Authority & Harm
พบแล้วหนูน้อย2ขวบพี่สะไภ้อ้างจมน้ำดับ
ราชบุรี - คืบหน้า พี่สะใภ้ฝังหนูน้อยวัย 2 ขวบ อ้างจมน้ำดับ ก่อนอุ้มคนโตหนี
จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก "Pranom Khemngen" ได้โพสต์ภาพและข้อความประกาศตามหาลูกสาววัย 4 ขวบ และ 2 ขวบ โดยถูกพี่สะใภ้ที่จ้างเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก อุ้มขึ้นรถจยย.หายไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้นานรวม 6 วัน หลังโลกโซเชียลที่ทราบข่าว ต่างได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันแชร์ภาพ และข้อความประกาศตามหาเด็กทั้ง 2 คนอย่างถล่มทลาย เนื่องจากสงสารอกหัวของคนเป็นพ่อและแม่
ต่อมาเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อพบ นางสุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่ของเด็ก โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนั้น นางสุรินทร์ กล่าวว่ามีผู้ใหญ่บ้านในเขต ต.บึงสามพัน อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จับกุมตัว นางรุ้งลวัลย์ พุ่มบัว อายุ 42 ปี หรือ นางเจี๊ยบ พร้อมกับเด็กอีก 2 คน ส่วนเด็กอายุ 2 ขวบไม่พบ ต่อมาทางผู้ใหญ่บ้านได้ทำการสอบเค้น เพราะตัวผู้ใหญ่บ้านเองได้ดูข่าวว่ามีการลักพาเด็กหนีออกมาจากบ้านที่จ.ราชบุรี เมื่อตนเห็นจำได้จึงเข้าไปสอบถามจนรู้ว่าเป็นรายเดียวกัน
จึงทำการสอบจนทราบว่าเด็ก อายุ 2 ขวบเสียชีวิตแล้วโดยจมน้ำตาย ที่อ.โพธาราม แล้วกลัวความผิดจึงนำศพไปฝังไว้ที่ป่าอ้อย ม.2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้งที่ทางผู้ใหญ่บ้านต.บึงสามพัน ได้ข้อมูลได้นำตัวส่ง สภ.บึงสามพัน เพื่อดำเนินคดี พร้อมได้แจ้ง นางสุรินทร์ แม่ของเด็กให้ทราบเบิ้องต้น เพื่อออกค้นหาศพ
ซึ่งภายหลังทราบข้อมูล จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ตลอดจนชาวบ้านออกช่วยกันตามหาศพเด็ก แต่การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากพื้นที่กว้าง ต่อมา พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้การตำรวจภูธร จ.ราชบุรี และรักษาการณ์ ผู้กำกับสภ.โพธาราม เดินทางมาตรวจสอบพร้อมชุดสืบโพธาราม และร่วมออกค้นหา ศพเด็ก และได้โทรไปประสานไปยัง สภ.บึงสามพัน เพื่อจะพูดคุยกับผู้ต้องหา หาจุดที่นำศพไปฝังจึงรู้จุด และแบ่งกำลังออกค้นหาศพ แต่ก็ยังไม่พบ
จนเวลา 12.30 น.ได้รับแจ้งจากนายวรยศ มณีแจ่ม อายุ 15 ปี ชาวบ้านที่ออกค้นหาอีกชุด พบมีกองดินลักษณะพึ่งฝังกลบใหม่ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมทั้งเอามีดมาขุดปาดหน้าดิน จนพบถุงปุยสีขาวตามที่ผู้ต้องหาแจ้งไว้ว่าศพเด็กเอาใส่ถุงปุ๋ยไว้ และมีกลิ่นศพโชยขึ้นมาจึงมั่นใจว่าจะต้องเป็นศพเด็กแน่นอน จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ให้ทราบ และร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และหน่วงกู้ภัยสว่างราชบุรี
เมื่อจนท.ทำการขุดขึ้นมาพบเป็นถุงปุ๋ยสีขาว เปิดออกพบถุงสีดำเมื่อนำถุงสีดำออก พบผ้าขนหนูลายลูกไม้ ถูกมัดด้วยเชือกเมื่อแกะออกพบเป็นศพของ ด.ญ.ทารารัตน ลือบางใหญ่ อายุ 2 ขวบ หรือ น้องนาเดียร์ สภาพศพเริ่มขึ้นอึด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทางผู้ต้องหาให้การว่า วันเกิดเหตุประมาณวันที่ 15 มิ.ย.ช่วงเย็น เด็กหญิงนาเดียร์ ได้จมน้ำในรองน้ำที่บ้าน ขณะผู้ต้องหาออกไปซื้อฟางให้วัวกิน จนผู้ต้องหากลับมาถึงบ้านได้พยายามทำให้เด็กฟื้น และนำมานอนในบ้าน จนเช้าวันที่ 16 มิ.ย.เด็กได้เสียชีวิต จึงได้นำศพเด็กขึ้นรถซาเล้งนำไปฝังในไร่อ้อย เนื่องจากกลัวความผิด จากนั้นได้พาลูกสาววัย 12 ปี ของตัวเอง และ ด.ญ.ชโรชา แอบเสมา หรือ น้องโมเดล วัย 4 ขวบ ลูกสาวของ นางสุรินทร์ หลบหนีไปจนมาถูกจับกุมดังกล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้เจอรถซาเล้ง ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน ขรน 772 ราชบุรี ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน ได้ตรวจยึดมาตรวจสอบ นำจอดไว้ที่สภ.โพธาราม ซึ่งรถคันดังกล่าว เป็นรถของ นางเจี๊ยบ ที่มักจะขี่ไปเกี่ยวหญ้าให้วัวกินเป็นประจำ โดยรถซาเล้งคันนี้ ตำรวจคาดว่า อาจจะเป็นรถคันที่ นางเจี๊ยบ นำศพของน้องนาเดีย ที่เสียชีวิต นำไปฝังบริเวณไร่อ้อย
ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปพบ นายตี๋ ร่างทรงพ่อปู่ฤาษีตาไฟ ตามที่ นางสุรินทร์ แม่ของ น้องนาเดียร์ อ้างถึงว่า นางเจี๊ยบ ได้โทรไปหา นายตี๋ เมื่อช่วง 1 ทุ่ม ของวันที่ 15 มิ.ย. เพื่อขอคำปรึกษา ซึ่งทางตำรวจได้นำตัวนายตี๋ ไปสอบปากคำว่า จะเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมกับการตายของ น้องนาเดีย ด้วยหรือไม่ โดย นายตี๋ ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุนั้น นางเจี๊ยบ ได้โทรศัพท์มาหาตัวเองจริงๆ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 19.12 น. เพื่อขอคำปรึกษาจากตัวเอง โดยบอกว่า น้องนาเดีย จมน้ำหมดสติ ตอนนี้ได้พา น้องนาเดีย มารักษาที่รพ.โพธาราม หมอกำลังปั๊มหัวใจให้อยู่ ขอให้พ่อปู่ฤาษีช่วยสวดมนต์ให้ช่วย น้องนาเดีย รอดตายหน่อย
นายตี๋ จึงได้รับปากว่า เดี๋ยวจะขึ้นครูและสวดมนต์ช่วยให้ และถามกลับ นางเจี๊ยบ ว่า “แล้วบอกแม่ของน้องนาเดียยัง” แต่นางเจี๊ยบ บอกว่า “ยังไม่กล้าบอก” ซึ่งตัวเองก็รู้สึกเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ก่อนจะวางสายไป จนวันที่ 16 มิ.ย. เวลา ตี 5.54 นาที ตนจึงได้โทรศัพท์ไปหา นางเจี๊ยบ อีกรอบ เพื่อสอบถามอาการของเด็ก แต่ นางเจี๊ยบ ได้ตอบว่า “ตอนนี้น้องฟื้นแล้ว ขอบคุณพ่อปู่มากๆ เดี๋ยวจะเอาผลไม้ไปถวาย” จากนั้นจึงติดต่อ นางเจี๊ยบ ไม่ได้อีกเลย ซึ่งนายตี๋ได้นำหลักฐานเป็นประวัติการโทรศัพท์ที่คุยกับ นางเจี๊ยบ ให้ทีมข่าวดู เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ น้องนาเดีย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า นางเจี๊ยบ นำเด็กไปฝัง
ต่อมาที่ สภ.โพธาราม พ.ต.ท.ธัชพล ว่องพานิช รอง ผกก.สภ.โพธาราม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดีว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นางเจี๊ยบ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฝังศพของ น้องนาเดีย จริง ส่วนเหตุผล เพราะตกใจที่ น้องนาเดีย จมน้ำตายในบ่อน้ำเลี้ยงวัว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร ซึ่งตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัว นางเจี๊ยบ จากจ.เพชรบูรณ์ กลับมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.โพธาราม จ.ราบบุรี เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา นางเจี๊ยบ ในข้อหา ทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นๆ เช่น ซ่อนเร้นอำพรางศพ หรือ มีผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นร่วมกันด้วยหรือไม่ ต้องขอสอบสวนก่อน
ขณะวันเดียวกัน เวลา 22.29 น. จนท.สภ.โพธาราม ที่เดินทางไปควบคุมตัว นางเจี๊ยบ และรับตัว ด.ญ.ชโรชา แอบเสมา หรือ น้องโมเดล วัย 4 ขวบ จากจ.เพชรบูรณ์ ได้เดินทางมาถึงที่ สภ.โพธาราม พร้อมนำตัง นางเจี๊ยบ เข้าห้องขังทันที เพื่อรอสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทางจนท.สภ.โพธาราม ได้ให้ข้อมูลว่า จะนำตัว นางเจี๊ยบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเช้าพรุ่งนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง น้องโมเดล ได้เดินทางมาถึงด้วยรถตู้ของ สภ.โพธาราม เมื่อ น้องโมเดล ได้ถูกจนท.อุ้มรถจากรถ นางสุรินทร์ พร้อมญาติได้รีบวิ่งเข้าโผกอด น้องโมเดล ทันที สร้างความสะเทือนหัวใจให้กับคนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเมื่อ น้องโมเดล ได้ถาม นางสุรินท์ ผู้เป็นแม่ว่า “น้องไปไหนล่ะ” เมื่อผู้เป็นแม่ได้ตอบลูกไปว่า “น้องเสียแล้วลูก” น้องโมเดล ถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ พร้อมกับบอกว่า “รักน้องมาก”
ต่อมา นางสุรินทร์ ได้เปิดใจกับทางผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนพร้อมกับญาติ ได้จัดงานศพให้ น้องนาเดียร์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำตัว น้องโมเดล ไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ส่วนเรื่องคดีจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ซึ่งตนกับญาติได้ประสานกับทาง สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ในการของรับศพ น้องนาเดียร์ มาบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่วัดในบ้านเกิดต่อไป.
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี