In Global

บทวิเคราะห์ จีนและสหรัฐฯควรเติมความ แน่นอนและพลังบวกให้กับโลกมากขึ้น



“ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม จีนและสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องทำงานร่วมกันหากต้องการให้ศตวรรษที่ 21 มีความมั่นคง แต่ถ้าหากทั้งการแข่งขันและความร่วมมือต้องหลีกทางให้กับการเผชิญหน้าโดยสิ้นเชิง ศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายก็กำลังรอทั้งสองฝ่ายอยู่”

ข้อความดังกล่าวเขียนโดยนายโทมัส แอล. ฟรีดแมน (Thomas L. Friedman) คอลัมนิสต์ชาวอเมริกัน โดยเขียนขึ้นหลังจากการเดินทางเยือนประเทศจีนเมื่อไม่นานนี้ เขาเชื่อว่า สหรัฐอเมริกาและจีนเป็นสองมหาอำนาจเท่านั้นที่สามารถร่วมมือกันให้ความหวังกับชาวโลกได้ เนื่องจากโลกในปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหาปัญญาประดิษฐ์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ควบคุมได้ยาก

คำพูดดังกล่าวของนายฟรีดแมนแสดงให้เห็นถึงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลของชาวอเมริกันที่มีความรอบรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติที่มีความรับผิดชอบของประเทศขนาดใหญ่ เช่น จีนและสหรัฐอเมริกา  

ปัจจุบัน มนุษยชาติกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การแข่งขันระหว่างประเทศใหญ่จึงไม่ควรเป็นเหตุผลพื้นฐานของยุคสมัยนี้ มีเพียงสามัคคีและร่วมมือกันเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้มนุษยชาติเอาชนะความยากลำบากในปัจจุบันได้

ทั้งจีนและสหรัฐฯ จะต้องตระหนักว่า ภายใต้สถานการณ์โลกปัจจุบัน ผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศกำลังขยายตัวแทนที่จะลดลง ความร่วมมือระหว่างสองประเทศมีความสำคัญไม่เพียงเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า การเกษตร การปราบปรามยาเสพติด การบังคับใช้กฎหมาย และสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรับมือกับความท้าทายระดับโลกด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญญาประดิษฐ์ ตลอดจนการแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นร้อนระดับนานาชาติอีกด้วย

เนื่องจากจีนและสหรัฐฯ เป็นสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ดังนั้น จีนและสหรัฐฯ จึงควรคำนึงถึงอนาคตของมนุษยชาติและความรับผิดชอบของตนต่อสันติภาพของโลกอยู่เสมอ รวมทั้งจัดหาผลประโยชน์สาธารณะให้กับทั่วโลก และมีบทบาทเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาที่มีความท้าทายระดับโลก

ในโลกปัจจุบัน ประชาคมมนุษยชาติเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดและมีอนาคตร่วมกัน ประเทศต่างๆ ไม่ได้แยกกันล่องรัฐนาวาลำเล็ก190 กว่าลำ แต่ทั้งหมดอยู่บนเรือลำใหญ่ลำเดียวกันที่มีอนาคตร่วมกัน ดังนั้น ประเทศต่างๆจึงควรเห็นการพัฒนาของกันและกันเป็นโอกาสมากกว่าความท้าทาย และปฏิบัติต่อกันในฐานะหุ้นส่วนมากกว่าคู่แข่ง ความสามัคคี ความร่วมมือ การอำนวยประโยชน์แก่กันกัน และการได้ประโยชน์ร่วมกันทั่วโลกควรเป็นหัวข้อสำคัญในยุคนี้ นี่คือวิธีที่จีนมองโลกและความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา

จีนเชื่อว่า ประชาคมมนุษยชาติเป็นประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน จึงได้ดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้วยความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ประชาชน และโลกมาโดยตลอด และยึดหลักเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย จีนยึดมั่นเสมอมาว่า ทั้งสองประเทศควรเป็นหุ้นส่วน ไม่ใช่คู่แข่ง กับดักทูซิดิดีส (Thucydides) ในประวัติศาสตร์ไม่ใช่สิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ควรเกิดสงครามเย็นครั้งใหม่ และไม่มีใครสามารถชนะในสงครามเย็นครั้งใหม่ได้ 

จีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ให้มั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน ตลอดจนค้นหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติที่มีความรับผิดชอบของจีนที่ให้ความสำคัญกับอนาคตของมนุษยชาติเป็นอันดับแรก

การแข่งขันระหว่างประเทศใหญ่ไม่สอดคล้องกับกระแสของยุคสมัย และยิ่งไปกว่านั้น การแข่งขันดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาของสหรัฐอเมริกาเองหรือความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญอยู่ได้ จีนและสหรัฐอเมริกาควรแบกรับความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะประเทศใหญ่และเป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาระดับโลก

ในอดีต จีนและสหรัฐฯ เคยร่วมกับประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 อื่นๆ ช่วยกันดึงเศรษฐกิจโลกออกจากวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ และร่วมกันผลักดันให้บรรลุข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนำมาซึ่งความหวังใหม่ในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน

ปัจจุบัน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงชะลอตัว และความท้าทายระดับโลกยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นมากยิ่งขึ้นที่จีนและสหรัฐฯ จะต้องเป็นผู้นำในการแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศใหญ่ หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และการบีบบังคับให้ประเทศอื่นๆ เลือกข้าง

สรุปได้ว่า จีนและสหรัฐฯ ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจเท่าเทียมและเป็นระเบียบ และโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์และครอบคลุมทั่วโลก ขอให้แสงแห่งสันติภาพแผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก และให้มั่นใจว่าผลประโยชน์จากการพัฒนาต่างๆ จะถูกแบ่งปันแก่ประชาชนทั่วโลกอย่างยุติธรรมมากขึ้น