Authority & Harm

สั่งวาง7มาตรการคุมเข้มต่างด้าว-คอลฯ ตั้ง5พันจุดตรวจสแกนรถ/ย้าย5ตร.สีเทา



กรุงเทพฯ-ผบ.ตร.เดินหน้าต่อเนื่อง 7 มาตรการคุมเข้มต่างด้าว คอลเซ็นเตอร์ ตั้งจุดตรวจกว่า 5,000 จุด สแกนรถกว่า 4 แสนคัน จับกุมต่างด้าว 524 ราย เปิดปฏิบัติทลายเครือข่ายรายใหญ่หลายราย สั่งย้าย 5 ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ย้ำมีแผนรองรับสถานการณ์เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลังถูกกดดัน เพื่อกวาดล้างให้หมดไป 

วันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2568) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำหนด 7 มาตรการคุมเข้มแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ทุกหน่วยดำเนินการอย่างจริงจังให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จับต้องได้ มีผลงานออกมาสู่สายตาพี่น้องประชาชน สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล พบว่าตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2568 มีผลการปฏิบัติที่สำคัญตาม 7 นโยบายของ ผบ.ตร. ในทุกด้าน ดังนี้

ด้านการป้องกัน : มีการตั้งจุดตรวจ 5,099 จุดสำคัญทั่วประเทศ , ตรวจสอบยานพาหนะ 478,282 คัน ทั้งในเส้นทางและรถข้ามชายแดน ตรวจสอบข้อมูลป้ายทะเบียนรถและใบหน้าบุคคล 21,832 ข้อมูล , ตรวจสอบที่พัก สถานีขนส่ง จุดผ่านแดน ช่องทางธรรมชาติ 8,651 ครั้ง

ด้านการปราบปราม : จับกุมต่างด้าวผิดกฎหมาย 524 ราย ปฏิเสธการเข้าเมือง 231 ราย เพิกถอนใบอนุญาต 12 ราย บันทึกข้อมูลเฝ้าระวัง 45,701 ราย , จับกุมยานพาหนะเสี่ยง 76 ราย , มีการจับกุมรายใหญ่สำคัญหลายคดี เช่น ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อม Simbox 2 เครื่อง ยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายรายการที่ จ.สงขลา และจับกุมดาวกองร้อย นายร้อยปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ , ตำรวจตระเวนชายแดนจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในพื้นที่ จ.ตาก , ตำรวจนครบาลจับผู้ต้องหาชาวจีน 2 ราย เครือข่ายใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมยึดเงินสดของกลางกว่า 15 ล้านบาท , ตำรวจภูธรภาค 2 จับแก๊งชาวจีนปล่อยเงินกู้ออนไลน์ข้ามชาติในพื้นที่ จ.ชลบุรี , ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับผู้ต้องหาคนจีนและคนไทยพาคนต่างด้าวไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น 

มาตรการปกครอง : เอาจริงเอาจังกับข้าราชการตำรวจที่มีข่าวพัวพันอาชญากรรมข้ามชาติ สิ่งผิดกฎหมาย หรือปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการตามมาตรการของ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งย้ายนายตำรวจระดับ ผบก.2 นาย และ ผกก.3 นาย ในพื้นที่ จ.ตาก มาช่วยราชการ พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

โฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พอใจผลการปฏิบัติในภาพรวม แต่ยังต้องคงเข้ม 7 มาตรการต่อไป สั่งการให้ตรวจสอบทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ที่สำคัญมาตรการทางปกครองที่ออกมาล่าสุด ทำให้สังคมและพี่น้องประชาชนเชื่อมั่นได้ว่า ผบ.ตร.เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ หากพบว่าตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเกียร์ว่าง พร้อมจะดำเนินการอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังสั่งการให้มีการวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์คนต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ หลังที่รัฐบาลมีมาตรการเด็ดขาดตัดไฟ สัญญาณอินเตอร์เน็ต น้ำมันเชื้อเพลิง โดยตำรวจพอจะทราบแนวทางรูปแบบของกลุ่มเหล่านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนแนวทางกระทำผิด หรือการย้ายฐานกระทำผิด ซึ่งได้เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความต่อเนื่อง กวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไป

พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบการกระทำความผิดหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับคนต่างด้าวผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมข้ามชาติ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หมายเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง