ศูนย์วิทยุกู้ชีพ-กู้ภัยพลังบุญมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ศูนย์ไทรโยคน้อย ได้รับแจ้งจาก 1669 ศูนย์นเรนทร์กาญจนบุรี ว่ามีหญิงสาวได้รับบาดเจ็บจากการสุมไฟในเตาแล้วถูกไฟรวกใบหน้า หลังรับแจ้งจึงจัดรถพยาบาลกู้ชีพ-กู้ภัย คันที่ 3 ไปที่บ้านของหญิงคนดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ติดชายแดนไทย-เมียนมา บ้านทุ่งมะเซย่อ หมู่ 4 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยคฯ ต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปเกือบ 1 ชม. จึงพบหญิงสาวเชื้อสายไทย-กระเหรี่ยง ชื่อนางมู(นามสมมุติ)อายุ 37 ปี นอนใช้ผ้าห่มคลุมโปงนอนร้องครวญครางอยู่
เมื่อเปิดผ้าห่มออกจึงพบร่างของนางมูอยู่ในสภาพเส้นผมบนศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ และตามร่างกายถูกเปลวไฟลวกจนผิวหนังไหม้เกรียม โดยนางมูใช้ยาสีฟันและแป้งฝุ่นทาที่บริเวณใบหน้าที่หวิดเสียโฉม ดวงตาทั้งสองข้างหวิดบอด เจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย จึงทำการประเมินอาการก่อนจะนำตัวส่ง รพ.ไทรโยค เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาอาการ
จากการสอบถามทราบว่า อำเภอไทรโยค อากาศในช่วงเวลากลางคืน อุณหภูมิหนาวจัด โดยเฉพาะยิ่งดึก อุณหภูมิแถวตระเขปรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา อุณหภูมิต่ำ ประมาณ 9 องศาเซนเซียส ก่อนเกิดเหตุนางมูและสามีได้ไปกรีดยางแล้วรีบกลับบ้านเพราะทนอากาศที่หนาวจัดไม่ไหว นางมูจึงก่อไฟในเตาแล้วตั้งภายในบ้านเพื่อกันหนาว แต่คาดว่า นางมูใจร้อนและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไฟลุกไม่ทันใจ จึงเทน้ำมันเบนซินในแกลลอนราดใส่ลงไปในเตา เพื่อให้ไฟลุกแรงขึ้น เปลวไฟจึงลุกพรึบลวกเส้นผมบนศีรษะ ใบหน้า ดวงตา และต้นคอ ทำให้นางมูหวิดเสียโฉม ตาหวิดบอด เปลวไฟยังได้ไหม้เสื้อผ้า เดชะบุญไม่ถึงกับเสียชีวิต เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นอุทธาหรณ์ได้ดีว่า อย่าได้ใช้น้ำมันเทใส่กองไฟอย่างเด็ดขาด แพทย์ได้ทำการรักษาอาการแล้วส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เนื่องจากถูกไฟลวกตามร่างกายอาการสาหัส
สนั่น-กรกนก ศิลปะขจร/กาญจนบุรี