Think In Truth

ผ่า...! ดินแดนอโคจร 'เมืองชเวโก๊กโก่' เมืองบาป-คนเทา โดย : ฅนข่าว2499



ชเวโก๊กโก่(ShweKokko) หรือที่เรียกกันว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษ ย่าไถ่ ชเวโก๊กโก่ (YataiShweKokko) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท Yatai International Holding Group (IHG)ที่มีสำนักงานในฮ่องกงและได้รับความคุ้มครองจาก กองกำลังพิทักษ์ชายแดนของทหารกะเหรี่ยง (BGF)ซึ่งนำโดย นายพล ชิตตู่ (Chit Thu) ผู้สวามิภักดิ์กับกองทัพพม่าและที่สำคัญได้เปลี่ยนโฉมหน้าเป็น“เมืองอาชญากรรม”ขับเคลื่อนด้วยทุนจีนสีเทาที่มีทั้งเครือข่ายหลอกลวงเล่นพนันออนไลน์และขบวนการค้ามนุษย์

ทั้งนี้แม้ว่าจะเกิดการสู้รบในพื้นที่อื่นๆที่กำลังดำเนินอยู่ในพม่าอาจถูกขับเคลื่อนด้วยการเมืองและอุดมการณ์ หากแต่ที่ชเวโก๊กโก่ ทาง BGF ก็ใช้ทุกกลวิธีเพื่อปกป้องดินแดนนอกกฎหมายแห่งนี้ให้ปลอดจากภัยสงครามซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม scam city หรือเมืองสวรรค์กาสิโนผิดกฎหมาย และศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ

 

บรรยายภาพ :พ.อ.ซอชิดตู่ ผบ.กองพลที่ 3 BGFที่เป็นผู้ให้สัมปทานแก่นักธุรกิจจีนเทามาเปิดกิจการกาสิโนในเมียวดีโดยเฉพาะโครงการเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่

ตามรายงานข่าวระบุว่า ชเวโก๊กโก่มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 511,395,000,000.00 บาท) โดยมีพื้นที่ถึง 12,000 เอเคอร์ ยาวกว่า 16 กิโลเมตรใกล้แม่น้ำเมย ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ซึ่งคนไทยเรียกว่า บ้านวังผา ก่อนหน้านี้เคยเป็นจุดค้าขายชายแดนตลาดวัวขนาดใหญ่

บริษัท IHG โปรโมตจะทำให้เมืองชเวโก๊กโก่ เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี โดยจะลงทุนกาสิโน การพนันออนไลน์ รีสอร์ตสไตล์วิลล่า และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกความหรูหราอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ในความเป็นจริงสวนทางกับภาพโฆษณา เพราะกลุ่มทหาร BGF ให้ความคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล

เมื่อโครงการเริ่มต้น คนกะเหรี่ยงในพื้นที่ถูกเวนคืนที่ดินทำกินโดยไม่ได้รับค่าเยียวยา คนจีนหลายพันคนเข้ามาทำงานก่อสร้างและลงทุนโดยผิดกฎหมาย ทำให้รัฐบาลพรรค NLD ของออง ซาน ซูจี ต้องสั่งยุติในปี 2020 กระทั่งหลังรัฐประหารของ นายพล มิน อ่อง หล่าย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ก็ได้อนุญาตให้โครงการกลับมาดำเนินการต่อ 

เมืองบาป-คนเทา

ถ้าเอ่ยชือ“ฉือจื้อเจียง” เชื่อได้เลยว่าคนทั่วไปแทบไม่มีใครรู้เขาว่าเป็นใคร มาจากไหนและกลายมาเป็นเจ้าพ่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างไรรู้แต่เพียงว่าเขาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งเมือง “ชเวโก๊กโก” บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา จนถูกเรียกว่าเป็นอาณาจักรมิจฉาชีพขนาดย่อมที่ทำเงินได้มหาศาลและถูกทางการจีนกล่าวหาว่าเป็นผู้วางแผนก่ออาชญากรรม

ฉือจื้อเจียงถือได้ว่าเป็นนักธุรกิจจีนเทาที่เป็นสารตั้งต้นอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นผู้ประสารประ โยชน์ให้กับเครือข่ายธุรกิจไทยเทา-เขมรเทา-ลาวเทา-พม่าเทาและเขากล้าที่จะพูดว่า “เงินซื้อได้ทุกอย่าง”และในบริบทเดียวกันว่ากันว่าโครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์และกาสิโนในไทยก็อยู่ใต้เงาของเขาเหมือนกัน

https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhTsJ6K8FX2uqLvlosU9GqKjewpM.jpg

ภาพ : ฉือจื้อเจียง

ตามที่ได้สืบค้นประวัติพบว่าเขาคือชายชาวจีนที่ชื่อว่า ฉือจื้อเจียง (佘智江) เจ้าของบริษัท ย่าไท่ (Yatai International Holding Group) เกิดเมื่อปี 1982 ในหมู่บ้านยากจนในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เขาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 14 ปี และเรียนรู้การเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ จากนั้นดูเหมือนจะย้ายไปฟิลิปปินส์เมื่อตอนอายุ 20 ปีต้น ๆ และเข้าสู่แวดวงการพนันออนไลน์ ซึ่งถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน

นี่คือจุดเริ่มต้นที่เขาทำเงิน ในปี 2014 เขาถูกศาลจีนตัดสินว่ามีความผิดฐานเล่นลอตเตอรี่ผิดกฎหมาย แต่เขายังคงอาศัยอยู่ต่างประเทศ ทำให้ไม่ถูกจับ

เขาลงทุนในธุรกิจการพนันในกัมพูชาและได้รับสัญชาติกัมพูชา โดยสำนักข่าวต่างประเทศสืบทราบว่าว่ามีชื่อที่แตกต่างกันอย่างน้อย 4 ชื่อ

ในปี 2016 เขาบรรลุข้อตกลงกับ “ซอ ชิต ตู่” แม่ทัพชาวกะเหรี่ยง เพื่อสร้างเมืองใหม่ร่วมกัน โดย ฉือจื้อเจียง จะรับหน้าที่เป็นผู้จัดหาเงินทุน เครื่องจักรและวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ในขณะที่ ซอ ชิต ตู่ และนักรบติดอาวุธ 8,000 นายจะดูแลเมืองให้ปลอดภัย

วิดีโอสุดอลังการของบริษัทย่าไท่สัญญาว่า จะลงทุน 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 แสนล้านบาท) เพื่อสร้างดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยโรงแรม กาสิโน และไซเบอร์ปาร์ก

ชเวโก๊กโก่ ยังถูกอธิบายว่าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative; BRI) ของจีน

ต่อมาจีนประกาศแยกตัวจาก ฉือจื้อเจียง อย่างเป็นทางการในปี 2020 และรัฐบาลเมียนมาได้ดำเนินการสอบสวนย่าไท่ จากกรณีสร้างวิลล่า 59 หลัง ซึ่งมากกว่าที่ได้รับอนุญาตจากใบอนุญาตการลงทุน และเปิดกาสิโนก่อนที่จะได้รับการรับรองในเมียนมา

ในเดือนสิงหาคม 2022 ฉือจื้อเจียง ถูกจับกุมและจำคุกในกรุงเทพฯ ตามคำร้องของจีนต่อตำรวจสากล (อินเตอร์โพล)ตามรายงานข่าวระบุว่า ฉือจื้อเจียง เป็นผู้บริหารกลุ่มทุนผู้สร้างเมืองชเวโก๊กโก่ในเมียนมา ถูกสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรขึ้นบัญชีดำยาเสพติด ค้ามนุษย์และธุรกรรมผิดกฎหมาย เขาถูกจับที่ไทย ขณะนี้ศาลยังไม่มีคำพิพากษาว่าจะส่งตัวกลับไปจีนตามคำขอของรัฐบาลจีนหรือไม่

ที่ตั้งของเมืองใหม่ชเวโก๊กโก่ ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับแนวชายแดน อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จ.ตาก อยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.อ.ซอ ชิต ตู่ หัวหน้ากองกำลังกะเหรี่ยง BGF (บีจีเอฟ)

ตามรายงานของสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา (USIP) ระบุบนเนื้อที่ประมาณ 450,000 ไร่ ถูกเนรมิตขึ้นในปี 2560 ด้วยเม็ดเงินกว่า 525,000 ล้านบาท โดยกลุ่มทุนหย่าไท่ อินเตอร์เนชันแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป นำโดย ฉือจื้อเจียง ชาวจีนสัญชาติกัมพูชา ร่วมลงทุนกับบริษัทของ พ.อ.ซอ ชิต ตู่

ฉือจื้อเจียง เป็นชาวจีนโดยกำเนิด แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นผู้ถือสัญชาติกัมพูชา ซึ่งสามารถทำได้หากเขาบริจาคเงินจำนวนอย่างน้อย 8 ล้านบาทให้กับกองทุนของรัฐบาลกัมพูชา หรือร่วมลงทุนกับโครงการที่รัฐบาลกัมพูชาอนุมัติอย่างน้อย 10 ล้านบาทขึ้นไป

ตามรายงานระบุว่า กลุ่มทุนหย่าไท่ได้เคยให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรและกาสิโนถูกกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรของไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ผ่านการประชุมออนไลน์

ฉือจื้อเจียง ถูกตำรวจสากลออกหมายจับ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ข้อหาหลอกลวงประชาชนหลายประเทศผ่านการพนันออนไลน์ มูลค่าความเสียหายกว่า 5,000 ล้านบาท เขาถูกจับที่ประเทศไทย วันที่ 12 สิงหาคม 2565 ขณะกำลังรับประทานอาหารกับบุคคลในแวดวงชนชั้นสูงคนหนึ่งของไทย จากนั้นถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ศาลอาญามีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 66 ให้ส่งตัวนายฉือเป็นไปประเทศจีน เพื่อดำเนินคดีความผิดฐานเปิดบ่อนกาสิโนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามคำร้องของรัฐบาลจีน แต่นายฉือ อุทธรณ์คำสั่งนี้

ทั้งนี้ใน 1 ปีหลังจากถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีคลิปวิดีโอความยาว 1 นาที 48 วินาที ถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มติ๊กต๊อก วันที่ 21 กันยายน 2566 แม้กรมราชทัณฑ์จะไม่อนุญาตให้บันทึกคลิปวิดีโอ โดยเป็นคลิปจากการเยี่ยมญาติผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เนื้อหาส่วนหนึ่ง นายฉือ อ้างถึงการถูกจับกุมคุมขังและแสดงออกว่าไม่ต้องการถูกส่งตัวกลับจีน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้กรมราชทัณฑ์ตัดสิทธิการเยี่ยมญาติผ่านช่องทางระบบไลน์ของนายฉือ พร้อมตั้งคณะกรรมสอบข้อเท็จจริง

เมื่อเดือนกันยายน 2067 ที่ผ่านมาสำนักข่าวอัลจาซีรา เผยแพร่สารคดีที่มีบทสัมภาษณ์นายฉือ บางช่วงเขายังคงย้ำประเด็นเดิม เช่น ตั้งคำถามว่าทำไมถึงถูกจับ หรือเขาควรจะพูดว่าทำไมจึงมีความพยายามกำจัดเขา และบางประโยคก็อ้างว่าเขาได้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับความมั่นคงของจีน และโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับผู้คนระดับสูง เป็นต้นและเมื่อผ่านไปไม่ถึงเดือนทางบริษัทหย่าไท่ ส่งหนังสือถึงสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ร้องเรียนและขอความช่วยเหลือ โดยอ้างว่านายฉือ ถูกทำร้ายระหว่างยังถูกคุมขังในเรือนจำของไทย ขณะนี้นายฉือ ถูกย้ายมาคุมขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม และคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

ฉือจื้อเจียง และ ซอ ชิต ตู่ ถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลอังกฤษด้วยข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

ในการให้สัมภาษณ์กับ BBC ฉือจื้อเจียง อ้างว่า เขาเป็นเหยื่อของการผูกขาดทางการค้าของรัฐบาลจีน เขาบอกว่าเขาก่อตั้งบริษัทย่าไท่ตามคำสั่งของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน และยืนกรานว่าชเวโก๊กโกเป็นส่วนหนึ่งของ BRI

ฉือจื้อเจียง กล่าวหาว่า ผู้นำจีน สี จิ้นผิง หันหลังให้เขา เพราะเขาปฏิเสธที่จะให้ทางการจีนเข้ามาควบคุมโครงการของเขา และบอกว่าจีนต้องการอาณานิคมบนชายแดนไทย-เมียนมาและต่อมาจีนปฏิเสธความสัมพันธ์ทางธุรกิจใด ๆ กับเขาและแม้ว่าเขาจะปฏิเสธว่ามีส่วนในการทำให้ชเวโก๊กโก่เป็นเมืองแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เขาก็ยอมรับว่า “มีความเป็นไปได้สูงที่มิจฉาชีพจะมาที่ชเวโก๊กโก่” เพราะว่าเมืองของเราเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่เข้าออกได้อย่างอิสระ “การปฏิเสธลูกค้าสำหรับนักธุรกิจอย่างผมเป็นเรื่องยากมาก นี่คือจุดอ่อนของผม”

อย่างไรก็ตาม ดูจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อว่าย่าไท่ซึ่งบริหารทุกอย่างในชเวโก๊กโก่จะไม่สามารถหยุดยั้งมิจฉาชีพที่เข้าออกเมืองได้จากการให้สัมภาษณ์ BBC ของ ฉือจื้อเจียง ดูว่าเขาโกรธแค้นอย่างมากต่อชะตาชีวิตที่พลิกผันอย่างกะทันหันของเขา “ก่อนหน้านี้ ผมไม่เข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนเลย แต่ตอนนี้ ผมเข้าใจจริง ๆ แล้วว่า การที่สิทธิมนุษยชนถูกละเมิดนั้นเลวร้ายเพียงใด” และเขากล่าวต่อว่า “ยากที่จะจินตนาการว่า สิทธิมนุษยชนของประชาชนทั่วไปในจีนถูกเหยียบย่ำอย่างไร เมื่อนักธุรกิจที่น่าเคารพอย่างผม ซึ่งเคยไปร่วมงานเลี้ยงของรัฐร่วมกับ สี จิ้นผิง ไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีแต่อย่างใด”

ฉือจื้อเจียง ยังบอกอีกว่า เขาใฝ่ฝันที่จะสร้างเมืองเพื่อเป็นตั๋วให้เขาหลุดพ้นจากโลกอันมืดมิดของการหลอกลวงและการพนันที่เขาเคยอาศัยอยู่และดูเหมือนว่าเขาเชื่อจริง ๆ ว่าเขาสามารถสร้างบางสิ่งบางอย่างที่วันหนึ่งจะก้าวข้ามต้นกำเนิดอันน่ารังเกียจของชเวโก๊กโก่ในฐานะเมืองแห่งการหลอกลวงได้

กล่าวได้ว่าในปัจจุบัน คนในเมืองชเวโก๊กโก่ใช้เงินหยวน เพราะคนงาน นักลงทุน เจ้าของกิจการล้วนเป็นคนจีน ส่วนคนพม่าเป็นแค่คนทำงานระดับล่าง มีหน้าที่เฝ้าตึก ในช่วงการระบาดโควิด-19 มีการโฆษณาหลอกลวงให้คนต่างชาติและคนพม่ามาทำงานในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่เมื่อมาถึง กลับให้สร้างแอ็กเคานต์โซเชียลมีเดียปลอมเพื่อชวนคนมาเล่นพนัน ใครไม่ยอมทำตามก็จะโดนขัง ทำร้ายร่างกาย คนไทยจำนวนไม่น้อยถูกหลอกไปทำงานต้มตุ๋นและเว็บพนันผิดกฎหมาย รวมทั้งกรณีหลอกลวงเด็กให้ไปขายบริการทางเพศ โดยอ้างว่าเป็นการทำงาน หากใครไม่ยอมก็โดนทำร้ายหรือต้องจ่าย 50,000 บาทเป็นค่าไถ่ คาดคะเนว่ามีคนกว่า 30 เชื้อชาติ( ประมาณว่ามีกว่า 10.000 คน) เป็นเหยื่อค้ามนุษย์ข้ามชาติ ในรูปแบบ สแกมเมอร์ทั้งไทย จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย เวียดนาม และอีกหลายเชื้อชาติที่ถูกหลอกว่ามีงานให้ทำที่ไทย

สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) มีภารกิจต่อต้านยาเสพติดและอาชญากรรมระหว่างประเทศ ได้สะท้อนว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้มักยกเว้นการใช้กฎหมายเพื่อหวังดึงดูดใจนักลงทุนต่างชาติ กาสิโนจึงกลายเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์และการฟอกเงิน โดย UNODC เชื่อว่ามีเขตเศรษฐกิจพิเศษลักษณะนี้ถึง 128 แห่ง และกาสิโนอีก 140 แห่งที่เปิดบนเงื่อนไขพิเศษบริเวณชายแดนของประเทศไทย พม่าและลาว 

ภาพ: Naw Betty Han

กองทัพพม่าและกองกำลัง BGF เดินหน้าเปลี่ยนเมืองใหม่ให้เป็นสนามรบ ป้องกันการโจมตีจากกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของธุรกิจกาสิโนและเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งยังคงมีการเสริมกำลังทหารเข้ามา และใช้การโจมตีระเบิดทางอากาศ หากฝ่ายต่อต้านกองทัพพม่าชนะ ก็จะเป็นการทลายขบวนการอาชญากรรมครั้งใหญ่ เมื่อประเทศพม่ายังไร้ซึ่งนิติรัฐ นิติธรรม สันติภาพ และประชาธิปไตย 

ความขัดแย้งระหว่างกองกำลังชาติพันธุ์ กองทัพพม่า และผู้สนับสนุนระบบทหารพม่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์เม็ดเงินมหาศาลของธุรกิจสีเทา ต่างกับอดีตที่เป็นความขัดแย้งเชิงอุดมการณ์ ระหว่างความเป็นชนกลุ่มน้อยที่เรียกร้องระบบสหพันธรัฐ กับเผด็จการทหาร 

ประเทศไทย ในฐานะเพื่อนบ้าน ได้รับผลกระทบโดยตรงจากอาชญากรรมข้ามชาติที่ขยายตัวขึ้นทุกวัน ที่ผ่านมา นอกจากการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ จับผู้กระทำผิดปลาซิวปลาสร้อย รัฐบาลไทยได้ทำอะไรที่หยุดยั้งอาชญากรรมเหล่านี้บ้าง 

อีกทั้งนโยบายการต่างประเทศของไทยที่ไม่อยากแทรกแซงกิจการเพื่อนบ้านนั้น ทำให้มีคนไทยมากมายได้รับผลกระทบ หลายครอบครัวหมดเนื้อหมดตัว เป็นเหยื่อธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นคำถามสำคัญในการเลือกตั้ง 2566 ที่ไม่มีพรรคการเมืองไหนบอกได้ชัดว่า จะจัดการสแกมเมอร์ การพนันออนไลน์ และสวรรค์ของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างไร

ท้ายสุดรัฐบาลไทยต้องตัดสินใจใช้มาตรการเด็ดขาดเพื่อป้องปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย-เมียนมาโดยการตัดไฟและตัดอินเตอร์เน็ต ส่วนจะสัมฤทธ์ผลประการใดต้องติดตามกันต่อไป.