Biz news
STAประกาศความสำเร็จในการขายหุ้นกู้ กว่า3.6พันล.สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ลงทุน
กรุงเทพฯ-STA ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยปิดการขายด้วยมูลค่า 3,650 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มั่นใจในความมั่นคงและโอกาสเติบโตในฐานะผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรชั้นนำของโลก พร้อมประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA หนึ่งในผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุดให้กับประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 31 มกราคม และ 3 - 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี หุ้นกู้อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.85% ต่อปี และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน ปรากฏว่า หุ้นกู้ STA ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างดีเยี่ยม ทำให้สามารถปิดการขายได้ตามเป้าหมายรวมมูลค่า 3,650 ล้านบาท
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนที่ไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ STA รวมถึงขอบคุณสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่อำนวยความสะดวกทั้งด้านข้อมูลและช่องทางการจำหน่ายให้กับผู้ลงทุน ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” ขณะเดียวกัน ความสนใจของผู้ลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ STA ยังสะท้อนความมั่นใจในโอกาสเติบโตของบริษัทฯ ในฐานะผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติ ซึ่งภายหลังจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านฐานะและโครงสร้างทางการเงินของ STA โดยบริษัทฯ จะเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี กล่าว
ปัจจุบัน บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (Full Supply Chain) ในหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ ได้แก่ การทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำ ประกอบด้วย การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex) ไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง รวมถึงสินค้าสำเร็จรูป อาทิ ท่อไฮดรอลิกแรงดันสูง ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงงานรวม 43 แห่ง เป็นโรงงานยางธรรมชาติ 37 แห่ง และถุงมือยาง 6 แห่ง กระจายในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อยอีกหลายแห่งที่ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ด้านการขนส่ง เป็นต้น โดยบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืนและธรรมาภิบาล โดยได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) ที่ระดับ “AAA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และนับเป็นปีที่ 10 ที่ได้รับประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน รวมถึงได้รับรางวัล “ANTI-CORRUPTION AWARDS 2024” ส่งเสริมธรรมาภิบาล ประจำปี 2567 และยังได้เข้าเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทยมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย