In Thailand

ปชช.ชัยนาทจ่อสอบอบต.ในหันคาฮั่วงาน



ชัยนาท-ปปช.ชัยนาท เตรียมตรวจสอบ อบต.ในพื้นที่อำเภอหันคา หลังจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงและการปรับปรุงผิวจราจรลูกรัง มูลค่ากว่า 8 ล้านกว่าบาท หวั่นฮั้วประมูลงาน 

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาย พ.แหล่งข่าวคนหนึ่ง พร้อม พวก ว่าที่ อบต.แห่งหนึ่ง ในอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ได้จัดงบประมาณ 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 8 ล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิง,การปรับปรุงผิวจราจรลูกรัง เกรงว่าการจัดงบประมาณดังกล่าวจะไม่โปร่งใส จึงได้นำเอกสารหลักฐาน ยื่นต่อ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยนาท จำนวน 2 เรื่อง คือการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิงแบบอเนกประสงค์ ตัวรถชนิด 10 ล้อ บรรทุกน้ำได้ 12,000 ลิตร โดยกำหนดราคากลาง 5 ล้านบาท และโครงการปรับปรุงผิวจราจรลูกรังและขุดลอกคลองระบายน้ำ จำนวน 7 โครงการ โครงการละ 4 แสนกว่าบาท งบประมาณ 3 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องขอแจ้งให้ทราบถึงข้อมูลหรือข้อเท็จจริง ตามมาตรา 134 แห่ง พ.ร.บ.ป.ป.ช.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 เนื่องจากอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเพื่อยับยั้งโครางการที่ดำเนินการไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล

 นายสำนาน มีศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.จังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า มีผู้มาร้องเรียน โครงการดังกล่าวจริง ทางสำนักงาน ปปช. จังหวัดชัยนาท ได้รับคำร้องไว้แล้ว และได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ไต่สวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบ ซึ่งขั้นตอนการไต่สวน ของคณะกรรมการปปช.มีตั้งแต่ชั้นตรวจรับคำกล่าวหา ว่าอยู่ในหน้าที่ของสำนักงาน ปปช.หรือไม่ หลังจากนั้นจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริง หากมีมูลจะต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวน และตรวจสอบ ส่วนผลของขั้นตอนก็จะต้องเป็นไปตามระเบียบของกฎหมายที่จะรู้ผล ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 180 วันหรือไม่เกิน 2 ปี หรือขยายเวลาไม่เกิน 3 ปี ในแต่ละเรื่องนั้น 

ทั้งนี้ ส่วนการร้องเรียนจำนวน 2 เรื่อง อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด ทั้งผู้ถูกกล่าวหาและผู้ร้อง ส่วนจะมีมูลหรือไม่นั้นยังไม่สามารถที่จะตอบได้ ต้องรอตรวจสอบให้ครบถ้วน หลังจากนั้นค่อยมาดูข้อเท็จจริง 

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงาน ปปช.จังหวัดชัยนาท มีภารกิจและอำนาจหน้าที่โดยตรงเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หากภาคประชาชน หรือสื่อมวลชน พบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีการกระทำความผิด มีการแสวงหาผลประโยชน์มิชอบ ก็สามารถที่จะมาร้องเรียน ที่สำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดนั้นๆ และสำนักงาน ปปช.ส่วนกลาง หรือจะร้องที่เว็บไซต์ ปปช.รวมไปถึงสายด่วน ทางคณะกรรมการ ปปช. ก็จะรับเรื่องร้องทุกข์ เพื่อดำเนินการต่อไป โดยในแต่ละปีพบเรื่องของการร้องเรียนการทุจริตใน อปท.ปีละจำนวน 100 เรื่องเป็นอย่างน้อย และพบว่ามีมูลความผิดอยู่ประมาณ 10-30 เรื่อง และมีการดำเนินคดีไปที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์บรรทุกน้ำดับเพลิง,การปรับปรุงผิวจราจรลูกรัง มูลค่ากว่า 8 ล้านกว่าบาท ทางปปช.ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนจึงต้องรีบตรวจสอบ