In Thailand
ทายาทตระกูลดังขอปักธงเขต3สนามชัย ทิ้งโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันกาคะแนน
ฉะเชิงเทรา-ทายาทตระกูลดัง “ตันเจริญ” คนการเมืองหน้าใหม่ “ศุกติชา ตันเจริญ” ขอปักหมุดเขต 3 สนามชัยเขต ขึ้นรถแห่ตระเวนหาเสียงทิ้งทวนในโค้งสุดท้าย หวังย้ำความทรงจำชาวบ้านก่อนถึงวันกาคะแนนเลือกตั้ง ส.อบจ. และนายก อบจ.แปดริ้ว ถือเป็นสนามประกบคู่จากตัวแทน 2 ค่ายใหญ่ “กลุ่มรวมใจพัฒนา” ประชันกับ “กลุ่มพลังใหม่แปดริ้ว” ที่ส่งอดีตผู้ใหญ่บ้านเจ้าถิ่นในพื้นที่เข้ามาท้าชน
วันที่ 31 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งแบบทิ้งทวนช่วงโค้งสุดท้าย ในสนามสำคัญที่น่าสนใจ ในการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ว่า ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 อ.สนามชัยเขต ซึ่งเป็นพื้นที่แย่งชิงตำแหน่ง ส.อบจ. จากขั้วการเมือง 2 ค่ายใหญ่ที่มีผู้สมัครลงชิงในตำแหน่งนายก อบจ.ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย คือ กลุ่มรวมใจพัฒนา ที่มีนายกก้อย “นายกลยุทธ ฉายแสง” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.หมายเลข 1 จากการรวมพลังของคนบ้านใหญ่เกือบทั่วทั้งจังหวัดมาให้การสนับสนุน
ที่ได้ส่งนายศุกติชา ตันเจริญ (มดแดง) บุตรชายคนโตของ นายพิเชษฐ ตันเจริญ อดีต ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 พรรคเพื่อแผ่นดิน 2 สมัย และอดีต รมช.พาณิชย์ ลงมาขอปักหมุดยืดพื้นที่เป็น ส.อบจ. ในเขตเลือกตั้งนี้ โดยได้หมายเลข 1 ขณะที่ “กลุ่มพลังใหม่แปดริ้ว” ของนายธรรมชาติ พรมพิทักษ์ ผู้สมัครชิงนายก อบจ.หมายเลข 3 ได้ส่งนายพรเพ็ชร ประดับเพชร หรือ “ผู้ใหญ่เจี๊ยบ” ผู้สมัครหมายเลข 3 เช่นเดียวกัน อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา มาลงสมัครแข่งขันปักธงในฐานะเจ้าถิ่นขวางทางเอาไว้
โดยในช่วงโค้งสุดท้ายนายศุกติชา ได้ขึ้นรถกระบะติดตั้งเครื่องขบายเสียง ประกอบเป็นขบวนแห่ปราศรัยหาเสียงไปตามเส้นทางด้วยตนเอง วนเวียนในหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ หลังจากที่ได้เคยลงพื้นที่เดินเท้าขอคะแนนเสียงมาแล้วในช่วงก่อนหน้า ขณะที่นายพรเพ็ชร เน้นการเคลื่อนไหวหาเสียงสไตล์ลูกทุ่งทั้งนั่งซาเล้ง เดินเท้าขอคะแนนไปตามบ้านเรือนและท้องไร่นาในชุมชน และเข้าไปจนถึงแปลงเกษตรกรรมในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านแบบถึงตัว โดยที่คู่แข่งทั้ง 2 รายถือเป็นผู้สมัคร ส.อบจ. หรือเป็นคนการเมืองหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยแจ้งเกิดในสนามการเมืองระดับ ส.อบจ.มาก่อนด้วยกันทั้งคู่
ส่วนผู้สมัครอีกราย น.ส.ศันสนีย์ ผาวันดี หมายเลข 2 ไม่พบว่ามีการขึ้นป้ายหาคะแนนเสียงมาก่อนแต่อย่างใด สนามการเมืองนี้จึงเป็นการแย่งชิงตำแหน่ง ส.อบจ. และฐานคะแนนเสียงจากคนใน 2 ขั้วการเมืองอย่างแท้จริง
สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา