In News

นายกฯยันเยือนจีนถก'สีจิ้นผิง'หลายเรื่อง 'คอลฯพม่า-รถไฟฯสั่งบิ๊กอ้วนถกตัดไฟโจร



กรุงเทพฯ-​นายกฯ ย้ำ การหารือเรื่องอาชญากรรมออนไลน์ระหว่างไทย-จีน ช่วงเยือนจีน จะต้องมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน ส่วนกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เตรียมหารือ ลงนาม MOU ยกระดับความสัมพันธ์ไทย-จีน ในโอกาสครบรอบ 50 ปี นอกจากนี้นายกฯยังได้สั่งการ “ภูมิธรรม” เรียกประชุม สมช.ด่วน หารือมาตรการตัดไฟฟ้าชายแดนไทย-เมียนมา ย้ำไม่ปกป้องคนทำความผิด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 12.00 น. ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงประเด็นในการเดินทางเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ จะมีการพูดคุยถึงประเด็นความร่วมมือทางด้านอาชญากรรมออนไลน์ด้วยหรือไม่นั้นว่า  จะต้องมีการพูดคุยกันแน่นอน ซึ่งอาชญากรรมออนไลน์เป็นปัญหาของทั่วโลก ไม่ใช่แค่กับประเทศจีน ในส่วนนี้จะต้องมีการพูดคุย หาแนวทางโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ช่วยจัดการ และต้องอาศัยความร่วมมือซึ่งกันและกัน ปัญหาดังกล่าวทางประเทศจีนเล็งเห็นถึงปัญหาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในเรื่องของการขอความร่วมมือไม่น่าจะเป็นปัญหา และในช่วงบ่ายของวันนี้ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเข้าพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย

ส่วนเรื่องของการที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีนที่ได้เข้ามาพูดคุยอย่างไม่เป็นการนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการเดินทางมาแบบไม่เป็นทางการ รัฐบาลไม่ได้รับทราบหรือไปต้อนรับ เพราะการเดินทางมาครั้งนี้เป็นการเดินทางมาด้วยตัวเอง ทั้งนี้ กับประเทศจีนไม่ได้มีความเข้าใจผิด และไม่เป็นปัญหาแน่นอน และการเดินทางไปจีนครั้งนี้จะต้องมีความคืบหน้า เพราะปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เป็นปัญหาของประเทศจีนด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยเพียงประเทศเดียว เพราะฉะนั้นการที่จะไปพูดคุยถึงเรื่องนี้ต้องได้รับความคืบหน้าอย่างแน่นอน

กำหนดการเยือนจีนอย่างเป็นทางการคุยอะไรบ้าง

และนายกฯยังได้กล่าวถึงกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ณ กรุงปักกิ่ง และเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ณ นครฮาร์บิน ระหว่างวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์ 2568 ตามคำเชิญของนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน (Golden Jubilee for Thailand - China Friendship) ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเวลาระหว่างการเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการครั้งนี้ จะมีกิจกรรมการพบหารือกับภาคเอกชนของจีนและไทย เพื่อพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ การพูดคุยในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การพูดคุยและสนับสนุนในหลักการ (One country, two systems)  และการพูดคุยในประเด็นเชื่อมโยงอุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ไฟฟ้ารถยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการพูดคุยในเรื่องของการเร่งรัดการสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศจีน 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า จากการเดินทางเยือนประเทศจีนในครั้งนี้ จะมีการพูดคุยถึงประเด็นความร่วมมือในด้านการศึกษาวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อที่จะเป็นการยกระดับพัฒนาบุคลากรของประเทศไทยให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) หลายฉบับ โดยในส่วนนี้จะเป็นการยกระดับความร่วมมืออย่างรอบด้านในทุกมิติ

นายกฯ สั่ง“ภูมิธรรม”ถกสมช.ด่วนตัดไฟฟ้าชายแดนไทย-เมียนมา 

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการตัดไฟฟ้าชายแดนไทย-เมียนมาว่า ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ด่วน เพื่อพิจารณาถึงมาตรการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีความลังเล และได้พูดในที่ประชุม ครม.  หากพบความชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็สามารถตัดไฟได้เลย รวมถึงน้ำมันก็ไม่ต้องส่ง เพราะจะต้องโอบอุ้มคนของเราก่อน และต้องดูแลคนของเราก่อน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดผลกระทบต่อคนไทยมากมาย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ถ้าเรามีความเห็นใจ และเรียงลำดับที่ไม่ถูกต้อง จะเกิดปัญหาที่ยาวนานและต่อเนื่อง เพราะประเทศไทยเองก็หนักหน่วงกับเรื่องนี้ที่เกิดขึ้น ฉะนั้นต้องเป็นมาตรการที่เข้มข้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องเรียกคุยกัน และจัดการเลย สามารถดำเนินการได้ทันที 

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีจะดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังตรงนี้อย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน และไม่ปล่อยไปได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จริงจัง เป็นเรื่องระดับชาติ และทุกประเทศมีความกังวลมาก ถ้าจับได้แล้ว เราไม่ดำเนินการใด ๆ ก็จะเสียความน่าเชื่อถือ และยืนยันว่าไม่กังวลในเรื่องนี้