Authority & Harm

เผยคนสุราษฏร์ฯไร้ที่ดินทำกินกว่า500คน เดินทางมายืนหนังสือขอที่ดินสวนปาล์ม



สุราษฏร์ธานี-ชาวบ้านไร้ที่ดินทำกินกว่า 500 คน ในสุราษฎร์ธานีเดินทางมายืนหนังสือพร้อมติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่ดินสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชนที่สิ้นสุดการขออนุญาตและแปลงบุกรุกที่ไม่มีการขออนุญาต ต่อคณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร มาจัดสรรให้ชาวบ้านตามโครงการจัดที่ดินทำกินโดยชุมชน

วันนี้ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี(หลังเก่า)  ชาวบ้านที่ไร้ที่ดินทำกินกว่า 500 คนได้เดินทางมายี่นหนังสือพร้อมติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่ดินสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชนที่สิ้นสุดการขออนุญาตและแปลงบุกรุกที่ไม่มีการขออนุญาต ต่อ นายพูนศักดิ์  จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และ ดร ปรเมศ   จินา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาจัดสรรให้ชาวบ้านตามโครงการจัดที่ดินทำกินโดยชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งทางคณะกรรมาธิการได้รับหนังสือข้อเรียกร้องจากชาวบ้าน และแก่นนำกลุ่มไร้ที่ดินทำกินในสุราษฎร์ธานีเพื่อนำไปพิจารณาและนำมาจัดสรรให้กับราษฎรต่อไป

ดร.มาโนช  เพ็ชรชู ประธานสมาพันธ์คนไร้ที่ดินทำกินสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ก่อนที่จะมาคลื่นไหวในวันนี้ทางตัวแทนคนไร้ที่ดินทำกินในสุราษฎร์ธานีได้มีการร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายหน่วยงาน เกือบปีแล้วที่ได้มีการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ เพราะว่าที่ดินของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีที่ว่างเปล่าอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป้นของธนารักษ์ ป่าไม้ ที่ยังไม่จัดสรรให้กับชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกิน  บางแปลงก็มีคำสั่งศาลปกครองแล้วว่าจะต้องนำมาจัดสรรให้กับชาวบ้าน แต่เวลาล่วงเลยมาหลายปีแต่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงได้มีการก่อตั้งสมาพันธ์ที่ดินสุราษฎร์ธานีขึ้นมา เพื่อที่จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ร่มกับองค์กรภาคประชาชนและเครื่อข่ายอื่นๆทั้งหมดที่ไร้ที่ดินทำกิน

ซึ่งทางเราได้เชิญคณะกรรมาธิการฯมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพ่อยืนหนังสือให้ดำเนินการกระชับเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด หลายสิบปีที่ชาวบ้านได้ต่อสู้เรื่องที่ดินทำกินมา ได้รับหารจัดสรรที่ดินจำนวนน้อยมากเพียง 5 เปอร์เซ็นต์จากที่ดินหลายหมื่นไร่ในสุราษฎร์ธานี เพื่อมายืนหนังสือและในวันที่ 12 มีนาคม 68 เพื่อให้คณะกรรมาธิการนำไปพิจารณาข้อเรียกร้องต่างๆ ซึ่งที่ดินที่มีปัญหาในขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 11 แปลง หลายหมื่นไร่ได้มีการฉ้อฉลทางกฎหมาย  มีการใช้กฎหมายเก็บของป่า เมื่อหมดสัญญาเช่าแล้วยังให้นายทุน สามารถเก็บของป่าได้ บางแปลงทำสัญญาเช่าไม่กี่พันไร่แต่งอกไปเป็นหมื่นไร่ บางแปลงให้เช่า 2 หมื่นไร่ แต่หายไปเจ็ดพันไร่  ที่ดินบางแปลงเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการขายให้กับนายทุน นี้คือระบบราชการของรัฐที่ไม่ได้ช่วยประชาชนอย่างจริงใจ

สิทธิเณศ เห้งทับ สุราษฎร์ธานี