Biz news

' มิตซูบิชิ อีเล็คทริค'รุกตลาดไทยปี2568 ชูแอร์เป็นเรือธง/ตั้งเป้ายอดขายโต10%



กรุงเทพฯ-มิตซูบิชิ อีเล็คทริค รุกตลาดไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ปี 2568 มุ่งเสริมแกร่งด้วยเครื่องปรับอากาศภายในบ้านรุ่นล่าสุด พร้อมตู้เย็น พัดลม พัดลมระบายอากาศ และปั๊มน้ำ โดยเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ XZ Series โดดเด่นด้วย 3D Move-eye Comfort Sensor ที่มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายโต 10% โดยมีเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าเรือธงผลักดันยอดขายให้เติบโตตามเป้า

บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B เปิดตัวเครื่องปรับอากาศ  รุ่นใหม่ 3 ซีรีส์ นำโดยรุ่น XZ Series มาพร้อม 3D Move-eye Comfort Sensor ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิและการเคลื่อนไหวของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำ และตู้เย็นรุ่นใหม่ขนาดใหญ่ 6 ประตู (MR-WX70C) จากญี่ปุ่นซึ่งเป็นรุ่นเรือธง พร้อมแนะนำพัดลมและพัดลมระบายอากาศที่มีสีใหม่ รวมถึงปั๊มน้ำที่มีความเงียบยิ่งขึ้น ได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและเพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดไทย ในกลุ่มลูกค้า B2B เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ VRF เครื่องทำความเย็นแบบโมดูล (Modular Chiller) และเครื่องปรับอากาศสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พร้อมใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับการรับรู้แบรนด์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน

นายโทชิยูกิ อีซูกะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้า ปัญหาหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น นอกจากนี้พื้นที่ในภาคเหนือและภาคใต้ต้องประสบกับอุทกภัยที่รุนแรง ขณะเดียวกัน  ด้านตลาดเครื่องปรับอากาศยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและยกระดับการบริการ เพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งนี้การที่เราได้รับรางวัล 'No.1 Brand Thailand' และ 'Thailand’s Most Admired Brand' ในหมวดเครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำ เมื่อปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเรายังคงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในหมวดเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน พัดลมระบายอากาศ และปั๊มน้ำ โดยในปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) คาดการณ์ว่ายอดขายรวมของบริษัทฯ จะเติบโตเทียบเท่ากับปีงบประมาณ 2566 และตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปีงบประมาณ 2568 ไว้ที่ 10%”

“ด้านกลยุทธ์ปีงบประมาณ 2568 เราจะยังคงมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่ยั่งยืน และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ในทั้งสองกลุ่ม B2C และ B2B เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยในกลุ่ม B2C เราได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่นใหม่ XZ Series มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Move-eye Comfort Sensor ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิห้องและการเคลื่อนไหวของคนได้อย่างแม่นยำ ทำงานร่วมกับ Fast Cooling A.I. เพื่อส่งลมเย็นได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหลังโควิด-19 ทำให้การทำอาหารที่บ้านเพิ่มขึ้น ความต้องการตู้เย็นขนาดใหญ่จึงสูงขึ้น ปีนี้บริษัทฯ จึงนำเข้าตู้เย็นรุ่นใหม่ขนาดใหญ่ 6 ประตู (MR-WX70C) จากญี่ปุ่น ซึ่งมีฟังก์ชันการเก็บรักษาความเย็นที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งยังมีตู้เย็นหลากหลายรุ่น ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม สำหรับพัดลม ได้เพิ่มสีสันที่หลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และปั๊มน้ำรุ่นใหม่ R2 Series มีแรงดันน้ำที่ดีขึ้นและเสียงเงียบลง”

“ขณะเดียวกันในกลุ่ม B2B เราจะนำเสนอระบบปรับอากาศที่เน้นประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อาทิ ระบบ VRF ประสิทธิภาพสูง “City Multi”, Air Cooled Modular Chiller, Water Cooled Chiller และระบบบริหารจัดการอาคาร (BMS) เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ในตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับการใช้งานเฉพาะทาง เราได้เปิดตัวระบบทำความเย็นเฉพาะด้าน IT เพื่อตอบสนองการเติบโตของอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลใน ประเทศไทย พร้อมกันนี้ เราจะดำเนินกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างต่อเนื่อง Always with ME” เป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการขับเคลื่อนสังคมไทยให้ดีขึ้นผ่านกิจกรรม CSR ภายใต้โครงการ “The Giver Project” เพื่อเติบโตร่วมกับสังคมไทยอย่างยั่งยืน”

นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ มีนโยบายหลักในการยกระดับบริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้และทักษะของช่างเทคนิคของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ทั่วประเทศ เพื่อให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในระดับประเทศ อีกทั้งยังใช้ระบบบริการออนไลน์และแอปพลิเคชัน LINE OA อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับบริการหลังการขายได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะการซ่อมหรือการขอคำปรึกษาต่าง ๆ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทุกท่าน”

บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรและช่างเทคนิค เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านมา ศูนย์ฝึกอบรมของเราได้รับการรับรองให้เป็นผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก ระดับที่ 2 ซึ่งครอบคลุมทั้งเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก ทำให้เราสามารถดำเนินการฝึกอบรมต่อเนื่องให้กับช่างเทคนิคของศูนย์บริการ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค และช่างเทคนิคของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ปัจจุบันช่างเทคนิคของบริษัทฯ กว่า 80% ได้ผ่านมาตรฐานระดับ 2 แล้ว และมีเป้าหมายให้ช่างเทคนิคทุกคนของศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ผ่านการรับรองดังกล่าวภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้เราสามารถให้บริการที่เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นแก่ลูกค้า

สำหรับการส่งเสริมการศึกษาด้านวิชาชีพ บริษัทฯ ได้เดินหน้าสานต่อ “โครงการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคี” ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 โดยมีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็นให้แก่วิทยาลัยเทคนิคชั้นนำต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย”

นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า “ตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัยในประเทศไทยในปี 2025 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากปัจจัยบวกด้านการฟื้นตัวของความต้องการที่อยู่อาศัยและการประหยัดพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่ช่วยประหยัดพลังงาน บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายยอดขายเครื่องปรับอากาศในปีนี้ให้เติบโต 10% พร้อมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศใหม่ที่มอบความสะดวกสบายและประหยัดพลังงาน”

• เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น XZ Series มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Move-eye Comfort Sensor ที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิห้องและการเคลื่อนไหวของคนได้อย่างแม่นยำ ทำงานร่วมกับ Fast Cooling A.I เพื่อส่งลมเย็นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ห้องเย็นลงและมอบความสะดวกสบาย มาพร้อมฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (3 ดาว) มีให้เลือกทั้งสีขาวและสีดำใหม่ เพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งภายใน

• เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น GZ Series เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก XY Series เดิม มาพร้อม Eco-eye Sensor เซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวในห้องและเปิด - ปิดเครื่องปรับอากาศได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Fast Cooling Plus ที่ให้ความเย็นสบายอย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (3 ดาว)

• เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น Happy Plus Inverter (MZ Series) เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (1 ดาว)

• ตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริค MR-WX70C (รุ่น 6 ประตู) เป็นรุ่นเรือธงที่นำเข้าจากญี่ปุ่น มีฟังก์ชันครบครัน เช่น Super Cool Freezing ที่สามารถรักษาความสดของวัตถุดิบที่สามารถปรุงอาหารได้โดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง และ Super Cool Chilling รักษาความสดของเนื้อสัตว์ที่อุณหภูมิ 0 ถึง -3 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Vitamin Factory ช่วยรักษาวิตามินในผักใบเขียว

• ตู้เย็นมิตซูบิชิ อีเล็คทริค LX50 รุ่นใหม่ในซีรีส์พรีเมียม มีฟังก์ชัน Rapid Freezing ที่สามารถแช่แข็งได้เร็วกว่าเดิม 20% และช่วยคงความสด รักษาความอร่อย เมื่อเทียบกับวิธีการแช่แข็งแบบเดิม

• พัดลมมิตซูบิชิ อีเล็คทริค รุ่นตั้งโต๊ะและตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ เปิดตัวโทนสีใหม่ สไตล์ “Creamy” ด้วย 4 เฉดสี ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ดูผ่อนคลาย พัดลมติดผนัง ออกแบบตะแกรงหน้าใหม่ แบบเรียบ เพิ่มแรงลมขึ้น 30% และส่งลมได้ไกลขึ้น โดยพัดลมทุกรุ่น ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพที่เป็นเอกลักษณ์ เงียบ ทนทาน ปลอดภัยระดับพรีเมียม ประหยัดพลังงานสูงสุด ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 (5 ดาว)

• อุปกรณ์เสริมสำหรับพัดลมระบายอากาศ: เพิ่มทางเลือกในการตกแต่งด้วย 2 สีใหม่ คือสีน้ำตาลและสีดำ

• ปั๊มน้ำมิตซูบิชิ อีเล็คทริค R2 Series: ได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในขณะที่เสียงการทำงานเงียบลง และมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น ออกแบบตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม ทนทาน และใช้งานได้ยาวนาน

สำหรับภาคธุรกิจ B2B ที่ตลาดกำลังขยายตัว ทั้งกลุ่มโรงพยาบาล โรงเรียน โรงงาน และศูนย์ข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในด้านนี้ บริษัทฯ ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง เช่น ระบบ VRF ประสิทธิภาพสูง และระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ เช่น ชิลเลอร์ รวมถึงสามารถควบคุมจัดการการทำงานอย่างอัตโนมัติด้วยระบบ BMS (Building Management System) เป็นต้น

“ในปีงบประมาณ 2568 นี้ บริษัทฯ ได้วางงบการตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์ไว้กว่า 1,200 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ล่าสุดได้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ที่สะท้อนจุดขาย 'ให้ ME เป็นความสบายให้คุณ' โดยการเล่าเรื่องราวผ่านเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ ผ่านเสียงร้องของ นนท์ ธนนท์ ในฐานะพรีเซนเตอร์ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิดที่สนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตให้ “ติดสบาย” โดยมีเครื่องปรับอากาศ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ที่เข้าใจทุกการเคลื่อนไหวและมอบความเย็นสบายที่พอดีกับความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย และสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออฟไลน์ อาทิ บิลบอร์ด และรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ยิ่งขึ้น และบรรลุยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชิซุโอะ นาคาสึคาสะ กล่าวทิ้งท้าย