In News

นายกฯถก3บิ๊กธุรกิจก่อนร่วมประชุมWEF 'Nestle' Coca-ColaและDP World'



เมืองดาวอส สหพันธรัฐสวิส-นายกรัฐมนตรีหารือประธานผู้บริหาร DP World พร้อมร่วมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อาเซียน ต่อมานายกฯ ได้หารือเนสท์เล่ (Nestlé) มุ่งมั่นขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทยและหารือประธานบริษัท Coca-Cola เชื่อมั่นศักยภาพเศรษฐกิจไทย พร้อมเดินหน้าร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว

วันนี้ (21 มกราคม 2568) เวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส) ณ DP World House เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับ สุลต่าน อะห์เหม็ด บิน สุลาเย็ม (H.E. Sultan Ahmed bin Sulayem) ประธานกลุ่มบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท DP World (UAE) โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับประธานกลุ่มบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท DP World (UAE) ระหว่างการประชุม WEF ซึ่งเป็นการหารือต่อเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่ผ่านมา และยินดีบริษัท DP World เล็งเห็นศักยภาพของประเทศไทย และมีความพร้อมในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เพราะตั้งอยู่ในจุดที่ได้เปรียบพร้อมใช้ประโยชน์จากที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ รัฐบาลยังดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการ Landbridge, โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นต้น เพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค 

ประธานกลุ่มบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DP World  ยินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี  ซึ่งบริษัทฯ สนับสนุนไทยในการพัฒนาสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) ลาดกระบัง ให้เป็น ศูนย์โลจิสติกส์ระดับภูมิภาคแบบหลายรูปแบบ (Multi-modal) สำหรับการค้าข้ามพรมแดนระหว่างจีน อินโดจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ผ่านการเชื่อมโยงเครือข่ายทางรถไฟ รวมทั้งโครงการท่าเทียบเรือชุด B ณ ท่าเรือแหลมฉบัง  ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถรองรับเรือและตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ รองรับการขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งระดับประเทศและระดับโลก นอกจากนี้ DP World พร้อมจะเดินหน้าศึกษาการลงทุนโครงการ Land Bridge เพื่อสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคอาเซียนและเชื่อมโยงไปมหาสมุทรอินเดียและกลุ่มประเทศ BIMSTEC

นายกฯ หารือเนสท์เล่ (Nestlé) มุ่งมั่นขยายการลงทุนในไทย

เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส) ณ ศูนย์ประชุม Congress Center เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายเรมี เอเจล (Mr. Remy Ejel) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา (Chief Executive Officer Zone Asia, Oceania and Africa) บริษัทเนสท์เล่ (Nestlé) ในห้วงการประชุม World Economic Forum Annual Meeting 2025 (WEF AM25) สรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ 

นายกรัฐมนตรี ชี่นชม Nestle และขอให้ช่วยเกษตรกรไทย เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจในการส่งเสริมและพัฒนาเกษตร โดยเฉพาะเกษตรสมัยใหม่ และ smart farmer  เพราะเป้าหมายของรัฐบาลคือการส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน  นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญease of doing business  เพื่อให้ ภาคเอกชน ขยายการลงทุนในไทยได้อำนวยสะดวกยิ่งขึ้น ไทยยังเร่งขยายการเป็นพันธมิตรทางการค้าทั่วโลก โดยจะมีการลงนามความตกลง FTA ไทย - EFTA  ซึ่งจะเป็นโอกาศสำหรับภาคเอกชนไทยและต่างประเทศที่ลงทุนในไทยด้วย 

นายกรัฐมนตรี และ นายเรมี เอเจล ยังได้พูดคุยหารือ ถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย โดยเนสท์เล่ได้แสดงความมุ่งมั่นว่าจะลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกาแฟไทย โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 – 2567 เนสท์เล่ได้มีการลงทุนในประเทศไทยเพื่อขยายสายการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ เครื่องดื่ม UHT และอาหารสัตว์ รวมสูงถึงกว่า 22,800 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2568 และในอนาคต บริษัทจะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในโรงงานผลิตเนสกาแฟ และสนับสนุนเกษตรกรไทยในการขยายพื้นที่เพาะปลูกกาแฟซึ่งเป็นพืชเกษตรที่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีราคาดี รวมทั้งจะสนับสนุนการให้ความรู้ด้านการเพาะปลูกกาแฟแก่เกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง และรับซื้อเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรไทยในราคาที่เป็นธรรม เหมือนเช่นที่เคยสนับสนุนเกษตรกรไทยมาตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา

อนึ่ง เนสท์เล่ เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีโรงงานผลิตในประเทศไทยถึง 9 แห่ง เพื่อผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่คนไทยนิยมมาเป็นเวลานาน เช่น เนสกาแฟ ไมโล นมตราหมี 

นายกฯ หารือประธานบริษัท Coca-Cola เชื่อมั่นศักยภาพเศรษฐกิจไทย

เวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาวอส) ณ ห้อง Schatzalp ชั้น 1 โรงแรม Grischa DAS Hotel เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบหารือกับนายเจมส์ ควินซีย์ (Mr. James Quincey) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Coca-Cola ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มครบวงจรสัญชาติอเมริกัน โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีชื่นชมบริษัท Coca-Cola ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีส่วนสนับสนุนการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย พร้อมชื่นชมการมีส่วนร่วมของบริษัทฯ ในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ และการบริหารจัดการน้ำ เพื่อการใช้ประโยชน์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน 

ประธานบริษัท Coca-Cola ยินดีที่ได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ซึ่งเป็นโอกาสในการพูดคุยและสานต่อความร่วมมือระหว่างกัน โดยยืนยันความเชื่อมั่นของบริษัทฯ ในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และพร้อมเป็นพันธมิตรของไทย โดยเฉพาะการเพิ่มพูนทักษะ และคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทาน และการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว  นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความตั้งใจของตนเองที่มีความตั้งใจสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อโอกาสการศึกษาและอนาคตของเยาวชนไทย เสริมสร้างทักษะ ซึ่งจะเป็นแรงงานคุณภาพในอนาคต รวมทั้งการอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ  

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเพื่อติดตามความคืบหน้าความร่วมมือที่สำคัญระหว่างกัน โดยเฉพาะการบังคับใช้พระราชบัญญัติการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (Sustainable Packaging Management Act) ของไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีชื่นชมบริษัท Coca-Cola ที่มีส่วนสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ. ดังกล่าว ตลอดจนเห็นว่าทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงด้านน้ำ (water security) และการส่งเสริม Soft Power ซึ่งบริษัท Coca-Cola มีความเชี่ยวชาญและพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีกับไทยด้วย