In Bangkok

กทม.ขอรัฐฯ3ข้อหนุนอำนาจการตรวจจับ รถควันดำหนทางสู่การพิชิตPM2.5



กรุงเทพฯ-(28 ม.ค. 68) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่กวดขันตรวจวัดมลพิษควันดำจากปลายท่อไอเสียรถเมล์โดยสารสาธารณะ ว่า วันนี้กรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากกรมควบคุมมลพิษ กรมขนส่งทางบก และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ มาสุ่มตรวจรถเมล์ที่อู่บางเขน ซึ่งเป้าหมายจำนวนรถเราตรวจอย่างต่อเนื่อง เป็นงานประจำ ไม่ได้ทำแค่เฉพาะหน้าฝุ่น ไม่ใช่แค่เป็นการตรวจอยู่ริมถนนแต่เป็นการเข้าไปตรวจที่แหล่งกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นอู่รถเมล์ หรือตามไซต์ก่อสร้าง สถานประกอบการ ที่ผ่านมาตั้งแต่ปลายปี 65 ตรวจมาแล้วกว่า 260,000 คัน ไซต์ก่อสร้างตรวจจับรถไปกว่า 5,000 คัน

วันนี้ กทม. อยากจะขอการสนับสนุนจากภาครัฐบาล 3 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่กทม. ยังขาดอำนาจอยู่ เรื่องแรก อยากให้กทม. สามารถตรวจรถเกิน 6 ล้อขึ้นไปตาม พ.ร.บ.ขนส่ง เนื่องจากปัจจุบันเราเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ในกรณีที่ตรวจรถเมล์ จะเป็นการขอความร่วมมือ ไม่สามารถจับได้ ไม่สามารถฉีดพ่น ห้ามใช้รถได้ทันที เพราะเป็นอำนาจตามพ.ร.บ.ขนส่ง ที่กรมขนส่งทางบกเป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งกทม. อยากมีอำนาจตรงนี้ เนื่องจากเรามีแผนที่จะตรวจพวกรถเมล์ หรือรถ 6 ล้อขึ้นไปให้มากขึ้น จึงอยากจะมีส่วนตรงนี้ อยากเป็นเจ้าพนักงานที่จะมาช่วยตรวจตาม พ.ร.บ.ขนส่ง

เรื่องที่ 2 อยากลดความทึบแสงการตรวจควันดำจากเกณฑ์เดิม 30% ลดลงมาเหลือ 10% หรือขอให้ท้องถิ่นกำหนดเอง ปัจจุบันเกณฑ์ที่ใช้การวัดค่อนข้างสูง ทำให้บางครั้งเมื่อตรวจจะเห็นว่ามีควันเยอะ แต่ยังผ่านเกณฑ์เพราะเกณฑ์ค่อนข้างสูง จึงอยากปรับลดเกณฑ์ลงมาที่ 10% ซึ่งข้อนี้อยู่ในประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้วสามารถปรับได้

เรื่องที่ 3 เมื่อตรวจจับรถยนต์ 4 ล้อ การให้เวลาผู้กระทำผิดแก้ไขปรับปรุงรถ จาก 30 วัน ขอให้ลดมาเหลือแค่ 5 วัน เพื่อจะได้เร่งรัดให้เจ้าของรถรีบดำเนินการแก้ไข ไม่ต้องวิ่งอยู่ในเมืองสร้างมลพิษเพิ่ม

กิจกรรมวันนี้ ผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมมลพิษ ผู้ตรวจการกรมขนส่งทางบก ผู้แทนองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ ณ กลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ 1 เขตการเดินรถที่ 1 ขสมก. อู่บางเขน เขตบางเขน