In Environment

'หล่มเก่า'ร่วมกับป่าไม้-เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนฯบุกรุกกว่า23ไร่



เพชรบูรณ์-วันที่ 18 ก.พ.2568 นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้ นายกองตรี พรพงษ์ ไหมแพง ชาญชัยภัครธากูร นายอำเภอหล่มเก่า นายพงษ์รัตน์ เมืองปาก ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิก อส. สังกัด ร้อย.อส.อ.หล่มเก่า 5 ลงพื้นที่ โดยบูรณาการร่วมกับนายสยาม วิเศษลา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช 11 (น้ำชุน) พร้อมเจ้าหน้าที่ ร.ต.ท.ศรชัย โพธิมาศ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ และ ร.ต.ท.เผด็จ สันเวียงใหม่ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.31 พร้อมเจ้าหน้าที่ ในการตรวจยึดพื้นที่ป่า ที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าลุ่มน้ำป่าสัก ในบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 9 บ้านห้วยโป่งน้ำ ต.ตาดกลอย ตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าและใช้รถแบคโฮขุดดินปรับพื้นที่บริเวณป่า ก่อนเข้าหมู่บ้านห้วยโป่งน้ำ คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบและพบการกระทำความผิด ปรากฏร่องรอยการใช้รถแบคโฮขุดปรับพื้นที่ดังกล่าว เป็นขั้นบันได ไม่ปรากฏหรือพบผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ โดยคำนวนเนื้อที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมด ได้ 23 ไร่ 61 ตร.ว. อยู่ในพื้นที่ (คทช.) จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 92 ตร.ว. คำนวนเป็นเงินค่าความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 1,580,024.27 บาท 

เจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.ตาดกลอย ได้ความว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนางเอ (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลไว้) ซึ่งได้ขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้คนนอกพื้นที่ไปนานแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ (โดยไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด) ในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ" มาตรา 55 ฐาน "ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น”และตามกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ฐานในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาปา ทำไม้ เก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 26/4 ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการทำลายหรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติ ที่ถูกทำลายสูญหายหรือเสียหายไปนั้น ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า เพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป