Authority & Harm

'ใจสลาย'ชาวบ้านร้องกก.วัดโพธิ์ชัยหลัง ใช้รถแบ็กโฮทุบเจดีย์ใส่อัฐิบรรพบุรุษ



สิงห์บุรี-“ใจสลาย” ชาวบ้านร้องเรียนกรรมการวัดโพธิ์ชัย หลังใช้รถแบ็กโฮทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิบรรพบุรุษโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก ครอบครัวของ น.ส.สมจินตนา งามเนตร์ อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 8 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยมี นางสมคิด งามเนตร์ ผู้เป็นแม่ และ นางสุพัฒน์ คำนวณ ลูกพี่ลูกน้องซึ่งอยู่บ้านติดกันว่า “บรรพบุรุษและครอบครัวของตนได้เกิดและอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งอยู่ติดกับวัดโพธิ์ชัย ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี มานาน เมื่อในครอบครัวมีผู้เสียชีวิต ก็จะนำอัฐิไปไว้ในเจดีย์ซึ่งอยู่ริมถนนภายในวัดโพธิ์ชัย โดยเจดีย์ดังกล่าวตาของตนซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างได้สร้างเอาไว้มาประมาณ 38 ปีที่ผ่านมา  และมีเจดีย์เก็บอัฐิของชาวบ้านที่อยู่แถววัดเรียงรายอยู่หลายเจดีย์ เมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ญาติมารวมกัน ครอบครัวของตนก็จะมาทำพิธีบังสุกุลอัฐิเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วมาทุกปี”

น.ส.สมจินตนา  กล่าวต่อว่า “จนเมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 เวลาประมาณ 17.00 น. ตนได้ขับรถผ่านบริเวณที่ตั้งเจดีย์ กลับพบว่าเจดีย์ถูกทำลายเหลือแต่ฐาน กระดูกของบรรพบุรุษสูญหายไปหมด ตนตกใจมาก รีบไปบอกทางบ้าน ทั้งแม่ ทั้งป้า และคนในครอบครัวรีบพากันมาดูที่เจดีย์ เมื่อไม่พบอัฐิของบรรพบุรุษ ก็ร้องไห้ระงม ถามทางวัดจนได้ความว่า มีผู้ที่เป็นกรรมการวัดได้สั่งให้รถแบ็กโฮทุบทำลายเจดีย์บรรจุอัฐิบรรพบุรุษชาวบ้านไป 7 หลัง โดยอ้างว่า จะเคลียร์พื้นที่ทำลายเจดีย์ที่ร้างแตกหัก ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเจดีย์ของครอบครัวตนไม่ได้ร้างหรือทรุดโทรม แล้วทำไมมาทำลาย และไม่มีการบอกล่วงหน้า กระดูกของบรรพบุรุษก็สูญหายไป เป็นเรื่องที่ครอบครัวของตนรับไม่ได้จริงๆ”

สอบถาม นางสมคิด ผู้เป็นแม่ เล่าทั้งน้ำตาว่า “เสียใจมาก ตอนที่ไปเห็นเจดีย์ถูกทำลายไปแล้วหากระดูกบรรพบุรุษไม่เจอ นั่งร้องไห้เลย ตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ถามผู้ที่เป็นกรรมการวัดฯ ว่าไปทิ้งที่ไหน พวกเขาก็ตอบไม่ได้ เขาบอกว่าจะทำเจดีย์ให้ใหม่ ตนก็บอกว่าทำให้ใหม่แล้วจะให้ไหว้ใคร ไหว้หิน ไหว้ทราย อย่างงั้นหรือ ถึงตอนนี้เอากระดูกมาให้ ตนก็ไม่มั่นใจแล้วว่าเป็นกระดูกของคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปหรือเปล่า” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้คนทำลายรับผิดชอบยังไง แม่ได้บอกว่า “อยากให้ดำเนินคดีด้วยซ้ำ สิ่งที่หายไปคือกระดูกของบรรพบุรุษ แล้วเอาไปทิ้งขว้างที่ไหนก็ไม่รู้ มันจะหาอะไรมาทดแทนสิ่งที่สูญหายไปไม่ได้เลย ทำไมทำไปโดยพลการไม่มาบอกกล่าวกันก่อน”

ผู้สื่อข่าวจึงเดินข้ามสะพานข้ามคลองเพื่อไปดูพื้นที่ที่มีเจดีย์เก็บอัฐิในวัดโพธิ์ชัย พบว่ามีเจดีย์เก็บอัฐิที่ยังไม่ถูกทำลายประมาณ 20 เจดีย์ ส่วนที่ถูกทำลายนั้น 7 เจดีย์ พบ นายสมพงษ์ แก้วกลม 1 ในคณะกรรรมการวัดขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในวัดพอดี จึงได้สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นายสมพงษ์ ได้เล่าว่า “เห็นต้นไม้คลุมรก และคิดว่าเป็นเจดีย์ร้าง เด็กนักเรียนก็วิ่งไปวิ่งมา และใกล้งานวัดแล้ว จึงได้ทำลายเจดีย์ร้างเก่าที่ไม่มีโกฐิ เพราะคิดว่าขโมยน่าจะขโมยไปหมดแล้ว โดยไม่ได้ประชุมหรือมีมติใดๆ เป็นการคุยกันเอง ตัดสินใจกันเอง เพื่อทำที่ไว้เผื่อว่าใครจะมาสร้างเจดีย์ใหม่สวยๆ งามๆ ก็จะได้มีที่ให้ทำ” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แล้วได้บอกกับทางครอบครัวของเจ้าของเจดีย์หรือเปล่า นายสมพงษ์ ตอบว่า “มันเก่าจัดไม่รู้ว่าเป็นของใคร มันทรุดโทรมหมดแล้ว และต้นไม้ก็คลุมเป็นป่าหมดแล้ว และเป็นเจดีย์ร้างไม่มีกระดูกของใครแล้ว สำหรับครอบครัวของ น.ส.สมจินตนา ที่ได้สูญเสียเจดีย์เก็บอัฐิไปทางคณะกรรมการวัดโพธิ์ชัยก็ต้องขอโทษอย่างสูง”

โดยทางครอบครัวของ น.ส.สมจินตนา ซึ่งยังรับการกระทำของคณะกรรมการของวัดในครั้งนี้ไม่ได้ จึงตั้งใจจะไปแจ้งความเพื่อต้องการให้ตำรวจเอาผิดตามกฎหมายในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ต่อไป

จินตนา  ปานมี  ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี