In Thailand

ร้อยเอ็ดผ่อนคลายโควิดยึดตามศบค.ใหญ่



ร้อยเอ็ด-ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดผ่อนคลายกิจกรรมดำเนินชีวิตและผ่อนคลายกิจการด้านเศรษฐกิจแต่ยังคงมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 9.30 น. นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมแก้วมุกดา ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายสนอง ดลประสิทธิ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ,นายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ,นายเอกภาพ พลซื่อ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ โควิด-19 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีมติกำหนดมาตรการการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อ โควิด-19 นั้น ให้ส่วนราชการ ภาคเอกชนและประชาชนทั่วไป ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคตามประกาศของจังหวัดร้อยเอ็ดอย่างเคร่งครัด ซึ่งในส่วนของการผ่อนคลายกิจกรรมดำเนินชีวิตนั้น สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย โรงยิม ฟิตเนส สามารถจัดบริการได้ตามเวลาปกติ และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยจัดจำนวนคนผู้ชมในสนามและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ตามที่ทางได้ราชการกำหนด ในส่วนของการผ่อนคลายกิจการด้านเศรษฐกิจห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ ยกเว้นส่วนที่เป็นตู้เกมเครื่องเล่น หรือร้านเกมส์ และสวนสนุก ให้งดบริการก่อน ในส่วนของร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ตามกำหนดเวลาของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน

ในส่วนการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามยัจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 200 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ดหรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด และในส่วนของการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ของโรคแบบกลุ่มก้อนนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงงาน สถานที่พักแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่นๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขเงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ในกรณีที่พบผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ว่ากล่าวตักเตือนและสั่งให้ผู้นั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง ถ้าผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามให้ดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ทั้งนี้ ผู้ใดที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 51 ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือมาตรา 52 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งหรือประกาศเปลี่ยนแปลงซึ่งจะได้มีการประเมินเป็นระยะเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป