Authority & Harm

ยักษ์ขยี้ยักษ์ไฟลุกท่วมมอเตอร์เวย์เจ็บ2



ฉะเชิงเทรา-ยักษ์ขยี้ยักษ์ ทำไฟลุกท่วมมอเตอร์เวย์แต่เช้าตรู่ มีคนขับเจ็บ 2 รายโชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต ขณะแนวรั้วคอนกรีตพร้อมกำแพงกระจกกั้นเสียงทางด่วนพังเสียหายยับยาวถึงกว่า 40 เมตร ทำผู้คนสัญจรใช้เส้นทางขาออกมุ่งหน้า จ.ชลบุรี ชะลอตัวจากการสูญเสียช่องจราจรไป 2 ช่องทาง ด้านตำรวจยังไม่ชี้สาเหตุหลังคนขับทั้งคู่ถูกนำส่งไปยังโรงพยาบาล

วันที่ 27 มิ.ย.64 เวลา 07.40 น. พ.ต.ท.โสภณ โกมลสุทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สทล.1 กก.8 หน่วยสอบสวนเขาดิน ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนกัน ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถยนต์หัวลาก ในช่องทางด่วนทางหลวงพิเศษ สาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา ที่บริเวณหลัก กม.ที่ 47+560 ก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงมุ่งหน้าสู่ จ.ชลบุรี พื้นที่ ม.5 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นช่วงใกล้เชิงสะพานข้ามแม่น้ำด้านฝั่งซ้ายสุด ก่อนถึงจุดพักรถเขาดินประมาณ 1 กม. พบรถยนต์บรรทุกพ่วงขนาด 22 ล้อบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์แบบหางยาว แต่มีการบรรทุกตู้แบบสั้นมาเพียง 1 ตู้ หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-4169 ประจวบคีรีขันธ์ ทะเบียนหางพ่วง 70-4159 ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนของหางพ่วงได้พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ด้านบนหน้ารถของรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อแบบมีถังบรรจุปูนซิเมนผงหมายเลขทะเบียนหัวลาก 97-3325 กทม. ทะเบียนหางพ่วง 97-3579 กทม. จนทำให้คนขับติดอยู่ภายใน 

ส่วนของหัวลากรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ ได้พุ่งเข้าไปชนกับแนวขอบทางด่วนจนได้รับความเสียหายเป็นทางยาวถึงกว่า 40 เมตร และทำให้ตัวรถทะลุออกมายังด้านฝั่งของเชิงสะพานถนนคู่ขนานข้ามแม่น้ำบางปะกง และยังมีเปลวเพลิงลุกไหม้จนท่วมทั้งคัน เนื่องจากเป็นรถที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดก๊าซเอ็นจีวี (CNG) ทราบชื่อคนขับรถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ คือ นายรุ่งโรจน์ บรรดาศักดิ์ อายุ 31 ปี พักอาศัยห้องเช่าอยู่ในเขตพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

มีอาการศีรษะแตกและมีบาดแผลเพียงเล็กน้อยตามร่างกายถูกนำส่งไปยัง รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ส่วนคนขับรถบรรทุกปูนซิเมนผง ติดภายในและได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้ง 2 ข้างอาการสาหัสถูกนำส่งไปทำการรักษายังที่ รพ.บางปะกง ทราบชื่อต่อมา คือ นายดิเรก ไม่ทราบนามสกุล อายุ 50 ปีเศษ โดยทราบจากเพื่อนคนขับบรรทุกที่ขับตามหลังมาว่า ได้ไปรับปูนซิเมนผงมาจากในพื้นที่ จ.สระบุรี เพื่อที่จะนำไปส่งยังในเขตพื้นที่ จ.ชลบุรี 

ขณะที่ พ.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากคนขับรถทั้ง 2 คัน ได้รับบาดจับทั้ง 2 ฝ่าย โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนซึ่งเป็นขับทั้งคู่แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต ส่วนสาเหตุยังต้องรอสอบสวนปากคำจากทั้งสองฝ่ายก่อนว่าขับรถกันมาอย่างไรจึงได้เกิดอุบัติเหตุชนกัน พ.ต.ท.โสภณ กล่าว

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดอุบัติเหตุขึ้น ได้ทำให้การจราจรด้านฝั่งช่องทางขาออกมุ่งหน้า จ.ชลบุรี มีสภาพการจราจรที่ชะลอตัวลง เนื่องจากในช่องทางด่วนได้สูญเสียช่องจราจรไปจำนวน 2 ช่องทางจราจร จากทั้งหมด 4 ช่องทาง แต่โชคดีที่เป็นช่วงเช้าของวันหยุดจึงมีรถสะสมในเส้นทางไม่มากนัก และคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการเก็บกู้ซากรถทั้ง 2 คันเป็นเวลานานเกือบตลอดทั้งวัน 



สนทะนาพร อินจันทร์/ฉะเชิงเทรา